บทที่ 2 แมวสุดที่รักของโจวฉงเหย่
สิ่งนั้นช่างไม่เข้ากับกระโปรงและลักษณะของเธอโดยสิ้นเชิง ซึ่งทำให้มันดูเตะตาเป็นพิเศษ
ชายคนนั้นจ้องมองไปที่ปลอกคอ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ก่อนที่เธอจะมานี่ ซูเถียนไม่ได้บอกเธอเหรอว่าที่คฤหาสน์ซีซู่นี้ไม่เคยมีใครมาพักค้างคืนมาก่อน?”
ไป๋จือพยักหน้า "เธอบอกฉันแล้วค่ะ"
“งั้นเธอยังกล้าจงใจทำแก้วน้ำแตกอีกเหรอ?”
รอยยิ้มของชายผู้นี้เย็นชายิ่งขึ้น ในสายตาของเขา กลอุบายเช่นนี้ของหญิงสาวทำอะไรเขาไม่ได้หรอก
ก็เป็นได้แค่แสดงฝีมือขั้นต่ำทำให้ตนอับอายก็เท่านั้น...
คนรับใช้เริ่มรู้สึกกังวลถึงสถานการณ์ต่อไปของหญิงสาวคนนี้
แต่ที่น่าประหลาดใจคือ ไม่เพียงแต่เธอไม่ตื่นตระหนกเลย เธอยังยอมรับมันแต่โดยดีอีกด้วย
“ฉันขอโทษนะคุณอาโจว ฉันตั้งใจทำเองแหละ”
“เพราะแฟนเก่าฉันตามรังควานฉันไม่เลิก ซึ่งเขาได้รหัสประตูอพาร์ทเมนต์ของฉันไป คืนนี้ฉันจึงไม่กล้ากลับไปจริงๆ ... แฟนเก่าของฉันชื่อลู่ฮ่าว คุณน่าจะคุ้นเคยกับชื่อนี้ดี"
เมื่อโจวฉงเหย่ได้ยินชื่อนั้น ดวงตาของเขาก็ลุ่มลึกลง
ไป๋จือสังเกตปฏิกิริยาของเขาอย่างเงียบๆ
ตามคาด ขอแค่เปิดเผยชื่อลู่ฮ่าว เขาก็จะไม่นิ่งเฉยอย่างแน่นอน
เห็นได้ชัดว่าเธอเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี แต่ในดวงตาที่ไร้เดียงสาของเธอไม่มีวี่แววถึงการสบตามองไปที่เขา แววตาเธอนั้นดูใสสะอาดจนสามารถมองทะลุถึงหัวใจ แต่ก็ดูแดงก่ำเล็กน้อยพร้อมแฝงไว้ความน้อยใจตอนที่ไป‘จับชู้’ลู่ฮ่าว ส่วนนิ้วมือของเธอก็จับไปที่เข็มขัดที่อยู่ตรงเอว ราวกับว่าเธอกลัวเขาไม่ยอมตกลง
“คุณอาโจว ฉันขอนอนห้องพักแขกสักห้องได้ไหมคะ? ไม่อย่างนั้นฉันคงต้องไปสถานีตำรวจเพื่อแจ้งตำรวจให้ไปจับเขา… ขอร้องล่ะ…”
ตามคาด โจวฉงเหย่วางเอกสานในมือลง
เนิ่นนาน เขาถึงพูดกับคนรับใช้ด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น "พาเธอไปเลือกห้องที่เธอชอบหน่อย"
ไป๋จือยิ้ม
หลังจากขึ้นไปชั้นบน เธอก็กล้าหาญเลือกห้องที่อยู่ติดกับโจวฉงเหย่
เธอรู้ว่า โจวฉงเหย่จะไม่ยอมปล่อยให้ลู่ฮ่าวต้องมีประวัติเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศอย่างแน่นอน พวกคนรวยชนชั้นสูงอย่างพวกเขาก็มักจะเป็นแบบนี้ ชื่อเสียงของพวกเขามีความสำคัญมากกว่าครอบครัวของคนอื่นและชีวิตของคนอื่นซะอีก
แต่สำหรับในคืนนี้ จะใช้เพียงแค่เทคนิคเหล่านี้มายั่วโจวฉงเหย่คงไม่น่าจะพอ
ไม่พออย่างแน่นอน...
