บท
ตั้งค่า

บทที่ 7 ไม่มีพิรุธเลยจริง ๆ 1.2

"หึ! กูว่ากูจะแต่งงานกับเธอ"

"ห๊ะ!..มึงจะบ้าเหรอได้กันแค่ครั้งเดียวจะแต่งงานเลยเนี่ยะนะมึงอยากแต่งงานจริง ๆ เหรอเรื่องนี้กูว่า มะ..มึงคิดดูดี ๆ ก่อนนะเว้ย มึงจะบ้าเหรอที่คิดจะแต่งงานกับคนที่มึงเคยเอาแค่ครั้งเดียวอันที่ผู้หญิงคนนั้นอาจจะไม่เรียกร้องอะไรก็ได้ไม่งั้นกู เอ๊ย..เธอคนนั้นจะหนีมา เอ๊ย..หนีไปทำไม" พริกหวานที่ยิ่งพูดก็ยิ่งมีพิรุธพูดผิดพูดถูกไปหมด

ส่วนปลายสายที่ได้ยินคนตัวเล็กร้อนรนพูดตะกุกตะกักก็พาให้กลั้นหัวเราะไม่ไหวยิ่งพูดยิ่งหลุดก่อนจะปรับเสียงให้ดูเครียดเหมือนเดิม

"กูไม่ได้บ้ากูเอาจริงเออ..กูนึกได้แล้วเดี๋ยวกูไปขอดูกล้องจากนิติก่อนก็ได้ยังไงก็ต้องเห็นหน้าบ้างละวะ แค่นี้นะ..." ยังไม่ทันได้วางเสียงแหลมเล็กก็ดังแทรกออกมาด้วยความร้อนรนหนักกว่าเก่า

"ดะ..เดี๋ยวชา..ไอ้ชามึ๊ง...มึงอย่าเพิ่งวางสายนะแล้วก็ไม่ต้องไปขอดูหรอกเดี๋ยวกูสืบให้นะกูขอเวลาสองสามวันแล้วมึงไม่ต้องไปให้ใครช่วยหาอีกนะชาเดี๋ยวกูหาให้เอง" พริกหวานส่งเสียงดังลนลานร้องห้ามทันทีที่คนตัวโตบอกว่าจะให้นิติรีกล้องดู ถ้านิติดูกล้องให้มันก็จะรู้เลยทันทีว่าไม่มีผู้หญิงคนอื่นเลยที่เข้าห้องไปกับมันแถมถ้ารีกล้องตอนเช้าก็จะเห็นได้ว่าคนที่ออกมาจากห้องมันก็คือเธอเองแถมสภาพยังเหมือนถูกรุมโทรมยังไงยังงั้นถ้ามันไม่รู้ก็บ้าแล้ว

"หึ หึ ครับหวังว่าจะรู้ตัวโดยเร็วนะก่อนที่กูจะรอไม่ไหว" ธชาหัวเราะลงคอก่อนจะวางสายปล่อยให้ปลายสายร้อนรนหาทางออกเรื่องที่ตัวเองโกหกต่อไป

ติ๊ด!

หึ! ดูสิว่าเธอจะเล่นอะไรต่อยัยเตี้ยเอ๊ย...แต่คิดถึงว่ะอยากจับฟัดชะมัด

ผ่านวันหยุดสุดสัปดาห์วันนี้เป็นวันที่พริกหวานจะต้องมาทำงานแล้วโดยที่เธอเองยังคิดไม่ตกเลยว่าจะสู้หน้าเพื่อนสนิทได้อย่างไง

ติ๊งง!

หลังจากลิฟต์มาถึงเธอก็เดินเหม่อลอยเข้ามาโดยไม่ได้มองด้วยซ้ำว่ามีใครอีกคนที่ยืนอยู่ในลิฟต์ก่อนหน้านั้น

