บทย่อ
“อ๊อย... ” เจนนี่ร้องออกมาอย่างอารมณ์เสีย เมื่อนิ้วลำน้อยๆสอดเสียบไม่ได้ดั่งใจ มันคงจะคับแน่นกว่านี้... และเสียวซ่านกว่านี้แน่ๆ ถ้าลำนิ้วน้อยๆ ของตัวเองถูกแทนที่ด้วยดุ้นเนื้อของคุณอาแดเนียลที่ใหญ่ยาวพอๆ กับท่อนแขนของหล่อน ‘บ้าจริง... ’ เจนนี่นึกตำหนิตัวเองที่เผลอคิดออกไปเช่นนั้น ทว่าเสียงร้องด้วยความซ่านสยิวของคู่ขาคุณอาก็ดังขึ้นมารบกวนจิตใจอีกครั้ง หล่อนบอกตรงๆ ว่านึกอิจฉาผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้หญิงชายข้างห้องคงกำลังจัดหนักกันอีกยกแน่ๆ ‘บ้าจริง... อาแดนน์นะอาแดนน์ ทำไมไม่ออกไปเอากันข้างนอกนะ’ เจนนี่หยัดร่างขึ้นจากที่นอน เมื่อจู่ๆ ก็ฉุกคิดขึ้นได้ถึง ‘ตัวช่วย’ ซึ่งอาจจะพอแก้ขัดไปพลางๆ ร่างบอบบางรีบลงมาจากเตียงนอน เดินลงมาชั้นล่างของบ้าน ตรงรี่เข้ามาในครัว เมื่อเหลียวซ้ายแลขวาจนแน่ใจว่าไม่เห็นใครก็รีบเด็ดกล้วยน้ำว้าสีเหลืองอร่ามที่วางรวมอยู่ในกระจาดผลไม้ใกล้โต๊ะกินข้าวขึ้นมาหนึ่งใบ แล้วรีบก้าวยาวๆ กลับขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเอง “อ๊าห์... ” เจนนี่ร้องคร้าง ในสมองนึกถึงแต่เรือนร่างกำยำและดุ้นเนื้อยาวใหญ่ของคุณอาแดเนียล ‘อ๊าห์... คุณอาขาเจนนี่เสียวเหลือเกิน ซี้ด... แรงอีกค่ะคุณอา อ๊อย’ เจนนี่เม้นริมฝีปากแน่น ขณะกล้วยน้ำว้ากำลังเสียบเข้าๆ ออกๆ อยู่ในรูเนื้อฟิตแน่น “อ๊อย” มือเรียวจับกล้วยขยับเป็นจังหวะเข้าๆ ออกๆ สอดเสียบจนกลีบเนื้อขมิบกล้วยแทบขาด ขณะจิตใจกระหวัดไหวไปถึงแต่ใบหน้าสุดหล่อเหลาของคุณอา คงจะดีไม่น้อยถ้าผู้หญิงที่กำลังร้องครวญครางอยู่ใต้ร่างของอาแดนน์เป็นหล่อน... ไม่ใช่ผู้หญิงชื่อโรสผู้โชคดีคนนั้น
ตอนที่ 1
“หนูตัดสินใจแล้วค่ะ... ”
เจนนี่บอกกับบิดาด้วยน้ำเสียงเศร้าสลด ภายหลังจากมารดากับบิดาของหล่อนตัดสินใจแยกทางด้วยการหย่าร้างกัน โดยที่นางยุพินแม่ของหล่อนเลือกที่จะไปใช้ชีวิตอยู่กับสามีใหม่ซึ่งเป็นฝรั่งสูงวัยชาวฝรั่งเศส
เจนนี่ไม่โกรธมารดาที่ทิ้งนายนิวัติไปอย่างไม่ใยดี เพราะว่ามารดาเคยยื่นคำขาดให้บิดาของเธอเลิกเล่นการพนัน หลังจากติดงอมแงมจนมีหนี้สินก้อนใหญ่
ทว่านายนิวัติไม่ยอมเลิก นับวันเขายิ่งเหมือนคนที่โดนผีพนันเข้าสิง ส่งผลให้ชีวิตสมรสต้องล่มสลายในที่สุด ตอนนี้ทั้งบ้านและที่ดินยังติดจำนองอยู่กับธนาคาร มีแววว่าอีกไม่นานคงโดนยึดแน่นอน ถึงตอนนั้นพ่อลูกคู่นี้คงไม่มีที่ซุกหัวนอน
