บทพิสูจน์ความอดทน(1)
ตอนที่ 3
บทพิสูจน์ความอดทน
ช่วงนี้ครองภพงานยุ่งมาก เนื่องจากทาง ผู้ลงทุนคนใหม่ต้องการข้อมูลบริษัทและแผนงานที่ละเอียดมากกว่านี้ทำให้เขาต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ ทั้งยังประชุมแทบทุกวัน ชายหนุ่มตัดสินใจพักที่คอนโดใกล้บริษัท เพราะเขาไม่อยากเดินทางไกลเนื่องจากรู้สึกว่าเสียเวลางาน
นักธุรกิจหนุ่มเก็บเสื้อผ้าบางส่วนก่อนเดินทางมาที่คอนโด เขาพยายามอธิบายให้กชกรเข้าใจซึ่งหญิงสาวนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไร
จากคอนโดมาบริษัทใช้เวลาเดินทางไม่ถึงสิบนาที บางวันชายหนุ่มก็เลือกที่จะใช้บริการรถสาธารณะเพื่อความรวดเร็ว ครองภพเอาแต่ทุ่มเทให้กับงานจนแทบจะลืมลูกและภรรยา
กชกรมองโทรศัพท์มือถือก่อนจะค่อยๆถอนหายใจออกมา เธอพยายามติดต่อสามีตั้งแต่เช้าแต่เขาก็ไม่รับสายเลย หญิงสาวไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ เธอไม่ได้อยากก้าวก่ายแต่เพราะความเป็นห่วงจึงได้ตัดสินใจโทรไปหาเลขาของเขา
ทุกคนรู้จักเธอในฐานะแม่บ้าน แต่ไม่มีใครรู้ว่าจริงๆแล้วเธอคือภรรยาของครองภพ และด้วยฐานะที่ปกปิดเอาไว้เธอจึงได้รับการปฏิบัติที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
“สวัสดีค่ะคุณเลขา คุณภพอยู่ที่บริษัทหรือเปล่าคะ”
หญิงสาวเอยถามก่อนจะได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกฝ่ายดังออกมา
“ถ้าไม่อยู่บริษัทแล้วคิดว่าอยู่ที่ไหนล่ะ”
กชกรสูดลมหายใจลึกก่อนกดตัดสายทันที เธอไม่ค่อยชอบเลยค่ะคนนี้สักเท่าไหร่แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่เคยกดดันให้ชายหนุ่มไล่อีกฝ่ายออก ครองภพมักจะพูดเสมอว่าเลขาคนนี้ทำงานดี มีความละเอียดรอบคอบ ที่สำคัญยังช่วยแบ่งเบางานเขาได้หลายอย่าง กชกรได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเข้าไปใหญ่ ในขณะที่เธอนั้นเป็นเพียงแม่บ้าน คอยเลี้ยงลูกและทำความสะอาดบ้านไปวันๆ กลับมีผู้หญิงคนหนึ่งคอยอยู่เคียงข้างและช่วยเหลืองานสามีให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
กชกรจมอยู่กับความไม่สบายใจตลอดทั้งวัน ในช่วงค่ำชายหนุ่มก็โทรกลับมาก่อนจะอธิบายว่าเขาลืมเอาโทรศัพท์ไปจึงไม่ได้รับสายเธอ หญิงสาวได้ยินแบบนั้นก็สบายใจขึ้น พร้อมกับเอยขอโทษที่เธอรบกวน
“เดี๋ยวผมทำงานก่อนนะ”
ภรรยารู้สึกว่าช่วงนี้สามีค่อนข้างห่างเหิน ถึงแม้เขาจะอ้างว่างานเยอะแต่เธอกลับหวาดระแวงและรู้สึกว่ามีเหตุผลอื่นที่ทำให้เขานั้นดูเปลี่ยนไป
กชกรไม่อยากทำตัวเป็นนักสืบ ถึงเธอจะหวาดระแวงแค่ไหนแต่ก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ฟ้าดินลิขิต หากครองภพไม่ต้องการเธอและลูก ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ร่วมกันอีกต่อไป
กชกรยินดีที่จะคืนชีวิตอิสระให้กับเขา หากเขาเอ่ยปากไล่เธอ