ทางด้านประธานบริษัทที่ตั้งใจเข้ามาบริษัทเช้ากว่าปกติเพราะอยากเห็นหน้าเพื่อนกึ่งเลขาคนสนิทในฐานะใหม่ที่ตัวเองสถาปนายกย่องให้เป็นเมียโดยที่คนตัวเล็กยังไม่รู้ตัวเช้ามาก็ต้องรีบลุกจากที่นอนเพราะคิดถึงคนตัวเล็กไม่ไหว พอดันได้เจอจริง ๆ ดูเหมือนว่าคนตัวเล็กของเขาจะสติล่องลอยไปไกลเสียแล้วตั้งแต่ลิฟต์เปิดจนลิฟต์ปิด เขาเห็นเธอเดินใจลอยเข้ามาและยืนนิ่งอยู่แบบนั้น ชั้นประจำที่จะขึ้นก็ไม่แม้แต่จะกด จนตอนนี้ลิฟต์มาหยุดชั้นบนสุดสักพักแล้วเธอก็ยังไม่มีทีท่าจะเดินออกจากลิฟต์ทำให้ธชาต้องจับมือของเธอจูงออกมาจนถึงห้องในทำงานพาเธอมานั่งที่โซฟาโดยที่คนตัวเล็กก็เดินตามมาอย่างว่าง่ายเหมือนคนที่ลืมเอาจิตวิญญาณมาด้วย

พริกหวานที่มัวแต่คิดหาวิธีรับมือกับเพื่อนสนิทเธอคิดยังไงก็ยังคิดไม่ตกไม่รู้เลยว่าตัวเองเข้ามานั่งในห้องทำงานได้ยังไงจนได้สติเพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรมาปัดป่ายที่แก้มใสจนเธอได้สติกะพริบตาปริบ ๆ มองไปรอบห้อง

ธชาที่เพิ่งแอบหอมแก้มเพราะอดใจไม่ไหวก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเพียงแค่ทักทายเธอตามปกติถึงแม้จะอยากกอดเธอขนาดไหนแต่ก็ต้องอดใจไว้เพราะเรื่องที่เธอเดินเหม่อลอยจนเขาพาเธอเข้ามาอย่างง่ายดายนั้นทำเอาเขาโกรธอยู่เหมือนกันถ้าไม่ใช่เขาแต่เป็นคนอื่นจะทำยังไงเสียงที่พูดกับเธอจึงเข้มกว่าปกติ

"เตี้ยมึงเหม่อมากนะวันนี้เป็นอะไรวะไหนบอกกูสิ มึงรู้ตัวไหมว่ามึงไม่ได้สติเลยตั้งแต่ที่เข้ามาในลิฟต์ขนาดกูจับมือจูงมึงเดินเข้ามาจนถึงที่นี่มึงก็ยังไม่รู้ตัวเลยแล้วถ้าเป็นคนอื่นพาไปปล้ำมึงจะทำยังไงห๊ะ!!" เสียงดุของเพื่อนสนิททำเอาพริกหวานสะดุ้งก่อนจะเบิกโพลงเพราะคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าหญิงสาวหันรีหันขวางพลางคิดว่าเธอเข้ามานั่งอยู่ในนี้ได้ยังไง

"ชะ...ชา มาได้ไง เอ๊ะ..แล้วเราเข้ามาได้ไงอ่ะ" พริกหวานที่เพิ่งรู้ตัวว่าเข้ามานั่งในห้องทำงานคนตัวโตยิ่งได้เจอหน้าคนที่พาให้คิดไม่ตกก็ทำหน้าตาเลิ่กลั่กร่างบางผุดลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วแต่ยังไม่ทันที่จะก้าวไปไหนก็ถูกคนตัวโตจับไว้

พรึบ!!