“เรื่องอะไร... ที่ว่าตัดสินใจดีแล้ว”
คนเป็นบิดาหันมาถามลูกสาว ค่อยๆ วางหนังสือมวยตู้ที่กำลังอ่านลงบนโต๊ะ รอฟังว่าลูกสาวกำลังคิดอะไร
“หนูตัดสินใจว่าจะไม่เรียนต่อก็ได้ค่ะ”
เจนนี่บอก
“ไม่ได้นะ... ยังไงหนูก็ต้องเรียน”
นายนิวัติรู้ดีว่าการศึกษาเป็นรากฐานสำคัญของชีวิต ถ้าไม่เรียนก็ไม่มีอนาคต
“เรียนทั้งที่คุณพ่อกำลังถังแตก... ทั้งที่บ้านเรากำลังจะถูกธนาคารยึดน่ะหรือคะ”
หญิงสาวบอกเหตุผลที่ทำให้หล่อนครุ่นคิดเป็นกังวลมาหลายวันจนนอนไม่หลับ กระทั่งตัดสินใจบอกกับผู้เป็นบิดาในวันนี้
“เรื่องหนี้สินแกไมต้องยุ่ง ตอนนี้พ่อกำลังหาทางแก้ไขด้วยตัวเอง พ่อขอโทษในเรื่องที่ผ่านๆ มา พ่อสัญญาว่าจะไม่เข้าบ่อนอีกแล้ว ตอนนี้หนูมีหน้าที่เรียนก็เรียนไปเถอะ อีกไม่กี่วันมหาวิทยาลัยก็จะเปิดแล้วนี่นา”
เจนนี่เพิ่งสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยนานาชาติแห้งหนึ่งที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนครราชสีมา
“ไปเรียนมหาลัยก็มีค่าใช้จ่ายสูงมากนะคะคุณพ่อ อันที่จริงหนูเรียนมหาลัยเปิดก็ได้นะคะ... จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย”
เจนนี่กลัวว่าบิดาของเธอจะส่งเสียไม่ไหว
“เรื่องค่าใช้จ่ายหนูไม่ต้องห่วง... ไว้พ่อจัดการเอง เดี๋ยวแกไปอยู่บ้านเพื่อนพ่อที่วังน้ำเขียว จะได้ไม่ต้องเสียค่าหอพัก”
“เพื่อนพ่อ... ใครคะ?”
หัวคิ้วของเจนนี่ชิดเข้าหากันด้วยความสงสัย
“อาแดนน์ไงล่ะ... จำได้ไหม”
นิวัติหมายถึงแดเนียลซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ตอนนี้เขาทำไร่องุ่นอยู่ที่วังน้ำเขียว แดเนียลเป็นเพื่อนสนิทที่คบหากันมาตั้งแต่ตอนที่นิวัติเคยไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ แม่ของแดเนียลเป็นคนไทยแต่พ่อเป็นคนอิตาลี
“อ๋อ... ”
เจนนี่พยายามทบทวนความจำ
“นึกออกแล้วใช่ไหม... อาแดเนียลเคยมาบ้านเราหลายครั้งตอนที่หนูยังเด็กๆ”
นายนิวัติกล่าวเมื่อเห็นลูกสาวนิ่งไปชั่วขณะเหมือนกำลังใช้ความคิด
“จำได้แล้วค่ะ”
คำพูดของบิดาทำให้ภาพของชายชาวต่างชาติฉายชัดเข้ามาในความทรงจำ เจนนี่ไม่ลืมรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา อาแดเนียลเป็นผู้ชายที่หล่อมาก... ทำไมหล่อนจะจำไม่ได้ ตอนที่เห็นครั้งแรกยังคิดว่าหน้าตาของเขาเหมือนพระเอกหนังฝรั่งยังไงยังงั้น