หญิงสาวสูดลมหายใจลึก ถึงจะเตรียมใจมาหลายวันแล้วแต่พอนึกถึงวันที่เธอกับเขาต้องแยกจากกัน หญิงสาวก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง บางอย่างจุกแน่นในอกจนเธอต้องเดินออกไปนอกบ้านเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์
สองวันต่อมากชกรพยายามติดต่อหาสามี เนื่องจากเธอมีธุระสำคัญต้องคุยกับเขา แต่ชายหนุ่มก็ไม่รับสายเลยตลอดทั้งวัน กชกรถอดใจในที่สุดเธอก็ทำแค่ส่งข้อความทิ้งเอาไว้
หญิงสาวไม่รู้จะทำยังไง ความหวาดระแวงในใจเธอขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น คนเป็นภรรยาเมื่อติดต่อสามีไม่ได้ก็ย่อมเป็นห่วง แต่เธอก็ไม่อยากโทรไปที่บริษัทของเขาเพราะกลัวว่าจะทำให้คนอื่นสงสัย
กชกรได้แต่เดินไปเดินมา จนเมื่อเวลาเย็นย่ำครองภพก็ติดต่อกลับ
“ผมขอโทษนะผมลืมเอาโทรศัพท์ไปอีกแล้ว”
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด น้ำเสียงเขาดูเหนื่อยล้าเป็นอย่างมากจนหญิงสาวนึกสงสาร ทั้งที่สามีของเธอเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่ก็พยายามดิ้นรนเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าเขานั้นมีความสามารถมากพอ ไม่ใช่ทายาทเศรษฐีที่ไม่เอาถ่านอย่างใครพูด
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพักผ่อนเถอะ ฉันไม่รบกวนแล้วค่ะ”
หญิงสาวกดวางสายก่อนที่เธอนั้นจะเก็บโทรศัพท์ใส่ลิ้นชัก แม้ใจจะคาดหวังว่าชายหนุ่มโทรกลับมา แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีสายเรียกเข้าจากเขาตลอดทั้งคืน กชกรรู้สึกห่อเหี่ยวในใจ เธอคิดถึงสามีจนแทบบ้า กลับแสดงออกไม่ได้เลย
ช่วงบ่ายของวันต่อมา มีคนนำเอกสารมาส่งให้สามี กชกรออกมาครับก่อนที่เธอจะรู้ว่าขนส่งเอกสารนั้นสามารถติดต่อกับสามีของเธอได้ เขาโทรศัพท์หาครองภพต่อหน้าเธอและเขาก็รับสาย
กชกรตัวชา เธอรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา ตั้งแต่เช้าเธอโทรหาชายหนุ่มแต่เขาไม่รับสาย แต่พอเป็นเรื่องสำคัญเขากลับรับสายอย่างไม่รีรอ
หญิงสาวน้อยใจเป็นอย่างมาก เธอพยายามปั้นสีหน้าให้เรียบเฉยก่อนจะรับเอกสารและนำขึ้นไปเก็บที่ห้องทำงาน
หญิงสาวไม่เข้าใจเหตุผลที่ชายหนุ่มนั้นไม่ยอมรับโทรศัพท์เธอแต่รับโทรศัพท์คนอื่น กชกรตัดสินใจที่จะไม่ติดต่อหาครองภพอีก เพราะรู้แล้วว่าเขานั้นไม่ต้องการที่จะพูดคุยกับเธอ
เย็นวันนั้นกวินตราตัวร้อนจัด เด็กน้อยร้องไห้งอแงขอให้แม่อุ้มตลอดเวลา กชกรเครียดเรื่องสามีแล้วยังต้องมาเครียดเรื่องลูก เธอรู้สึกกดดันมากทั้งอากาศก็ยังร้อนอบอ้าวจนเผลอหงุดหงิดใส่ลูกสาว
“แม่ขอโทษนะลูก เดี๋ยวแม่เช็ดตัวให้”
เมื่อตั้งสติได้หญิงสาวก็ตระหนักรู้ว่าสิ่งที่เธอทำนั้นไม่ถูกต้อง เด็กน้อยไม่สบายและไม่ได้รับรู้ปัญหาระหว่างพ่อแม่ เธอไม่ควรที่จะเอาความเครียดและกดดันไปลงที่ลูกสาว