"ไอ้ชา..ทะ-ทำบ้าอะไรวะ" พริกหวานถูกธชาดึงขึ้นมานั่งคร่อมบนตักอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยท่าทางล่อแหลมเต้าอวบเกินตัวของเธอบดไปกับอกแกร่งอย่างไม่ตั้งใจมือบางยกขึ้นดันอกแกร่งอัตโนมัติพร้อมกับใบหน้าสวยที่มีท่าทีตกใจอย่างเห็นได้ชัดแต่ถึงเธอจะออกแรงดันเท่าไรมือหนายิ่งโอบรัดเอวคอดกิ่วของเธอเอาไว้แน่นจนไม่มีช่องว่างใบหน้าคมลดมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการชัดเจนตอนนี้พริกหวานนอกจากจะตกใจในการกระทำของเพื่อนสนิทแล้วเธอยังใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูกหรืออาจเป็นเพราะเธอกลัวว่าจะเผยพิรุธออกไปจนมันจับได้เธอถึงได้ใจเต้นแรงขนาดนี้อย่าว่าแต่ใจเต้นแรงเลยขนาดใบหน้าเธอยังรู้สึกเหมือนถูกแดดเมืองไทยแผดเผาเพราะมันยังเห่อร้อนไม่หยุดพริกหวานได้แต่ก้มหน้ามองเพียงปลายนิ้วมือของเธอที่ดันอกแกร่งเอาไว้ เธอรู้สึกว่าร่างกายเธอกำลังไร้เรี่ยวแรงความใกล้ชิดนี้ขนาดนี้มันบ้ามากมันทำให้เธอนึกถึงเรื่องคืนนั้นกลิ่นหอมของกายแกร่งมันทำเอาเธอปั่นป่วนเธอรู้สึกช่วงล่างของเธอมันกำลังมีสัญญาณแปลก ๆ  ธชาที่ลอบมองเสี้ยวหน้าจิ้มลิ้มที่แดงระเรื่อก็อดเอ็นดูไม่ได้จนอยากจะแกล้งเธออีก

"ชาต้องถามว่าเธอเป็นอะไรมากกว่าถึงได้อยู่ในสภาพเหม่อลอยขนาดนี้” เสียงทุ้มกระซิบถามข้างใบหูมันใกล้เสียจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจพาหญิงสาวสั่นสะท้านขึ้นมาอีกระลอก“ทำไม หืม..เดี๋ยวนี้เตี้ยมีความลับกับชาเหรอ "

น้ำเสียงของคนตัวโตยังคงนุ่มทุ้มชวนให้เคลิ้มแล้วยังคำที่ใช้เรียกใหม่นั่นอีก ตอนนี้ทั้งเธอและธชาใกล้กันมากอีกนิดก็จะได้จูบปากกันแล้ว

ลมหายใจผ่าวร้อนที่รินรดแก้มนวลที่ตอนนี้ขึ้นสีชมพูระเรื่อจนเห็นได้ชัด

"ไอ้ชาเป็นบ้าอะไรปล่อยกูนะเว้ย " พริกหวานที่นั่งอยู่ในท่าลามกเริ่มขยุกขยิกไม่เป็นสุขกระโปรงพีชสั้นแค่หัวเข่าเลิกขึ้นจนเห็นต้นขาเรียวสวย แล้วยังมือหนาที่ช้อนก้นของเธออยู่แล้วยังบีบเคล้นแผ่วเบาจนเธอรู้สึกเสียววูบวาบในท้องน้อย เธอรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัย หัวใจเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก

มือบางยกขึ้นดันใบหน้าคมที่ก้มลงเรื่อย ๆ จนได้กลิ่นลมหายใจสะอาดเธอดันหน้าคมให้ออกห่างก่อนที่อะไร ๆ มันจะเลยเถิดแล้วไอ้เพื่อนตัวดีจะจับได้ว่าเธอคือผู้หญิงในคืนนั้นหลังจากที่เธอได้กับมันแล้วเธอก็เพิ่งรู้ตัวว่าพอมันสัมผัสกันนิดหน่อยร่างกายเธอก็เหมือนกับไฟช็อตเลยทีเดียวอีกนิดเดียวเท่านั้นถ้าเธอไม่ผลักมันออกเสียตอนนี้เธอคงได้เอากับมันอีกรอบแน่แล้วคงเป็นเธอเองที่โป๊ะแตกเผยตัวเองออกมา

"ชาแค่จะถามว่าตกลงเธอหาผู้หญิงคนนั้นเจอหรือยัง” ดวงตาคมจ้องใบหน้านวลที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงจัดโดยไม่ละสายตาไปไหน

“แล้วเป็นอะไรทำไมตัวเธอสั่น ๆ ไม่สบายเหรอ" ธชาที่รู้ดีว่าคนตัวเล็กเป็นอะไรก็ไม่วายเย้าแหย่อีกน้ำเสียงแหบพร่าถามกระเส่าชิดข้างแก้มใส

พริกหวานไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นน่าแกล้งน่าฟัดขนาดไหนในตอนนี้"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel