บทที่ 3
“เต้นเก่งมากด้วยค่ะ คุณอย่าลืมสิคะว่า ลิซ่าแม่ของมาลีเป็นนักเต้นโชว์มาก่อน เธอสอนให้มาลีเต้นตั้งแต่เด็กๆ ค่ะ เต้นเก่งไม่แพ้มืออาชีพเลย และท่าเต้นหลายท่าที่เป็นท่าใหม่ๆ ก็เป็นความคิดของมาลีด้วย ชุดบางชุดมาลีก็เป็นคนออกแบบเองค่ะ” เอมม่าเป็นคนตอบแทน “แต่ถึงจะเต้นเก่งยังไง มาลีก็ไม่เคยได้เต้นโชว์เพราะเฮนรี่หวงมาลีมาก มาลีทำได้แค่สอนเต้นค่ะ”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง”
“มาลีอยากให้แด๊ดภูมิใจในตัวมาลี มาลีอยากให้เดอะมูนชนะค่ะ มาลีจะเอาถ้วยรางวัลมาประดับไว้ในบาร์เดอะมูนให้ได้” อัญญ์มาลีมีความหวังเต็มเปี่ยม หล่อนสู้เพื่อการประกวดครั้งนี้ “นะคะอาริค ให้มาลีได้ทำตามฝันของตัวเองนะคะ”
มือเรียวสวยจับแขนริชาร์ทแล้วเขย่าเบาๆ ซบหน้าลงบนท่อนแขนของเขา ถูเบาๆ ราวกับแมวกำลังอ้อนเจ้าของ ริชาร์ทรู้สึกเอ็นดูท่าทางอ้อนของอัญญ์มาลี เขาเผลอยิ้มหลุบตามองสาวสวยที่เงยหน้ามองตนพอดี ส่งผลให้นัยน์ตาของทั้งคู่สบประสาน ระยะห่างใบหน้าทั้งสองราวๆ สองคืบ
หัวใจอัญญ์มาลีเต้นระรัว นัยน์ตาสีน้ำทะเลของเขามีเสน่ห์เหลือเกิน ยิ่งมองยิ่งหลงใหลใจไหวหวั่น หล่อนแอบหลงรักริชาร์ทตั้งแต่แรกเห็น ตอนนั้นหล่อนอายุเพียงสิบสองปีกำลังแตกเนื้อสาว หัวใจไร้เดียงสาเบ่งบานราวกับดอกไม้แรกแย้มในแสงแรกของดวงตะวันยามเช้า รอยยิ้มที่เขาส่งให้ตนวันนั้นยังตรึงตาตรึงใจ และนับตั้งแต่นั้น อัญญ์มาลีไม่เคยมองชายใด หัวใจหล่อนมีแต่ริชาร์ท ปรารถนาให้เขาเป็นสามีของตน แม้ว่าความหวังจะห่างไกล ทว่าอัญญ์มาลีไม่เคยละทิ้งความหวังนั้น บอกกับตัวเองว่า หากมีโอกาสจะไม่ปล่อยให้เขาหลุดมือ
ริชาร์ทก็ดูเหมือนว่า จะตกลงไปในบ่วงเสน่หา นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่นี้มีพลังดึงดูดมากมาย ราวกับมีเชือกเกี่ยวใจเขาให้ใกล้ชิดดวงใจดวงน้อยๆ ของอัญญ์มาลี เขาผ่านผู้หญิงมามากมายที่สวยกว่าอัญญ์มาลีหลายเท่า ระดับนางงาม นางแบบและนักแสดง รวมถึงนักร้องชื่อดัง แต่ไม่มีใครเลยที่ทำให้หัวใจเขาสั่น และมีความรู้สึกอยากอยู่ชิดใกล้เท่าสาวน้อยคนนี้เลย ทว่าเขาต้องหักห้ามใจอย่างหนัก ย้ำเตือนจิตใจว่า อัญญ์มาลีคือลูกสาวของผู้มีพระคุณ ที่ต่อจากนี้ไปเขาคือผู้ปกครองหล่อน จะคิดกับอัญญ์มาลีเป็นอื่นไม่ได้ ริชาร์ทรีบดึงสติที่กำลังเตลิดกลับมา
“ได้สิ อาอนุญาต” อัญญ์มาลียิ้มกว้าง และทำในเรื่องที่ริชาร์ทไม่คาดคิด ไม่ทันตั้งตัว
“ขอบคุณค่ะอาริค อาริคน่ารักที่สุดเลย” อัญญ์มาลีพูดจบก็ กดปลายจมูกลงบนแก้มริชาร์ทแรงๆ สูดดมกลิ่นหอมจากแก้มเขาที่โชยมาพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมผู้ชายเย้ายั่วใจ “มาลีไปเตรียมตัวก่อนนะคะ อีกครึ่งชั่วโมงเราจะไปบาร์กัน”
อัญญ์มาลีเดินไปยังบันไดบ้านด้วยรอยยิ้ม แก้มทั้งสองข้างแดงระเรื่อ ร้อนผ่าวๆ ด้วยความเขินอาย และไม่คิดว่าตนเองจะทำแบบนั้นได้ เดินตามอัญญ์มาลีไปติดๆ ปล่อยให้ริชาร์ทนั่งนิ่งที่อยู่ในอาการอึ้งคนเดียวในห้องรับแขก แล้วเผลอยกมือลูบแก้มข้างที่ถูกหอมเบาๆ แล้วคลี่ยิ้ม
บาร์เดอะมูน
หนึ่งชั่วโมงครึ่งต่อมาริชาร์ทกับอัญญ์มาลีเดินทางมาถึงบาร์เดอะมูน ที่เวลานี้เปิดใช้บริการและมีลูกค้าเข้ามานั่งดื่มนั่งฟังเพลงกันจำนวนหนึ่ง อัญญ์มาลีกับเอมม่าเดินเข้าไปทางด้านหลังของร้านเพื่อเตรียมตัวแสดงโชว์ ริชาร์ทกับลูกน้องเดินมานั่งตรงโต๊ะด้านหน้าใกล้กับเวที เพื่อที่เขาจะได้เห็นอัญญ์มาลีเต้นโชว์ได้ถนัดตา ไม่มีใครบดบังทัศนียภาพ
ห้องแต่งตัวคือจุดหมายของสองสาว พอก้าวเข้ามาในห้องก็พบว่า มีนักเต้นสาวอีกสามสี่คนมาถึงแล้วและกำลังแต่งหน้าทำผมแต่งตัวเพื่อแสดงโชว์
“ตื่นเต้นจังเลยพี่เอมม่า” อัญญ์มาลีบอกเอมม่าขณะหยิบชุดที่แขวนอยู่บนราว หล่อนรับรู้ถึงแรงสั่นของมือ จนต้องเก็บเสื้อที่หยิบไว้เมื่อครู่แขวนตามเดิม นำมือมาประสานด้วยความตื่นเต้นที่ตนจะได้เต้นโชว์เป็นครั้งแรก และตื่นเต้นยิ่งกว่าที่การแสดงโชว์ของตนค่ำคืนนี้มีริชาร์ทรอชม
“พี่เข้าใจมาลีนะ ครั้งแรกที่พี่เต้นพี่ก็ตื่นเต้นเหมือนมาลีนี่แหละ” เอมม่าเข้าใจความรู้สึกอัญญ์มาลี เพราะหล่อนเองก็เคยผ่านช่วงเวลานี้มาก่อน “ทำใจให้สบายๆ หายใจเข้าปอดลึกๆ คนเรามีครั้งแรกเสมอ ทุกคนในห้องนี้ก็เหมือนกัน ผ่านการเต้นครั้งแรกมาด้วยกันทั้งนั้น พี่เชื่อว่ามาลีทำได้และทำได้ดีด้วย”
“ค่ะ มาลีจะทำให้เต็มที่ค่ะ” อัญญ์มาลีมีกำลังใจขึ้นมา
“เพลงแรกที่มาลีเต้น เป็นท่าเต้นที่มาลีสอนพวกพี่ๆ เชื่อเถอะว่า มาลีทำได้แน่นอน” เอมม่าให้กำลังใจเพิ่ม
“สาวๆ แต่งตัวแต่งหน้ากันได้แล้วนะ อีกครึ่งชั่วโมงโชว์แรกจะเริ่มแล้ว” เคธี่ผู้จัดการร้านและเป็นหัวหน้านักเต้นโชว์เดินมาบอกอัญญ์มาลีกับเอมม่า หล่อนยิ้มให้ลูกสาวเจ้าของบาร์ ยกมือทั้งสองข้างวางลงบนบ่าของอัญญ์มาลี “วันนี้ความฝันของเธอจะเป็นจริงแล้วนะ ทำมันให้เต็มที่ ทำให้สุดพลังและความสามารถ ฉันเชื่อ