บท
ตั้งค่า

ลูกสะใภ้(1)

ตอนที่ 2

ลูกสะใภ้

เช้าวันต่อมาหลังจากที่ส่งสามีไปทำงานเรียบร้อยแล้ว กชกรก็รีบทำอาหารให้ลูกและแม่ของเธอ น่าเสียดายที่ครองภพมีประชุมแต่เช้าทั้งยังนัดลูกค้าไว้ช่วงสายอีกด้วย เขาจึงต้องรีบออกไปทำงานตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสว่าง ชายหนุ่มฝากหญิงสาวขอโทษแม่ของเธอที่เขาไม่ได้อยู่ทักทาย และเพื่อแสดงความรู้สึกผิดอย่างจริงใจก็ได้สังคมให้นำกระเช้ามาส่งที่บ้านเพื่อมอบให้แม่ยายเพื่อเป็นการไถ่โทษ

สิ่งที่ครองภพแสดงทำให้หญิงสาวนั้นรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมาก และเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอนั้นรักเขามากขึ้นทุกวันๆ

“ตื่นแต่เช้าเลยนะลูก”

หญิงวัยกลางคนเดินลงมาพร้อมกับหลานสาวตัวน้อย ทั้งสองอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเนื่องจากแม่ของกชกรนั้นต้องออกไปแต่เช้า กชกรก็จะต้องพากวินตราไปหาปู่กับย่า จึงได้รีบทำอาหารให้ทั้งสองกินก่อนออกจากบ้าน

“คุณแม่กินข้าวก่อนนะคะ หนูทำข้าวต้มกุ้งไว้ให้ แล้วก็มีน้ำเต้าหู้ด้วยค่ะ”

แม้เธอจะเป็นเพียงลูกแม่ค้าธรรมดา แต่เพราะว่าแม่ของเธอนั้นเติบโตมาในครอบครัวที่เคร่งครัดเรื่องมารยาท จึงพยายามสั่งสอนลูกหลานเรื่องคำพูด นี่เป็นเหตุผลที่กชกรนั้นเป็นคนพูดเพราะและพูดจามีหางเสียงอยู่เสมอ

“ไม่เห็นต้องลำบากเลยลูก แม่ออกไปกินข้าวข้างนอกก็ได้”

หญิงวัยกลางคนรู้สึกเกรงใจ เพียงแค่กชกรต้องดูแลลูกและสามีก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้วยังต้องมาหุงหาอาหารให้เธออีก

“ไม่ลำบากเลยค่ะคุณแม่”

หญิงสาวพูดด้วยความเต็มใจ เธอชอบดูแลคนอื่นมาตั้งแต่เด็ก เลยไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเวลาที่ต้องมานั่งดูแลใครๆ กชกรมีความสุขที่ได้เห็นทุกคนสุขกายสบายใจภายใต้การดูแลของเธอ และหญิงสาวยืนหยัดมุ่งมั่นที่จัดทำหน้าที่ดูแลผู้อื่นต่อไป

“แล้วคุณแม่จะไปไหนบ้างคะ”

หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนที่หญิงวัยกลางคนจะแจกแจงแผนการเดินทางของตัวเองในวันนี้ให้ลูกสาวฟัง เธอมากรุงเทพฯเพื่อเยี่ยมเพื่อนและซื้อของไปขายที่ร้าน

กุสุมาเปิดร้านขายของชำเล็กๆอยู่ในหมู่บ้าน เนื่องจากว่าอยู่ในถิ่นที่ค่อนข้างทุรกันดารจึงไม่มีร้านสะดวกซื้อ แม้ว่าร้านของเธอจะเป็นร้านเล็กๆในสายตาคนเมืองแต่ก็ถือว่าเป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน

ห้องแถวขนาดสองคูหาเปิดเป็นร้านขายของชำสารพัดอย่าง ทั้งตอนเช้ายังมีของสดขายจนถึงเที่ยง แม้ว่าตอนหลังจะมีร้านค้าผุดขึ้นอีกหลายร้านแต่ถึงอย่างนั้นคนเก่าคนแก่ในหมู่บ้านก็ยังเดินทางมาซื้อของที่ร้านเธอ

แม่ของกชกรเป็นคนใจบุญ เนื่องจากในหมู่บ้านนั้นอยู่ติดกับโรงโม่หิน ทำให้ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนงานของโรงโม่และเงินเดือนออกอาทิตย์ละครั้ง แต่เนื่องจากร้านขายของชำร้านอื่นไม่ยอมให้ติดเงินไว้ก่อน คนงานเหล่านั้นจึงแห่มาซื้อที่ร้านขายของชำของกุสุมา

“ช่วงนี้โรงโม่ขยับขยายขึ้นมีคนงานมากขึ้น จริงๆแม่ตั้งใจจะมาเยี่ยมป้าหน่อย พวกคนงานเขาก็เลยฝากซื้อของในกรุงเทพฯกัน นี่เดี๋ยวแม่ก็ต้องขนกลับนะเนี่ย”

หญิงวัยกลางคนพูดด้วยแววตาประกาย เธออาจจะเหนื่อยกับการเดินทางแต่ก็มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ถึงแม้ว่าเธอจะมีร้านขายของชำและมีที่ดินอยู่ไม่น้อย แต่ฐานะก็ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับครอบครัวของครองภพได้อยู่ดี

ตอนแรกเธอก็รู้สึกไม่พอใจนักที่ชายหนุ่มไม่ให้เกียรติลูกสาวเธอ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องเคารพการตัดสินใจของกชกร

“งั้นเดี๋ยวแม่ไปก่อนแล้วกันนะลูก แม่ต้องแวะไปรับน้าด้วย”

