บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 ขอค้างคืนได้ไหมคะคุณอาโจว?

ไป๋จือเปิดประตูห้อง

เสื้อผ้าชายและหญิงกระจัดกระจายอยู่บนพื้น และถุงยางอนามัยที่ยังไม่ได้ฉีกใช้งานห้าถึงหกซองตกเกลื่อนเนื่องจากทั้งสองคนลืมตัวจนปล่อยให้อารมณ์พาไป

“เพี๊ยะ!”

หน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงด้วยความโกรธ เธอตบไปที่ชายคนนั้นอย่างแรงหนึ่งฉาด

“ซูเถียนเป็นเพื่อนสนิทฉัน! นายทำเรื่องแบบนี้กับเธอได้ยังไง?!”

อาการเมาของชายคนนั้นหายไปกว่าครึ่ง

เขาต้องการที่จะโต้แย้ง แต่รูปทรงภายใต้กางเกงของเขาไม่สามารถหลอกลวงได้

“จือจือ ผมเมามาก ผม...ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ผมตื่นขึ้นมาก็พบว่าเธอนอนเสื้อผ้าหลุดลุ่ยอยู่บนตัวผมแล้ว…”

ไป๋จือจ้องมองไปที่ซูเถียนอีกครั้ง

กระดุมเสื้อของซูเถียนหลายเม็ดหลุดออกจากกัน และสายเสื้อในฝั่งหนึ่งหลุดออก เผยให้เห็นไหล่กลมสีขาวเหมือนหิมะของเธอ

เธอลุกขึ้นจากตักของลู่ฮ่าวอย่างเชื่องช้าและดึงสายเสื้อในของเธอให้กลับเข้าที่ "ฉันไม่ได้เป็นคนเริ่ม เขาต่างหากที่เซ้าซี้ฉันก่อน เธอก็รู้ว่าฉันเสพติดเซ็กส์มากจนไม่อาจปฏิเสธหนุ่มหล่อได้ ดังนั้น..."

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกเธอสองคนออกไปจากชีวิตฉันซะ ชายโฉดหญิงชั่ว ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ!”

ไป๋จือพูดจบก็หันตัวกลับไปเช็ดน้ำตาของเธอ

เพียงวินาทีเดียว ความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานทั้งหมดที่รู้สึกเมื่อกี้ก็หายวับไป

เธอกำโทรศัพท์ในมือแน่นขึ้น แววตาแห่งความสุขก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ

…..

หนึ่งชั่วโมงต่อมา

ในรถปอร์เช่สีแดงที่มุ่งหน้าไปยังชานเมือง

ซูเถียนบ่นขณะขับรถ "ให้ตายเถอะ ครั้งนี้ฉันเสียสละเพื่อเธอมากจริงๆ ลู่ฮ่าวคนนั้น ฉันขอบอกเลยว่าเขา - ไม่ได้เรื่อง!"

ไป๋จือยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "เมื่อกี้เธอไม่ได้ทำอะไรด้วยซ้ำ ยังรู้สึกถึงความไม่ได้เรื่องด้วยเหรอ?"

“ไม่ได้เรื่องก็คือไม่ได้เรื่อง มีประโยคหนึ่งกล่าวไว้ว่ายังไงนะ? อ๋อใช่แล้ว ผู้ชายที่ทำงานศิลปะล้วนนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ ฉันล่ะไม่อยากเอา!”

“ใช่ แม้แต่หมาก็ไม่อยากเอาหรอก”

หญิงสาวทั้งสองหัวเราะอย่างมีความสุข ราวกับว่าฉากลักหลับผู้ชายที่พวกเธอเพิ่งจัดฉากไม่ใช่ฉากที่พวกเธอแสดง แต่เป็นฉากที่พวกเธอกำกับและแสดงร่วมกันเป็นทีม

ซูเถียน "อื้ม ตกลงแล้วนะ ฉันจะช่วยเธอกำจัดลู่ฮ่าว ส่วนเธอต้องช่วยฉันกำจัดพ่อเลี้ยงของฉัน"

ซูเถียนรู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อพูดถึงคำว่าพ่อเลี้ยง

เธอรู้ว่าข้อตกลงนี้ไม่ค่อยยุติธรรมนัก เธอแค่วางแผนร้ายกับเด็กหนุ่มคณะศิลป์ที่ชอบหลอกลวงคนนั้น

แต่คนที่ไป๋จือต้องไปล่อลวงคือโจวฉงเหย่ ชายที่รวยที่สุดในเมืองจิงเป่ย

ผู้ชายคนนี้กำลังจะแต่งงานกับแม่เลี้ยงของซูเถียน หากไม่ขัดขวางการแต่งงานของทั้งสองคนนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างซูเถียนกับชายในฝันของเธอจะกลายเป็นญาติตามกฎหมาย!

ถึงเวลานั้น ความสัมพันธ์มันคงกระอักกระอ่วนสุดๆ !

ชายคนนี้เป็นเพื่อนรักต่างวัยของพ่อของซูเถียน ปีนี้เขาอายุสามสิบสี่ปี ซึ่งแก่กว่าพวกเธอถึงสิบสี่ปีเต็ม!

