พันธะ5 ห้าม
"แม่ว่าไงนะ!"ทันภัทรร้องถามผู้เป็นแม่ขึ้นด้วยสีหน้าตกใจ เมื่อได้ยินประโยคที่อรอนงค์ผู้ให้กำเนิดตัวเองเอ่ยบอกท่ามกลางโต๊ะกินข้าวมาอย่างนั้น
"หูตึงหรือยังไงผักขา ก็บอกอยู่ว่าวันนี้นายน์จะค้างที่บ้านของเรา"อรอนงค์เอ่ยตอบลูกชายคนโตกลับไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพลางมือก็เอื้อมไปตักหารใส่จานข้าวของอัลฟ่าตัวสูงด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยไม่สนใจสีหน้าของลูกชายว่าตอนนี้แสดงสีหน้าตกใจมากแค่ไหน
"!!!"
"กินเยอะๆนะจ๊ะนายน์"
"ขอบคุณครับคุณน้า"
ในตอนนี้พวกเขาทั้งสามคนได้ย้ายมานั่งรวมตัวกันอยู่ที่โต๊ะอาหาร โดยมีสมาชิกเพิ่มมาอีกหนึ่งคนเป็นสี่นั้นก็คือ อัญชัน ลูกสาวคนสุดท้องของคุณนายอรอนงค์
"ดะ เดี๋ยวสิแม่! ทำไมแม่ให้เขาค้างที่บ้านของเราล่ะ"ด้านผักขาที่พึ่งหายอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ก็เอ่ยถามผู้เป็นแม่ขึ้นด้วยสีหน้างงงวยและไม่เข้าใจ
"ก็เผอิญว่าโรงแรมที่นายน์เขาจองไว้มีปัญหา ทำให้เขาเข้าพักไม่ได้อีกอย่างเลขาเขาก็ติดธุระด่วนเลยไม่ว่างมาหาที่พักใหม่ให้ แม่ก็เลยให้นายน์พักที่บ้านของเรา"อรอนงค์เอ่ยอธิบายให้ลูกชายฟัง แต่ก็ดูเหมือนลูกชายของเธอจะยังคงไม่เข้าใจอยู่ดี
"แต่เขาก็ไปหาโรงแรมใหม่เองก็ได้นี่"
"เอ๊ะ! ไอ้ลูกคนนี้นี่ ทำไมถึงได้ไร้มารยาทขนาดนี้ เอาเป็นว่าแม่จะให้นายน์เขาพักที่บ้านของเราเพราะฉะนั้นเลิกถามแล้วก็กินข้าวซะ"
"แม่...."
"เอาเถอะพี่ผัก ยังไงพี่ก็ขัดใจแม่ไม่ได้อยู่แล้ว ยอม ๆ ไปเถอะ"อัญชันที่นั่งฟังพี่ชายกับแม่เถียงกันอยู่นานก็เอ่ยพูดขึ้นพลางเอื้อมมือไปตักไข่เจียวชะอมมาใส่จานพี่ชาย เพื่อให้พี่ชายตัวเองได้กินของที่ชอบแล้วจะได้ใจเย็นลงบ้าง ทว่าดวงตาหวานก็ลอบมองชายหนุ่มแปลกหน้าที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพี่ชายและเขาอย่างนึกสงสัย
เพราะตั้งแต่ที่อัญชันกลับบ้านมาเขาก็สังเกตเห็นว่าชายหนุ่มตัวสูงคนนี้มักจะวางสายตาไปยังที่พี่ชายของเขาอยู่บ่อยครั้ง
"แม่! อัญ! จมูกผมต้องมีปัญหาแน่ ๆ ผมได้กลิ่นฟีโรโมนของไอ้พี่ผักขาอีกแล้ว!"
เสียงตะโกนโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นพร้อมกับร่างสูงของข้าวเม่าที่พึ่งกลับมาถึงบ้านวิ่งตรงเข้ามา เพื่อพูดหยอกล้อเล่นเหมือนทุกทีที่ผักขาทำไข่เจียวชะอม
"แกจะแหกปากทำไมข้าวเม่า เห็นมั้ยว่าเรามีแขก"เป็นคุณนายอรอนงค์เอ่ยด่าลูกชายคนกลางขึ้นทันที ส่วนข้าวเม่าที่พึ่งจะหันไปเห็นนายน์ที่นั่งส่งยิ้มมาให้ตัวเองบาง ๆ ก็รีบพุ่งตัวไปนั่งเก้าอี้ด้านข้างพร้อมกับเอ่ยชวนคุยทันที
"อ่าวคุณพี่ชายสถาปนิกยังไม่กลับเหรอครับ"
"ยังครับ พอดีโรงแรมที่ผมจองเขามีปัญหาทำให้ผมถูกยกเลิกห้องพัก คุณน้าอรเขาเลยให้ผมพักที่นี้น่ะครับ"นายน์เอ่ยตอบกลับไปยิ้มๆ
"เฮ้ยจริงเหรอ ทำไมโรงแรมแย่แบบนี้อ่ะ แล้วงี้พี่มาดูงานกี่วันอยู่พักที่บ้านผมจนกว่าจะดูงานกับผู้รับเหมาเสร็จเลยก็ได้นะพี่ ค่อยไม่เปลืองค่าที่พัก"ข้าวเม่าเอ่ยพูดขึ้นมารัว ๆ อย่างคนไม่ค่อยจะคิดมากนักพลางมือก็เอื้อมไปจัดแจงตักข้าวใส่จานไปด้วย
แต่หารู้ไม่ว่าประโยคที่ข้าวเม่าพูดขึ้นมานั้น ทำให้พี่ชายของตัวเองที่กำลังเคี้ยวข้าวอยู่นั้นแทบจะสำลักข้าวติดคอ
"ไอ้ข้าวเม่า!แกนั่งเงียบ ๆ มันจะตายหรือไง!"
"อะไรของพี่อีกเนี่ย จะหาเรื่องกันหรือไง"
"หื้ม สิ่งที่ข้าวเม่าพูดมันก็มีเหตุผลนะ ว่าไงจ๊ะนายน์ เรามาดูงานที่นี้กี่วันเหรอ"คุณนายอรอนงค์ที่ดูจะถูกชะตากับนายน์ตั้งแต่แรกที่คุยงานกันผ่านมือถือและยิ่งมาเจอหน้ากันก็ยิ่งดูชอบเข้าไปใหญ่ เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกชายคนกลางเอ่ยพูดแบบนั้นก็เห็นดีเห็นชอบขึ้นมาทันที
"แม่....แบบนั้นจะไม่ทำให้เขาอึดอัดหรือไง"ผักขาเอ่ยแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ
"ผมไม่อึดอัดเลยครับ ผมรู้สึกมีความสุขมากกว่า"
จิ๊! ไม่ต้องมาส่งยิ้มให้เลยนะ!
"โอ๊ยอย่างนั้นหรือจ๊ะแล้วตกลงเราจะค้างกี่วันล่ะ"
"ที่ผมวางแผลนไว้คือ1อาทิตย์ครับ ต้องอยู่รอดูผู้รับเหมาวางเสาร์เขมให้เสร็จก่อนแล้วหลังจากนั้นค่อยกลับมาเช็กความคืบหน้าเดือนล่ะ2-3ครั้งครับ"นายน์เอ่ยตอบอรอนงค์พร้อมกับหันมาส่งยิ้มให้คนร่างบางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ก่อนที่จะตักของชอบอย่างไข่เจียวชะอมยื่นไปใส่จานให้ผักขาต่อหน้าของทุกคน
"อุ้ยอย่างนั้นหรือจ๊ะ งั้นหลังจากนี้เวลามาดูความเรียบร้อยก็ไม่ต้องจองที่พักนะมาพักที่บ้านของน้าได้เลย"
คุณนายอรอนงค์ที่เห็นนายน์ตักไข่เจียวใส่จานของลูกชายคนโตพร้อมส่งยิ้มหวานให้แบบนั้นก็พลันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างชอบใจ ก่อนที่จะเอ่ยชวนเปิดทางให้อัลฟ่าหนุ่ม เพราะเธอนั้นดูออกถึงสายตาที่เด็กหนุ่มตัวสูงนี้ใช้มองลูกชายของเธออย่างแสดงออกว่าชอบอย่างชัดเจน