ตามคาด โจวฉงเหย่เลือกที่จะไม่ขึ้นไปชั้นบนทั้งคืน
เมื่อใกล้รุ่งสาง ไป๋จือก็ส่งข้อความถึงซูเถียน
“อาของเธอยอมให้ฉันนอนค้างแล้ว คราวหน้าต้องให้เขาสัมผัสตัวฉัน”
พูดจบเธอก็ตัดสินใจแอบทิ้ง "เซอร์ไพรส์" ไว้บนเตียงของเขา...
…
ไป๋จือนั่งรถเมล์กลับไปที่มหาวิทยาลัย
หน้าจอทีวีบนรถเมล์กำลังรายงานข่าวการแต่งงานของโจวฉงเหย่และรั่วเฟย
ที่ด้านล่างของหน้าจอมีการระบุข้อมูลส่วนบุคคลของโจวฉงเหย่ ซึ่งไป๋จือรู้มาก่อนนานแล้ว
บุรุษที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองจิงเป่ย มีธุรกิจครอบคลุมอยู่ทั่วโลก สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด จบปริญญาโทด้านกฎหมาย และปริญญาเอกทางด้านปรัชญา...
แต่ประวัติของรั่วเฟยค่อนข้างเรียบง่าย ปีนี้อายุยี่สิบเจ็ดปี และเป็นผู้ก่อตั้งวีนัส บริษัทจัดการลงทุน
แน่นอนว่าทีวีไม่ได้เขียนเรื่องที่รั่วเฟยอายุได้สิบเก้าปีก็ได้เข้ามาแทรกกลางระหว่างพ่อแม่ของซูเถียนในฐานะมือที่สาม
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า รั่วเฟยใช้ทุกสรรพวิธีในการฆ่าพ่อและสามีของคนอื่น เพื่อที่จะได้แต่งงานกับพ่อของซูเถียน
นิ้วของไป๋จือที่จับที่วางแขนกลายเป็นสีขาวซีด นึกย้อนไปถึงภาพที่พ่อของเธอถูกฟันจนตาย และแม่ของเธอร้องไห้อย่างหนักจนตาบอด เธอกัดริมฝีปากจนสัมผัสได้ถึงเลือด และเธอก็พยายามกลั้นน้ำตาอย่างเต็มที่ จนดวงตาเป็นสีแดงก่ำ
จะแต่งงานเหรอ?
ทำลายครอบครัวของคนอื่น แล้วยังอยากได้รับพรจากคนทั้งโลกอย่างมีหน้ามีตา จะปล่อยให้พวกเขาได้เปรียบได้ยังไง
รั่วเฟย โจวฉงเหย่ ตระกูลลู่ เธอจะไม่มีวันลืมพวกเขาสักคน...
ก่อนที่ไป๋จือจะไปมหาวิทยาลัย เธอจงใจพับผ้าห่มในห้องพักแขกของโจวฉงเหย่อย่างเรียบร้อย
แม่บ้านของโจวฉงเหย่ชมเธอไม่หยุด บอกว่าเธอเป็นหญิงสาวที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี
แต่สิ่งที่แม่บ้านไม่ได้คาดคิดมาก่อนเลยก็คือ
"หญิงสาวที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาเป็นอย่างดี" คนนี้อาศัยโอกาสตอนแม่บ้านเผลอแอบเข้าไปในห้องของโจวฉงเหย่ที่เพิ่งทำความสะอาดเสร็จ
และยัดบางสิ่งไว้ใต้หมอนของเขา
.....
โจวฉงเหย่ได้เห็นสิ่งที่เธอทิ้งไว้เมื่อตอนเที่ยงคืน
หลังจากชายคนนี้อาบน้ำเสร็จ ยังมีหยดน้ำสองสามหยดยังคงอยู่บนศีรษะของเขา มันได้ไหลไปตามลูกกระเดือกของเขาเข้าไปในกล้ามเนื้อหน้าอก เขาที่เกิดมาพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความปรารถนาที่ฟ้าประทาน เพียงแต่ใบหน้านั้นปกติมักจะเต็มไปด้วยความเย็นชา ทันทีที่เขาปิดไฟและนอนลง จู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีวัตถุแข็งดันขึ้นมาโดนท้ายทอยของเขา
โจวฉงเหย่ลุกขึ้นแล้วเดินไปเปิดไฟ ยื่นมือไปจับมัน
กลายเป็นปลอกคอที่อยู่บนคอของหญิงสาวเมื่อคืนนี้
เขาก้มหัวจ้องมองไปที่สิ่งที่เดิมทีไม่ควรอยู่ที่นี่นี้
แต่เนื้อสัมผัสนุ่มมาก ไม่มีกลิ่นหนังที่ไม่พึงประสงค์ มีเพียงรสนิยมที่เป็นเอกลักษณ์ของหญิงสาว
แต่ด้านบน มีหมุดสีทองแข็งปักอยู่เป็นแถว
เช่นเดียวกับตัวเธอ ที่ดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสา แต่จริงๆ แล้วเต็มไปด้วยความทะเยอทะยานและความเฉียบแหลม
นิ้วของชายคนนั้นสัมผัสไปที่ตัวอักษรที่แกะสลักด้วยเลเซอร์ที่อยู่ด้านหลัง
เมื่อพลิกมันกลับมาดู เนื้อหาด้านบนนั้นช่างเลวร้ายเหลือจะทน
"แมวสุดที่รักของ zcy"
ริ้วรอยที่อยู่ระหว่างคิ้วเริ่มลึกขึ้นเรื่อยๆ
ใต้หมอนยังมีข้อความที่เธอเขียนไว้
“คุณอาโจว”
"ฉันอยากนอนกับคุณค่ะ"
.....
เมื่อไป๋จือมาถึงมหาวิทยาลัย รอบตัวเธอเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเรื่องการแต่งงานของโจวฉงเหย่และรั่วเฟย
“ได้ยินมาว่าโจวฉงเหย่คนนั้น เคยเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยของเรา แต่เกิดเรื่องขึ้นเมื่อสิบปีก่อน ดูเหมือนว่าจากนั้นเขาก็ไปต่างประเทศ เลยไม่ได้รับประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัยเรา”
“เขาหล่อมากและคู่หมั้นของเขาก็สวยมาก ดูเหมือนจะเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะดีและมีชื่อเสียง”
ไป๋จือหัวเราะเบาๆ
เคยเห็นสาวผู้สูงส่งวัยสิบเก้าปี ที่ทำให้ครอบครัวของคนอื่นแตกแยกหรือไม่?
ยิ่งมีคนกล่าวถึงการจับคู่ของโจวฉงเหย่และรั่วเฟยมากเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของรั่วเฟยให้คนอื่นได้รับรู้มากขึ้นเท่านั้น
ไป๋จือได้พบกับโจวฉงเหย่อีกครั้งในงานเลี้ยงวันเกิดของซูเถียนช่วงสุดสัปดาห์
ในห้องโถง เธอกำลังดูดเชอร์รี่ด้วยความเบื่อหน่ายขณะรอให้โจวฉงเหย่ปรากฏตัว
รุ่นพี่หลายคนเข้ามาหาเธอ "ไป๋จือ ทำไมเธอถึงมาที่นี่คนเดียว เธอไม่ใช่เพื่อนสนิทที่สุดของซูเถียนหรอกเหรอ? ทำไมงานวันเกิดเพื่อนรักทั้งที พวกเธอสองคนไม่อยู่ด้วยกันล่ะ?"