และเขาเป็นผู้ชายที่เข้าใจได้ยากคนหนึ่ง

ว่ากันว่าผู้หญิงที่ต้องการขึ้นเตียงเขา ในวันรุ่งขึ้นจะถูกเปิดเผยภาพโป๊เปลือยหรือประวัติอันดำมืดต่างๆ หรือจู่ๆ พวกเธอจะประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตหรือทุพพลภาพ

หากครั้งนี้ไม่ได้หมดหนทางจริงๆ เธอคงไม่ให้ไป๋จือไปรับความเสี่ยงนี้

ในที่สุด รถก็มาถึงหน้าประตูบ้านเดี่ยวสไตล์อังกฤษในย่านชานเมือง

เสียงของซูเถียนสั่น "จือจือ...ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเธอต้องโทรหาฉันนะ ไม่ว่าการล่อลวงจะสำเร็จหรือไม่ ความปลอดภัยต้องมาก่อนเข้าใจไหม?"

หญิงสาวที่ไม่เขินอายเมื่อต้องนั่งคร่อมชายหนุ่มแล้วปล่อยให้ถ่ายรูปในตอนนั้น ตอนนี้เมื่อพูดถึงโจวฉงเหย่ เธอกลับรู้สึกประหม่าขึ้นมา

ไป๋จือแสดงท่าทีสงบมาก "ไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ยอมให้แม่เลี้ยงของเธอแต่งงานกับเขาอย่างแน่นอน"

หลังจากที่ไป๋จือพูดจบ เธอก็เดินไปที่บ้านหลังนั้นโดยไม่หันกลับมามอง

วันนี้ไป๋จือสวมชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์สง่างาม เมื่อเดินอยู่ในตอนกลางคืน ช่างดูราวกับดอกอุทุมพรที่ส่งกลิ่นหอมจางๆ

ซูเถียนมองดูแผ่นหลังของเธอแล้วคิดว่า เธอสวยขนาดนี้ โจวฉงเหย่คงจะมีเมตตากับเธอหน่อยแหละมั้ง?

“อ้อ มีอีกอย่าง คุณอาโจวของฉันชอบเด็กดี เธอคือเทพธิดาผู้บริสุทธิ์

ของมหาวิทยาลัยเรา เธอทำตัวตามปกติ เขาจะต้องชอบเธอแน่นอน!”

“อื้ม”

ไป๋จือตอบรับว่าเข้าใจแล้ว

แต่...เป็นเด็กดีไหมเหรอ?

เธอหยิบกระจกออกมาส่องดูดวงตาที่ชัดเจนภายใต้แสงจันทร์และไร้เดียงสาของเธอ ซึ่งเธอเพิ่งร้องไห้และตายังแดงอยู่เล็กน้อย

ผ้าพันคอสีขาวน้ำนมถูกผูกไว้รอบคออันละเอียดอ่อนของเธอ

แต่ภายใต้ผ้าพันคอ…

หญิงสาวเม้มริมฝีปากแล้วยิ้ม เผยให้เห็นเขี้ยวของเธอครึ่งหนึ่ง

เธอไม่ได้เป็นคนอ่อนหวานมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว

.......

“คุณอาโจว เพื่อนร่วมชั้นของฉันมาถึงแล้วค่ะ”

พ่อของซูเถียนมีการติดต่อธุรกิจกับโจวฉงเหย่เมื่อตอนที่เธอยังเด็กมาก เธอจึงเรียกโจวฉงเหย่ว่าคุณอาโจวมาตั้งแต่เด็ก และเธอยังคงเรียกเขาว่าคุณอาโจวมาจนถึงทุกวันนี้

ซูเถียนไม่กล้าไปกับไป๋จือ กล้าเพียงแค่โทรไป

"คุณอาโจว เพื่อนร่วมชั้นของฉันเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสามารถซึ่งหาได้ยากยิ่งในรอบศตวรรษของมหาวิทยาลัยเรา สอบได้อันดับหนึ่งในทุกวิชาทุกปี เธอเป็นเด็กดี แค่จะมาขอยืมหนังสือแล้วก็จะไปค่ะ ไม่ได้มารบกวนคุณแต่อย่างใด”

ทันทีที่พูดจบ ไป๋จือก็เปิดประตูวิลล่า

นี่เป็นครั้งแรกที่ไป๋จือได้เห็นโจวฉงเหย่ด้วยตาตัวเอง

ชายคนนี้หันหลังให้กับเธอ มองจากด้านหลังก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขามีรูปร่างที่ดี ในขณะที่อายุสามสิบกว่าแล้ว แต่ยังรักษารูปร่างกล้ามเนื้อได้อย่างสวยงาม แสดงว่าเขามีการจัดสรรการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารในแต่ละวันของเขาเป็นอย่างดี

สวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินคุณภาพสูง และมีนาฬิกาสเตนเลสหรูดูแพงโผล่ออกมาจากข้อมือซ้ายของเขา ทุกการกระทำของเขาแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้ใหญ่และรูปลักษณ์ที่น่าดึงดูดที่สุดของผู้ชาย

มันช่างเย้ายวนมากกว่าเด็กนักเรียนอย่างลู่ฮ่าวไม่รู้ตั้งกี่สิบเท่า

แน่นอนว่าสิ่งเย้ายวนกับปัจจัยเสี่ยงนั้นเป็นสัดส่วนซึ่งแปรผันโดยตรง

เสียงของไป๋จืออ่อนโยนและนุ่มนวล "สวัสดีค่ะ คุณอาของซูเถียน ฉันขอถามหน่อยได้ไหมคะ ว่าห้องหนังสืออยู่ชั้นไหน?"