"งั้นผมต้องขอรบกวนทุก ๆ ครั้งที่มาแล้วล่ะครับ"
"ได้เลยจ้ะ"
"เฮ่ออยากจะบ้าตาย"
ส่วนตอนนี้ผักขานั้นอยากจะยกมือขึ้นมานวดขมับตัวเองเหลือเกิน ทำไมฟ้าถึงได้กลั่นแกล้งส่งให้อีตาคนนี้กลับมาเจอกับตัวเขาอีกครั้งนะ อุสาห์เขาหนีมาได้ตั้ง5ปีแล้ว แถมการกลับมาเจอกันครั้งนี้ดูท่าคุณนายอรอนงค์แม่ของเขาจะชอบอีตาคุณชนาธิปนี้อีกด้วย
เขาไม่น่าไปเห็นรีวิวบริษัทไอ้บ้านายน์นี้แล้วเอามาบอกแม่ของเขาเลย
3วันต่อมา
เวลา19:16นาที
"นี่คุณ คุณไม่ไปพักที่ห้องหรือไง"เสียงใสเอ่ยถามคนตัวสูงที่นั่งดูงานในไอแพดอยู่ที่โซฟาตัวข้างๆกันขึ้น
"ไม่ล่ะครับ กลับไปห้องตอนนี้ผมก็อยู่คนเดียว นั่งทำงานอยู่ที่นี้ดีกว่าไม่เหงาด้วย"ชนาธิปเงยหน้ามาตอบยิ้มๆ ก่อนที่จะก้มหน้าดูงานในไอแพดต่อ
ในตอนนี้ชนาธิปนั้นได้นั่งดูงานของตัวเองอยู่ที่ห้องรับแขก โดยมีผักขาที่กำลังช่วยอัญชันดูเรื่องค่าเช่าหอของเดือนนี้อยู่ด้วย
เดิมทีหอพักตึกนี้เป็นหอที่คุณนายน์อรอนงค์ให้ผักขาดูแลตั้งแต่ที่เรียนจบมาและตั้งใจจะโอนให้เป็นชื่อของผักขา
เธอนั้นตั้งใจจะว่างมือและส่งต่อกิจการต่าง ๆ ของเธอให้กับลูก ๆ โดยให้หอพักนันทพิวัฒน์กับลูกชายคนโตอย่างผักขาและให้ตลาดแกลูกชายคนรองอย่างข้าวเม่า ส่วนอัญชันเธอตั้งใจจะสร้างอพาร์ทเม้นท์ตึกใหม่และส่งให้เธอดูแล
แต่ทว่าอัญชันขอเปลี่ยนกับผักขาเพราะเธอบอกว่ามันนั้นดูจะยุ่งยากเกินไปสำหรับมือใหม่อย่างเธอ เพราะมันต้องคอยไปดูนู่นนี่นั้นและเธอเองก็ยังไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการดูแลตึกและข้าวของที่ต้องหาเข้ามาในตึกเท่าไร่นัก เธอเลยขอดูแลตึกเก่าต่อจากผักขาดีกว่าและยกตึกใหม่ให้ผักขาดูแลแล้วระหว่างที่ตึกกำลังสร้างอยู่เธอก็จะให้ผักขาช่วยสอนสิ่งต่าง ๆ ให้เธอด้วย
"เอ่อนี่พี่ผัก เด็กพี่อ่ะเดือนนี้เขาบอกขอจ่ายช้าหน่อยนะเหมือนน่าจะมีปัญหาเรื่องเงิน"อัญชันที่นั่งดูสมุดบัญชีอยู่เอ่ยพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ เมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
และประโยคที่อัญชันเอ่ยขึ้นมานั้นได้เรียกความสนใจของนายน์ให้เงยหน้าจากไอแพดในมือหันไปมองยังคนร่างบางสลับกับหญิงสาวที่นั่งอยู่ไม่ไกลด้วยเหมือนกัน
"หืม ต้นไม้น่ะเหรอ"
ทำไมไม่ปฏิเสธคำว่า เด็กพี่ ล่ะ
เกิดความสงสัยขึ้นมาในหัวของนายน์ทันที เมื่อผักขาไม่ได้เอ่ยปฏิเสธน้องสาวของตัวเอง แถมท่าทางของผักขายังดูเหมือนจะสนใจคนที่ชื่อว่าต้นไม้อะไรนั้นมากซะด้วย
"ใช่ เห็นบอกว่าเงินออกเมื่อไหร่เดี๋ยวจะรีบทักหาพี่และเอามาให้พี่ทันที"
ทักหา? นี่แสดงว่ามีช่องทางติดต่อกันด้วย?
