3.ถอดแบบยั่วๆ
ถอดแบบยั่วๆ
(ตะวันเล่าเรื่อง)
ห้าเดือนผ่านไป
ผมนั่งอยู่บนเก้าอี้ มองตัวเองผ่านหน้าจอแท็บเล็ต ส่วนมือถือผมกำลังใช้ในการไลฟ์ถ่ายทอดสด หลายเดือนที่ผ่านมาผมติดใจการสร้างตัวตนในโลกออนไลน์ โดยอวตารตัวเองเป็น Xdream-sport และใช้ชื่อเล่นแทนตัวเองว่า ‘ซัน’
แรกๆ ผมแค่เล่นสนุกแก้เหงา แต่เมื่อใช้เวลามากขึ้นพร้อมแอบส่องชาวบ้านจึงเห็นช่องทางหาเงิน ซึ่งเงินเหล่านี้มาด้วยความสิเน่หา
และผมยอมรับอย่างแมนๆ เลยว่า รสจูบของเฮียหนอนกับการสัมผัสที่บั้นท้ายในคืนนั้นจนเลยเถิดเข้าไปสำรวจจุดต้องห้าม เปิดโลกอีกใบให้ผมคลั่งและปรารถนาอยากถูกเขากระทำเช่นนั้นอีกสักครั้ง!
แต่ผมก็ยังยืนยันว่าเป็นผู้ชายทั้งแท่ง ไม่ได้มีจิตใจเอนเอียงไปรักชอบเพศเดียวกัน แม้แต่พี่คีย์ผมยังขนลุกซู่เมื่อเราใกล้ชิดกัน แต่...สำหรับเฮียหนอน ผมกลับหวั่นไหวกับเขา
กระนั้นตอนนี้สถานการณ์ทุกอย่างเปลี่ยนไป การเงินผมสั่นคลอนอย่างที่สุด ผมเลยต้องลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างเพื่อความอยู่รอด และหากพูดกันตามตรง ผมมีร่างกายที่โอเคในระดับหนึ่ง บวกกับผิวขาวอมชมพู อีกทั้งคุยเก่ง ดังนั้นจึงมีทั้งป๋า อาเสี่ย ไปจนถึงน้องๆ ติดตามเป็นแฟนคลับจำนวนมาก หลายอาทิตย์ที่ผ่านมาผมจึงรอดตายมีเงินใช้จ่ายและได้ต่อชีวิตในโลกบิดๆ เบี้ยวๆ หลังจากที่พี่คีย์หายหัวเข้ากลีบเมฆ
แน่ละ ผมกับเขายังไม่เลิกกัน ยังคงใช้คำว่า ‘บอยเฟรนด์’ ได้ ถึงแม้ความจริงแล้วผมกับคีรีลึกซึ้งกันเพียงแค่จูบห่วยๆ ที่ผมอยากสร้างกระแส แต่มันกลายเป็นข่าวด้านลบทำให้ชื่อเสียงผมย่อยยับลงเพียงชั่วข้ามคืน
และการไลฟ์สดวันนี้กำลังสั่นคลอนชีวิตในโลกออนไลน์ของผมอย่างที่สุด ปกติผมขายของเก่งเป็นทุน แต่พอเริ่มขยับมาประมูลกางเกงในและบ็อกเซอร์ ก็ดูเหมือนว่าต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
‘เฮ้ น้องซันสุดหล่อ เขี่ยหัวนมสีชมพูให้ดูหน่อย’
ข้อความหนึ่งเด้งขึ้น แล้วตามด้วยอีกหลายๆ ข้อความที่มาในทำนองเดียวกัน
‘เลียรักแร้ เดี๋ยวพี่โอนให้พันห้า’
‘กางเกงไม่เอาแล้ว อยากขี่คนใส่มากกว่า ลุงให้ห้าพัน พร้อมออกค่าโรงแรม’
ข้อความที่ผุดขึ้นมาแบบรัวๆ ราวกับการจุดประทัดไหว้เจ้าทำให้ผมแทบพลัดตกเก้าอี้ อยากทิ้งแช็ตในโลกออนไลน์ แต่ผมยังมีภาระและต้องการเงินสำหรับค่าครองชีพ เลยต้องฝืนทำเสียงกระเส่าแล้วเดินหน้าเล่นบทผู้ชายของสาธารณชนต่อไป
‘vc เท่าไหร่...’ Single Dadk-8
ผมเหลือบไปมองหน้าจอมือถืออีกครั้ง ใครบางคนกำลังเล่นเกมกวนประสาท กฎของผมคือไม่มีการแช็ตหลังไมค์หรือวิดีโอคอล แต่ชื่อคนนี้มันโดดเด้งสะดุดตาผมมาหลายวัน
‘ว่าไง vc กันไหม’ Single Dadk-8
ผมคุ้นว่าผู้ชายคนนี้เข้ามาดูผมราวๆ หนึ่งอาทิตย์ และส่งข้อความมาแต่ผมเพิกเฉย มันไม่ใช่รูปภาพลามกหรือเชิญชวนให้ผมช่วยตัวเอง ทว่าพฤติกรรมเขาชวนให้น่าสงสัย มักถามซอกแซกเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวและการเรียน แล้วยังเลยเถิดไปถึงสถานะชีวิตคู่ของผม
‘vc ให้หมื่นนึง!’