กุสุมาเลิกกับสามีมานานมากแล้ว แต่ด้วยความที่เธอนั้นเป็นคนสวยจึงมีชายหนุ่มรุ่นน้องและรุ่นพี่มาตามจีบอยู่เสมอ แต่ผู้หญิงที่เคยผ่านความล้มเหลวในชีวิตคู่อย่างเธอกลับไม่สนใจใยดี และใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวอีกสองคนตามประสาสาวโสดที่เคยผ่านกันหย่าร้างมาเหมือนๆกัน

“ขับรถดีๆนะคะคุณแม่ ถึงแล้วโทรหาหนูด้วยนะคะ”

หญิงสาวเดินมาส่งแม่หน้าบ้าน รู้สึกใจหายอยู่เหมือนกันเมื่อเห็นว่ารถกระบะของแม่นั้นเคลื่อนตัวออกไป

เด็กหญิงตัวน้อยเกาะขาผู้เป็นแม่ก่อนจะชูเเขนเหยียดตรง กชกรหัวเราะเบาๆก่อนที่เธอนั้นจะอุ้มลูกสาวขึ้นมา

“ว่ายังไงคะ อยากไปกับคุณยายหรือคะ”

หญิงสาวเอ่ยถามก่อนที่เด็กน้อยจะส่ายหน้า ปีนี้กวินตราอายุหนึ่งขวบกว่าเเล้ว รู้เรื่องบ้างแต่ถึงอย่างนั้นก็พูดได้แค่บางคำ

“เรารีบไปกันเถอะลูกเดี๋ยวคุณปู่กับคุณย่าจะรอนาน”

หญิงสาวเตรียมของเพื่อนเดินทางไปบ้านพ่อแม่สามี กชกรขับรถญี่ปุ่นคันเล็กมาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ ก่อนที่เธอนั้นจะอุ้มลูกสาวลงไปโดยไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าสัมภาระ

“สวัสดีค่ะคุณพ่อคุณแม่”

หญิงสาววางลูกลงบนพื้นก่อนที่เด็กหญิงจะวิ่งถลาไปหาคุณปู่กับคุณย่า กชกรไม่ลืมที่จะยกมือไหว้ทั้งสองอย่างนอบน้อมก่อนที่เธอนั้นจะนำสัมภาระไปจัดเรียงในห้องส่วนตัวของลูกสาวซึ่งอยู่ติดกับห้องรับแขก

“มาก็ดีแล้ว แม่มีเรื่องอยากรบกวนพอดี”

หญิงวัยกลางคนเอ่ยขึ้นก่อนที่เธอนั้นจะจูงมือลูกสะใภ้เข้ามาในครัว เนื่องจากเย็นนี้สามีได้นัดหุ้นส่วนมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ ซึ่งหุ้นส่วนแต่ละคนก็จะพาครอบครัวมาด้วย ที่คาดไว้ก็น่าจะราวๆยี่สิบคน

สายสมรเห็นว่าแม่ครัวนั้นทำอะไรชักช้ายืดยาดก็รู้สึกหงุดหงิดใจ จึงได้ขอร้องให้ลูกสะใภ้สาวช่วยทำขนมไทยเพื่อเตรียมเสิร์ฟสำหรับเย็นนี้

“คุณแม่จะให้หนูทำอะไรหรือคะ”

หญิงสาวเอ่ยถาม ก่อนที่สายสมรนั้นจะพาเธอเข้ามาในครัวไทย วัตถุดิบทุกอย่างถูกเตรียมพร้อมไว้หมดแล้วเหลือแค่ลงมือทำก็เท่านั้น

“แม่กลุ้มใจจริงๆ แม่ครัวอายุมากแล้วเดี๋ยวนี้ทำอะไรชักช้าไม่ทันใจ”

สายสมรเป็นคนใจร้อน ด้วยความที่เป็นลูกคนเดียวของท่านทูตและถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงเป็นคนที่มักจะหงุดหงิดง่ายเวลาที่ไม่ได้อะไรดั่งใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่ได้วีนเหวี่ยงไร้เหตุผล แต่มักจะซุบซิบลับหลังเสียมากกว่า

“มีขนมหลายอย่างที่ต้องทำ เดี๋ยวแม่จะดูหลานให้รบกวนเธอช่วยทำให้หน่อยนะ”

แม่สามีอยากให้กชกรทำเพราะลูกสะใภ้คนนี้มีฝีมือการทำขนมที่ยอดเยี่ยม วัดจากเสียงชมเมื่อครั้งที่เธอนั้นจัดงานวันเกิด อาหารหลักในงานก็คือขนมไทยที่ลูกสะใภ้นั้นลงมือทำเอง

“ได้เลยค่ะ คุณไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวหนูจะจัดการให้เอง”

“ขอบใจมากนะกชกร แม่ฝากด้วย ขอแบบสุดฝีมือเลยเพราะงานนี้มีแต่คนสำคัญ”

หญิงสาวพยักหน้าก่อนที่เธอนั้นจะเริ่มลงมือเตรียมนึ่งถั่วเป็นอันดับแรก เนื่องจากเมนูนี้มีถั่วเป็นส่วนผสมหลักเธอจึงไม่รอช้ารีบนึ่งส่วนผสมที่ต้องใช้ทันที

สายสมรแอบมองลูกสะใภ้สาว เธอรู้สึกสงสารอีกฝ่ายจับใจแต่ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลืออย่างไรดี ครอบครัวกชกรไม่ได้มีหน้ามีตาในสังคม และไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโตหรือเป็นนักธุรกิจ ครองภพจึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องเปิดตัวหญิงสาวให้ใครรู้จัก เนื่องจากเธอนั้นไม่ได้เป็นที่สนใจในสังคม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel