Chapter 5 อสุรกายร้าย 2
“เจ้าจะจากข้าไปงั้นหรือมิรันดา...” เจ้าของดวงตาสีแดงเพลิงจากคำสาปร่ำไห้ มองหญิงชราอายุแปดสิบกว่าด้วยความรวดร้าว
“ข้าอยากอยู่กับท่านเคานต์ให้นานที่สุด แต่ข้าไม่อาจฝืนสังขารได้”
มิรันดาอยากจะบอกรักเคานต์กาแอลเหลือเกิน ในนาทีสุดท้ายของชีวิตเธออยากให้เขาได้รับรู้ความในใจของเธอ ทว่า...ยามนี้เธอเป็นหญิงชราหน้าตาเหี่ยวย่นน่าเกลียด แตกต่างจากเขาซึ่งยังคงหนุ่มแน่นราวกับกาลเวลามิอาจพรากความเยาว์วัยไปจากเขาได้เลย
เธอไม่กล้าที่จะเอื้อนเอ่ยคำนั้นออกไป ได้แต่ยิ้มบางๆ ที่มุมปากก่อนจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบโดยมีอ้อมแขนอบอุ่นของผู้เป็นนายเหนือหัวอันเป็นที่รักโอบกอดเอาไว้แนบแน่น
ความทรงจำยังคงแจ่มชัด ร่างหมาป่าค่อยๆ กลับกลายเป็นมนุษย์อีกครั้ง กาแอลทรุดตัวลงนั่งบนชะง่อนผา ก่อนจะร้องไห้ออกมาด้วยความโศกเศร้าที่กัดกินหัวใจจนขาดวิ่น โดดเดี่ยวและอ้างว้างเหลือเกิน คิดถึงผู้หญิงแสนดีที่จากเขาไปตลอดกาล...
ผู้หญิงที่ยืนหยัดคอยดูแลเขาโดยไม่ปริปากบ่น หลายครั้งที่เขาอารมณ์ร้ายทำลายข้าวของ หรือขับไล่เธอไปให้พ้นด้วยต้องการอยู่คนเดียว แต่เธอก็ไม่เคยทิ้งเขาไปไหน ยังคงยืนยิ้มเป็นกำลังใจให้เขาเสมอมา
“มิรันดา...ดวงวิญญาณบนสรวงสวรรค์ของจ้าโปรดจงรับรู้ว่าข้าคิดถึงเจ้าเหลือเกิน”
มีเรื่องเล่าขานสืบต่อกันมาหลายสิบปี ในป่าดงดิบใกล้ชายแดนพม่าของไทย มีอสุรกายร้ายเร้นกายหลบซ่อนอยู่ หากผู้ใดอยากมั่งมีเงินทองให้นำหญิงพรหมจารีไปเซ่นไหว้บูชา แล้วสวดอ้อนวอนขอในสิ่งที่ต้องการก็จะสุขสมดั่งคำปรารถนา เมื่อครบ 7 วันหญิงสาวซึ่งถูกพร่าผลาญพรหมจารีจะถูกปล่อยตัวกลับออกมาจากป่าพร้อมกับความทรงจำที่ขาดหาย บ้างก็พบเพียงศพนอนเปลือยเปล่าอยู่ในป่ารกร้าง...
‘แกจะทำอะไรฉัน ปล่อยฉันนะ ฉันบอกให้ปล่อย!’ หญิงสาววัย 18 ปีหวีดร้องเสียงหลงเมื่อจู่ๆ พ่อเลี้ยงก็ปราดเข้ามาจับแขนทั้งสองข้างของเธอบิดแรงแล้วไพล่ไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว
‘ฉันเลี้ยงแกมาหลายปี ถึงเวลาแล้วที่แกจะต้องตอบแทนบุญคุณฉันบ้าง’ ยศพลหัวเราะเหี้ยมขณะใช้เชือกเส้นใหญ่มัดรอบข้อมือของหญิงสาวเอาไว้อย่างแน่นหนา แม้ลูกเลี้ยงสาวจะพยายามดิ้นรนขัดขืน แต่รูปร่างบอบบางหรือจะสู้ชายฉกรรจ์ที่ทำงานหนักแบกหามไม่ต่างจากกุลีอย่างเขาได้
‘ปล่อยฉัน ถ้าแม่รู้แม่เอาแกตายแน่!’ มนรดาตวาดแหวพยายามข่มขู่พ่อเลี้ยงใจทราม ทว่านอกจากจะไม่ได้ผลแล้วมันกลับหัวเราะราวกับขบขันเสียเต็มประดา
‘แม่มึงรักกูหลงกูจะตายไป กูแค่โกหกว่ามึงหนีตามผู้ชายไปเสียก็สิ้นเรื่อง’ หนุ่มใหญ่วัยกลางคนไม่พูดเปล่า คว้าเชือกอีกเส้นมัดข้อเท้าของหญิงสาวเอาไว้อย่างรวดเร็ว ใจจริงเขาอยากจะเก็บเด็กสาวคนนี้เอาไว้เสียเอง เพราะยิ่งโตเธอก็ยิ่งเป็นสาวสะพรั่งน่าหลงใหล แต่พอเขาได้ยินตำนานอสุรกายหมาป่าในวงเหล้า อีกทั้งยังมีคนที่ร่ำรวยจริงจากการเซ่นไหว้บูชาด้วยหญิงพรหมจรรย์ เขาก็เกิดความโลภ!