ไป๋จือพูดอย่างสบายๆ "เราตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว"
ดวงตาของหวังเจียวเป็นประกาย
คำตอบของไป๋จือสอดคล้องกับข่าวที่เธอได้ยิน
เธอได้ยินมาว่าเพื่อนสนิทของไป๋จือแย่งแฟนที่เพิ่งออกเดตได้หนึ่งสัปดาห์ และถูกจับได้ว่ามีแอบไปมีอะไรกัน จากนั้นเป็นต้นมา เทพนิยายระหว่างไอดอลหนุ่มสุดฮอตกับหญิงสาวผู้มีความสามารถก็เป็นอันจบลง - ข่าวลือทำนองนี้ได้แพร่สะพัดไปทั่วมหาวิทยาลัย
หลายคนมามุงกันรอบๆ เพื่อชมความบันเทิง
"เป็นไปได้ไหมที่ลู่ฮ่าวตกหลุมรักลูกสาวเศรษฐีซูเถียน และทิ้งนักเรียนยากจนอย่างเธอไป"
“ฮ่าฮ่าฮ่า น่าสนใจมาก! ฉันคิดว่าฉันจะได้เห็นพล็อตเรื่องน้ำเน่าแบบนี้ในนิยายเท่านั้นซะอีก!”
ไป๋จือเหลือบมองพวกนั้นอย่างเฉยเมยและไม่พูดอะไร
เธอรู้ว่าลู่ฮ่าวเป็นเดือนมหาวิทยาลัย และยังเป็นทายาทเศรษฐีรุ่นที่สองที่เรียนเก่งและมีคุณธรรมสูง หากคบหากับเขา เป็นธรรมดาที่หลายคนต้องรู้สึกอิจฉา
แต่เป้าหมายของเธอไม่ใช่ลู่ฮ่าวตั้งแต่แรก
ไป๋จือบิดเชอร์รี่ "ตอนนี้เขาทิ้งฉันไปแล้ว ฉันไม่ใช่ศัตรูของเธออีกต่อไป วันจันทร์อย่าลืมคืนหนังสือโบราณที่เธอขโมยไปจากฉันด้วยล่ะ หากเธอทำหาย ศาสตราจารย์จางจะไม่ยอมปล่อยไปง่ายๆ แน่"
แน่นอนว่าสีหน้าของหวังเจียวเปลี่ยนไปทันที
"นี่เธอกำลังพูดเหลวไหลอะไร? หนังสือที่เธอยืมมาจากศาสตราจารย์จางเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ??"
ไป๋จือไม่ได้พูดให้ทะลุปรุโปร่ง ดวงตาที่สวยงามของเธอมองไปที่หวังเจียวด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา
หวังเจียวรู้สึกหวาดกลัวกับรูปลักษณ์เช่นนี้ของเธอมากจนตะโกนออกไปเพื่อเอาตัวรอดให้ตัวเองพ้นผิด "ฉันรู้แล้ว เธอทำหนังสือโบราณของศาสตราจารย์จางหายไปเอง แล้วต้องการจะใส่ร้ายฉัน!"
“ฉันจะบอกเธอว่า หยุดคิดแบบนั้นซะ ใครจะรู้ล่ะว่าเธอทำของมีค่าแบบนั้นหายไปเองโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือตั้งใจจะขโมยมันไปกันแน่? ยังไงฉันก็จะบอกเรื่องนี้ให้ศาสตราจารย์จางรู้ จะได้ให้เขาไล่เธอออก!”
ไป๋จือยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์มากขึ้นเรื่อยๆ
“เขาจะไม่ไล่ฉันออก เพราะในวันจันทร์ ฉันจะเอาไปคืนให้แบบตรงเวลาเลย”
หวังเจียวแสดงท่าทีไม่เชื่อเมื่อได้ยินสิ่งนี้
ส่งคืนตรงเวลา? มันจะเป็นไปได้อย่างไร? หนังสือที่ศาสตราจารย์จางให้ไป๋จือยืม เห็นได้ชัดว่าตอนนี้อยู่ที่...