Single Dadk-8 ส่งข้อความมาอีกครั้ง ครั้งนี้ทำให้ผมถึงกับเหงื่อแตกท่วมตัว!
‘ก็มาดิครับเฮีย’
คือหัวข้อสนทนาคืนนี้ของผม มันเรียกคนเข้ามาดูไลฟ์ส่วนตัวได้มากทีเดียว และจากหลักสิบก็พุ่งไปหลักร้อย ตอนนี้เกือบแตะหนึ่งพันคนแล้ว
ผมเลื่อนกล้องลงมาให้ต่ำอีกนิด หลังจากมีแฟนคลับเตือนให้ระวังหน้า และถ้าหากมีภาพหลุดไปผมคงจบเห่
ก่อนหน้านี้มีหนุ่มๆ ในโปรแกรมถูกจับภาพและนำไปปล่อยในโลกออนไลน์จนเสียชื่อหลายคน แต่อย่างว่า ยิ่งเสี่ยงมากเท่าไรก็ยิ่งได้เงินเป็นกอบเป็นกำ จึงเป็นการชวนให้คนหน้าใหม่เข้าหากินด้วยวิธีนี้
และผมมีหน้าที่แค่เล่นบทอ้อนนิดๆ หน่อยๆ เต้นยักย้ายส่ายสะโพกอวดหุ่นที่ผมดูแลมาอย่างยากเย็นด้วยการเพียรเข้าฟิตเนสเป็นปี เพียงเท่านี้เงินก็ลอยเข้ากระเป๋า ตอนนี้ผมกำลังอยากได้เงินสักก้อนที่จะช่วยให้ผมมีห้องพักใหม่ในเดือนหน้า ที่ผมต้องเดือดร้อนคงต้องโทษเฮียหนอน พี่ชายของพี่คีย์ผู้เป็นบอยเฟรนด์ผม
พี่คีย์ หรือ คีรี หนุ่มหล่อบ้านรวย หุ่นสูงเพรียวและขาวตี๋ เขามีส่วนผสมของไทยและลูกเสี้ยวออสเตรเลีย-จีน ผมกับเขาอยู่ด้วยกันมาเกือบสองปีเศษ ผมรู้จักพี่คีย์โดยบังเอิญในงานเลี้ยงปีใหม่ของเพื่อนคนหนึ่ง ตอนนั้นเขาเหงาจัดหลังจากแฟนสาวบอกเลิก จึงอยากหาเพื่อนเที่ยว
“หน้าตาหล่อดี มาเป็นแฟนพี่ไหม”
ผมอึ้งอยู่สักหน่อยเมื่อถูกอดีตเดือนมหาวิทยาลัยทักอย่างไม่อ้อมค้อม แต่ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยมีใครเข้ามาจีบ แน่ละ ทั้งชายและหญิงรุมผม ตามตื๊อผมมาหมดแล้วทั้งนั้น
“อยากเป็นบอยเฟรนด์กับผมเหรอครับ”
“แหงสิ หล่อแบบนี้ เอาตรงๆ เห็นแล้วพี่ใจสั่นเลยว่ะ”
“โอ้ ผมควรจะเขินไหมเนี่ย ฮ่าๆ” ผมหัวเราะกลบเกลื่อนความรู้สึกแปลกพิกลที่เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่าชอบความบ้าและลูกตื๊อของพี่คีย์
“แล้วเป็นบอยเฟรนด์กันแบบไหนครับ”
“ง่ายมาก ห้ามรัก ห้ามกินกัน และไม่มีหึงหวง คบกันแมนๆ แบบลูกผู้ชาย” เขาตอบเสียงดังชัดเจน
“อ้าว ถ้าเป็นแบบนั้นจะสนุกอะไรล่ะพี่”
“เอาน่า บางอย่างมันไม่ต้องมีเหตุผล พี่แค่ถูกชะตานาย ตกลงตามนี้”
หลังจากวันนั้น ผมกับเขาก็ตัวติดกันตลอด เรียกได้ว่ามีพี่คีย์ที่ไหนก็มีผมที่นั่น เราสองคนเป็นที่สนใจของสาวๆ หลายคน พยายามสืบเสาะหาภาพลับภาพหลุดของผมกับพี่คีย์ แต่ไม่มีหรอก เราใช้ชีวิตแบบลูกผู้ชายจริงๆ
กระทั่งเช้าวันเคราะห์ร้าย ผมนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้เขาและเกิดอุบัติเหตุขึ้น ส่งผลให้ผมต้องนอนรักษาตัวอยู่นานจนต้องพักการเรียนกับเรื่องกีฬา ประกอบกับเกิดเรื่องไม่เป็นเรื่องในเวลาต่อมา เมื่อผมเมาหนักแล้วน้อยใจ ผมเลยล็อกคอเขามาจูบปาก ซึ่งมันควรจะจบลงเพียงเท่านั้น แต่ในความจริงมันไม่ใช่ มีมือดีขุดประวัติเน่าๆ ของผมสมัยเรียนมัธยมมาใส่สีตีไข่ ทั้งเรื่องความเกเรชอบชกต่อยและมีแฟนไม่ซ้ำหน้า
เมื่อถึงคราวที่ดวงซวยสุดๆ ชื่อผมเลยกระฉ่อนไปทั่วมหาวิทยาลัย งานนี้ผมจึงอาศัยข่าวเสียหายพักการเรียนเสียเลยและวางแผนย้ายไปเรียนที่ใหม่ แต่ชีวิตมันไม่ได้ง่ายอย่างนั้น เมื่อพี่คีย์ไม่อยู่ ทุกอย่างจึงค่อยๆ ดิ่งลงเหว พวกงานถ่ายแบบที่ผมเคยได้รับไม่มีเข้ามา รวมถึงงานร้านอาหารซึ่งเป็นหุ้นส่วนของพี่คีย์บอกปัดไม่อยากให้ผมไปทำ ซึ่งสาเหตุมันโคตรงี่เง่า
“ไอ้น้อง เอาตรงๆ ข้าเบื่อเวลาได้ยินลูกค้าซุบซิบกัน แทนที่จะมากินข้าว กลับเอาแต่ถามว่าคนนี้ใช่ไหมที่มีข่าวจูบกับไอ้คีย์”
“สมัยนี้มันเปิดกว้างแล้วพี่ เพศไหนก็รักกันได้ อีกอย่างผมแค่จูบกับพี่คีย์เท่านั้น ไม่ได้มีคลิปเอากันหลุดมาให้คนเห็นนี่นา”
“อั๊วเข้าใจ แค่หยอกๆ กัน แต่ภาพมันฟ้องไปแล้ว ทุกวันนี้คนเราพอเชื่ออะไรก็ตัดสินมั่วซั่วไปหมด”
“แล้วไงครับ” ผมไม่อยากทะเลาะกับอีกฝ่าย แค่ต้องการทำงานที่นี่ต่อไป
“เออๆ ถึงอย่างนั้นก็เถอะ อั๊วคงให้เอ็งช่วยงานต่อไม่ได้ ไม่อยากปวดหัว อีกอย่างไอ้คีย์มันดึงเงินไปใช้ตั้งหลายแสน แบบนี้อั๊วจ้างใครไม่ลงจริงๆ โดยเฉพาะคนที่อยู่กินกับมันแบบ...” เจ้าของร้านเอ่ยเท่านั้นจึงหันไปสนใจลูกค้าที่ก้าวเข้ามาใหม่ เขาปล่อยให้ผมยืนเคว้ง ก่อนจะต้องเดินคอตกกลับคอนโด
คราวนี้ขอกลับไปพูดถึงพี่ชายของพี่คีย์อีกสักหน่อย หมอนั่นชื่อเฮียหนอน ก็คนที่เคยดูดปากและบีบก้นผม แถมยังเอ่อ...ใช้นิ้วทะลวงล้วงลึกเข้าไปจนผมสั่นสะท้านทั้งร่าง