โจวฉงเหย่ไม่ได้หันมามอง ไป๋จือเห็นเขาพลิกหน้ารายงานทางบัญชีในมือของเขา และสั่ง

คนรับใช้ด้วยเสียงแผ่วเบา "พาเธอไปหน่อย"

เสียงของเขาไพเราะมาก ราวกับน้ำแข็งและหิมะแรกบนภูเขา หรือเหมือนเหล้าแรงสีเหลืองอำพันที่กลมกล่อม

เพียงแค่ดมกลิ่นก็ทำให้คนเมาลุ่มหลงแล้ว ไป๋จือกล่าวขอบคุณอย่างนุ่มนวล

ในมุมที่ไม่มีใครเห็น เธอเผยรอยยิ้มอันมีเสน่ห์

เธอชอบเทพบุตรที่อ่อนโยนและเย็นชาเช่นนี้อยู่แล้ว

เธอต้องการดึงเขาลงมาจากสวรรค์ให้อยู่ด้วยกัน และจะฉีกเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินของเขาที่มีกระดุมติดอยู่เพียงสองสามเม็ดออกให้หมด

......

ห้องหนังสือของโจวฉงเหย่มีขนาดใหญ่มาก

หลังจากที่ไป๋จือเข้าไปในห้องหนังสือ เธอก็แกล้งทำเป็นหญิงสาวผู้รักการอ่าน และใช้เวลาสองชั่วโมงเต็มในการเลือกหนังสืออยู่ชั้นบนอย่างเงียบๆ

ในความเป็นจริง เธอได้รับสิ่งที่เธอต้องการแล้ว มีสิ่งนี้ วิกฤติที่มหาวิทยาลัยในสัปดาห์หน้าจะต้องคลี่คลายได้อย่างแน่นอน แต่เนื่องจากไม่มีใครมาเร่งเธอ เธอจึงอยากจะอยู่เล่นที่นี่ต่ออีกสักพัก

จนกระทั่งโทรศัพท์สั่น

ซูเถียนส่งข้อความ "จือจือ สองชั่วโมงแล้วนะ เธอยังไม่ตายใช่ไหม?"

“อื้ม”

“แล้ว...เธอได้นอนกับคุณอาของฉันหรือยัง?”

ไป๋จือเงยหน้าขึ้นและมองออกไปนอกประตู

“ยัง”

“แต่ใกล้แล้ว” หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เธอก็สำทับไปอีกประโยค

เพล้ง!

ทันใดนั้น โจวฉงเหย่ซึ่งกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ก็ได้ยินเสียงแก้วแตกจากห้องอ่านหนังสือ

คนรับใช้รีบขึ้นไปชั้นบนเพื่อดูเหตุการณ์ในทันที แต่ก่อนที่เขาจะก้าวขึ้นบันได หญิงสาวก็เดินลงมาด้วยสายตาอ้อนวอน

“คุณอาโจว ฉันบังเอิญทำแก้วน้ำตกจนเสื้อผ้าเปียก ขออาบน้ำและนอนค้างบ้านคุณคืนหนึ่งได้ไหมคะ?”

คราวนี้ เธอยืนอยู่ต่อหน้าโจวฉงเหย่ และออกตัวพูดกับเขาโดยตรง

นี่เป็นครั้งแรกที่โจวฉงเหย่ได้เห็นรูปลักษณ์ของหญิงสาวผู้ซึ่งเข้ามาหาในคืนนี้

เท้าของหญิงสาวเปลือยเปล่า และกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ของเธอก็เปียกโชกไปด้วยรอยน้ำขนาดใหญ่ ครึ่งหนึ่งของกระโปรงแนบชิดกับตัวของเธอ ทำให้เห็นขาเรียวตรงคู่นั้นของเธอจางๆ

เธอเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ดูเป็นเด็กดีและเฉลียวฉลาด

ซูเถียนเคยบอกว่าเธออายุเท่ากับซูเถียน ดังนั้นเธอคงกำลังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แต่เนื่องจากนิสัยของเธอ จึงทำให้เธอดูเด็กกว่าซูเถียนอยู่มาก ถึงขนาดว่าหากมองแต่รูปลักษณ์ภายนอก อาจจะคิดว่าเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะด้วยซ้ำ

แต่--

เขาแค่มองดูเธอสักพัก ก็รู้ได้ว่าเธอไม่ได้เป็นเด็กดีเหมือนที่ซูเถียนพูดไว้

ดังเช่น เห็นได้จากปลอกคอที่เธอใส่มาในวันนี้

มันเป็นของสำหรับผู้ใหญ่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel