Chapter 2 สาวพรหมจารี 4
“อือ...”
หญิงสาวผวาสุดตัวเมื่อจู่ๆ เขาก็ดันปลายนิ้วเข้าไปจนสุด ความคิดเมื่อสักครู่ถูกซัดหายแทนที่ด้วยความเสียวซ่าน
“กา...แอล ดะ...ได้โปรด”
“ขอร้องข้าอีกสิ ขอร้องข้า...เร็วเข้า”
หญิงสาวสะบัดหน้าแรงๆ ไม่! เธอไม่ควรขอร้องเพราะมันดูไร้ยางอาย เธอถูกสอนมาในกรอบวัฒนธรรมให้ผู้หญิงห้ามแสดงออกเรื่องเพศ เพราะจะกลายเป็นผู้หญิงร่านไม่รักนวลสงวนตัว เธอจึงพยายามฝืนใจ พยายามปฏิเสธเขา
“ฉันทรมานค่ะ กรุณาหยุด! ได้โปรดหยุด!”
“แน่ใจหรือว่าเจ้าอยากให้ข้าหยุด” เขาหยักยิ้มที่มุมปาก เป็นยิ้มที่กระตุกหัวใจของหญิงสาวให้เต้นไม่เป็นจังหวะ ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ใช้ปลายลิ้นเลียริมฝีปากของตนเองไปมา
นาทีนี้ร่างกายของเธอต้องการให้เขาละเลงลิ้นลงบนกลีบสวรรค์ของเธอ ต้องการให้นิ้วของเขาสอดชำแรกตรวจตราเข้าไปในกายเธอ เธอต้องการเขาเหลือเกิน
กาแอลไม่เคยรู้สึกสนุกกับการร่วมสังวาสมาก่อนเลย ทุกครั้งที่เขาหลับนอนกับสาวพรหมจรรย์ เขาทำเพียงเพราะต้องการล้างคำสาปเท่านั้น ทว่ากับผู้หญิงคนนี้กลับแตกต่าง เขาไล่เลียกุหลาบหวานแล้วดื่มกินน้ำเชื่อมที่หลั่งไหลออกมาอย่างไม่รังเกียจ ทั้งที่เขาไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนมาก่อน เธอเป็นคนแรกที่เขาอยากจะลิ้มรสตัวเธอ แล้วรสชาติกลิ่นสาบสาวของเธอก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง...
“ว่ายังไงเจ้ายังอยากให้ข้าหยุดอยู่หรือเปล่า”
หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะส่ายหน้าไปมาด้วยความสับสน หอบหายใจแรงเมื่อปลายนิ้วหนาบดขยี้ลงบนกลีบกุหลาบแรกแย้มเป็นจังหวะต่อเนื่องก่อนที่จังหวะเนิบจะเร็วขึ้น เร็วขึ้นจนเธอหอบหายใจแรง บิดเกร็งจิกปลายเท้าลงบนผ้าปูที่นอนอย่างไม่อาจต้านทานความเสียวซ่านที่เธอเพิ่งเคยได้สัมผัสเป็นครั้งแรกได้เลย มันทรมานคล้ายจะขาดใจแต่มันก็ซ่านหฤหรรษ์จนไม่อยากให้เขาผละจากไป
“อาห์...”
“สะ...เสียวจัง ซี๊ด...” มนรดาครวญครางเสียงกระเส่า บิดกายไปมาคล้ายกำลังจะขาดใจ
แล้วหญิงสาวรู้สึกราวกับภายในร่างกายตอดรัดนิ้วของเขาอย่างรุนแรงจนเธอสั่นสะท้านไปหมดทั้งตัว คล้ายว่าเธอถูกดึงขึ้นไปบนท้องฟ้าเบื้องบนแล้วทิ้งตัวดิ่งลงมายังพื้นพิภพเบื้องล่างอย่างรวดเร็ว มันเป็นความรู้สึกที่เธอก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายมันออกมาได้อย่างไร
“มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น...ราตรีนี้ยังยาวนานนัก”
มนรดาระทวยอยู่ในอ้อมกอดของอสุรกายหนุ่มอย่างหมดท่า ใบหน้าหวานแดงจัดด้วยความเขินอาย เมื่อสักครู่เธอมีความสุขจนเผลอแอ่นสะโพกเบียดเข้าหาใบหน้าของเขาที่ก้มต่ำโลมเลียกลางหว่างขาเพื่อดูดกลืนน้ำหวานอย่างดูดดื่ม มันน่าอายเสียจนเธอไม่กล้าแม้แต่จะสบตาเขา
“มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น...ราตรีนี้ยังยาวนานนัก”
หมาป่าหนุ่มไม่พูดเปล่าแต่กลับก้มลงบดจูบริมฝีปากอิ่มที่กำลังร้องปฏิเสธ คราวนี้เขาจูบแรงดุดันบ่งชัดว่านี่ไม่ใช่การโหมโรงอีกต่อไป แต่มันคือการพร่าผลาญพรหมจรรย์เพื่อล้างคำสาป คำสาปจากแม่มดร้ายที่ไม่มีอำนาจใดจะลบล้างคำสาปได้