"อ่อ โอเค ๆ แต่ความจริงให้ต้นไม้จ่ายกับอัญเลยก็ได้นะ เพราะยังไงอัญก็ดูแลตึกนั้นแทนพี่แล้ว"ผักขาเอ่ยพูดขึ้นตามความเป็นจริง เพราะหอพักนั้นเป็นของอัญชันถึงแม้ว่าตอนนี้ตัวผักขาจะดูแลร่วมกับน้องสาวอยู่ก็เถอะ แต่ส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็เป็นอัญชันดูแลเพราะฉะนั้นไม่จำเป็นต้องบอกเขาเรื่องนี้เลยก็ได้
"แหม มันก็ใช่อยู่หรอกแต่ทำไงได้เด็กมันอยากจ่ายกับคนของใจนี้น่า เฮ่อเบื่อคนมีเด็กติดจริง ๆ หนีขึ้นห้องดีกว่า"อัญชันเอ่ยแซวพี่ชายขึ้นอย่างหยอกล้อ ก่อนที่จะเก็บข้าวของแล้วหนีขึ้นห้องไปจริง ๆ ปล่อยให้ผักขานั่งส่ายหน้าให้น้องสาวเบา ๆ อยู่กับนายน์สองคน
"คุณมีแฟนแล้วเหรอ"นายน์เอ่ยถามผักขาขึ้นหลังจากอัญชันเดินขึ้นไปยังชั้นสองของบ้าน พลางนัยน์ตาคมก็จ้องมองมาที่ผักขาด้วยแววตาไม่สบอารมณ์เท่าไหร่นัก
"แล้วคุณยุ่งอะไรด้วย"
"ผักขาผมไม่ตลกนะ"นายน์กดพูดเสียงต่ำพลางหัวคิ้วทั้งสองก็ขมวดเข้าหากันแทบจะเป็นปม เมื่อได้คำตอบที่ไม่ค่อยจะเข้าหูตัวเองสักเท่าไหร่
"แล้วเห็นผมตลกหรือไง"
"ผักขา"
ฟีโรโมนกลิ่นหอมของดอกมะลิเริ่มแพร่กระจายออกมาจากร่างกายของอัลฟ่าตัวสูง เมื่อภายในใจเริ่มขุ่นมัวไม่สบอารมณ์ที่รับรู้ว่าคู่ของตัวเองมีคนอื่นมายุ่งวุ่นวาย
ส่วนด้านผักขาที่รับรู้ถึงกลิ่นฟีโรโมนของนายน์ที่แพร่กระจายออกมาถึงความไม่พอใจ ก็เริ่มเกิดอาการตื่นตระหนกและร่างกายสั่นเทาไปตามสัญชาตญาณ
ชนาธิปหยัดตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพลางก้าวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของร่างบางที่กำลังนั่งตัวสั่นเท่าอยู่บนโซฟาตัวยาว ก่อนที่มือหนาจะเอื้อมไปช้อนค้างของผักขาให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับตัวเองแล้วโน้มใบหน้าเข้าไปใกล้กับใบหน้าหวานและเอ่ยพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
"คุณอย่าลืมสิว่าคุณเป็นคู่ของผมนะผักขา คุณห้ามไปยุ่งกับคนอื่น!"