วันต่อมา
ถึงวันที่นิวัติพาเจนนี่มาส่งที่บ้านของเพื่อนรักซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอวังน้ำเขียวของจังหวัดนครราชสีมา
“สวยมากค่ะคุณพ่อ”
นายนิวัติไม่ได้บอกกับลูกสาวมาก่อนว่าแดเนียลทำอาชีพอะไร หญิงสาวทอดสายตามองดูอาณาบริเวณของไร่องุ่นกว้างใหญ่ด้วยสีหน้าประหลาดใจ ม้าหลายตัวยืนแระเล็มหญ้าอยู่สองข้างทางที่ทอดยาวผ่านทุ่งหญ้าเขียวขจีเข้ามาถึงบริเวณด้านในของไร่
“อาแดเนียลเป็นเจ้าของไร่หรือคะ”
เจนนี่เริ่มอยากรู้
“ใช่... เมื่อก่อนอาแดนอยู่อิตาลี แต่ภายหลังจากตัดสินใจว่าจะมาอยู่เมืองไทยก็ซื้อไร่องุ่นมาจัดการบริหารต่อ ตอนนี้ก็เจริญรุ่งเรืองอย่างที่เห็น”
ขณะที่พ่อลูกกำลังเดินเข้ามายังเทอเรซหน้าบ้านหลังใหญ่ที่ปลูกสร้างสไตล์ล็อกโฮม เจ้าของบ้านก็ปรากฏกายขึ้นพอดี สายตาของเจนนี่จับจ้องอยู่ที่ร่างสูงใหญ่ของแดเนียลที่กำลังเดินตรงรี่เข้ามาหา
“ไอ้เกลอ... ยินดีต้อนรับ ดีใจจังที่ได้เจอ”
เจ้าของไร่องุ่นรีบเอ่ยทักทายสองพ่อลูก ตรงเข้าสวมกอดกับนิวัติ ก่อนจะอ้าวงแขนออกกว้างเพื่อสวมกอดกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“ว้าว... เจนนี่?”
แดเนียลแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เจนนี่สวมกอดร่างกำยำของเพื่อนบิดาด้วยท่าทางเคอะเขิน ยอมรับว่าความรู้สึกมันต่างออกไปจากเมื่อก่อน ไม่เหมือนกับการกอดกันตอนที่หล่อนยังเป็นเด็ก
“สวัสดีค่ะคุณอาแดเนียล”
เจนนี่กระพุ่มมือไหว้ แหงนมองใบหน้าของคนตัวสูงด้วยความตะลึงไม่ต่างกัน
แดเนียลช่างเป็นผู้ชายหล่อเหลามีเสน่ห์ เขาสวมเสื้อลายสก๊อตสีครามสลับส้ม เข้ากับกางเกงยีนส์สีน้ำเงินจาง บนศีรษะสวมหมวกหนังปีกกว้างสีดำ บุคลิกท่าทางของเขาเหมือนกับชาวไร่ในหนังคาวบอยไม่มีผิดเพี้ยน
‘หล่อสุดๆ’
เจนนี่พึมพำในใจ สายตายังไม่ละจากเรือนร่างสูงใหญ่สมชายชาตรี รองเท้าบูทสีน้ำตาลเข้มช่วยเสริมส่งให้ร่างซึ่งสูงตระหง่านเกินกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตรยิ่งดูสูงเด่นขึ้นไปอีก มองไวๆ คลับคล้ายพระเอกหนังคาวบอยรุ่นใหญ่ยังไงยังงั้น
“เรียกอาแดนน์สั้นๆ ก็ได้... ไม่กี่ปีที่ไม่ได้เจอกันอาไม่คิดว่าหนูจะโตเป็นสาวสวยขนาดนี้”
แดเนียลคลายกอดจากเรือนร่างเอิบอิ่ม เขาขยับห่างออกมาเล็กน้อยเหมือนจะมองความอวบอัดสะดุดตาของเจนนี่ให้ชัดๆ ยิ่งโตเจนนี่ยิงสวย ผิวพรรณของหล่อนดู