Ep 10 ปล่อยเพื่อนไปกับเสือ
Ep 10 ปล่อยเพื่อนไปกับเสือ
“อ่าว หายไปไหนมาตั้งนานสองนาน แล้วนั่นไปเอาเสื้อใครมาใส่” อาคิโกะถามขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนสาวคนสวยเดินกะเพกๆ มาที่โต๊ะพร้อมกับชุดที่เปลี่ยนไป
“พอดีเกิดเรื่องนิดหน่อยชุดที่ใส่มันเลอะ เลยขอยืมเสื้อเพื่อนมาใส่” มายูพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติที่สุด ทั้งที่ความจริงเจ็บแสบร่องสวาทจนเจียนตาย ร่างบางค่อยๆ นั่งลงพรางยกมือขึ้นกุมท้อง
เพื่อนร่วมโต๊ะหรี่ตามองเมื่อเห็นเหงื่อเปียกชุ่มทั่วไรผมของมายูและอาการหอบเหนื่อยเหมือนคนไปวิ่งมาก็ไม่ปาน
“เป็นอะไรมากไหมล่ะเนี่ย” เอริมถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อเห็นมายูหน้าซีด
“ไม่เป็นไรหรอก” มายูคลี่ยิ้มให้ราวกับว่าไม่ได้เป็นอะไร
“หายไปตั้งนาน ฉันก็นึกว่าเธอโดนฉุดไปซะอีก”
กึก!
คำพูดเชิงหยอกล้อของเอริทำเอามายูชะงัก เพราะก่อนหน้านี้เธอโดนฉุดจริงๆ
“เป็นอะไรรึปล่าว หน้าซีดอีกแล้ว” เอริถามด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง เพราะสีหน้าของมายูไม่สู้ดีเลย
“มะ..ไม่เป็นไร” มายูรีบโบกมือปฏิเสธ พรางหยิบแก้วเหล้าขึ้นมากระดกเพื่อกลบเกลื่อนอาการ
เอริขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจเพราะเสื้อแจ็คแก็ตราคาแพงสีดำตัวนี้มันคุ้นๆ เหมือนเสื้อที่หนุ่มลูกครึ่งใส่ หรือว่ามายูบังเอิญไปเจอเพื่อนสมัยอนุบาลคนนั้น
หลังจากดื่มต่อไปได้ซักพักมายูก็รีบขอตัวกลับเพราะตอนนี้เจ็บแสบน้องสาวไม่ไหวแล้ว
“กลับเร็วเกิน เหล้ายังไม่หมดเลย” เอริทำปากจู๋พรางมองไปที่เหล้า ซึ่งมันยังเหลือเต็มขวด
“พอดีฉันรู้สึกเหมือนจะไม่สบายน่ะ”
“มิน่าล่ะทำไมหน้าซีดๆ” อาคิโกะมองเพื่อสาวด้วยความเป็นห่วง “ขับรถไหวมั้ยเนี่ย”
“ไหวสิ” มายูยิ้มแห้งๆ ให้อาคิโกะ
“จะกลับแล้วหรอ” เสียงเข้มอันแสนคุ้นเคยดังขึ้น ส่งผลให้มายูที่กำลังจะหยัดกายลุกขึ้นตัวแข็งเทื่อ
เสียงนี้มัน!
“อ่าว นี่มันเพื่อนสมัยเรียนอนุบาลนิ” เอริเป็นคนทักทายก่อน ในขณะที่มายูไม่กล้าแม้จะหันหลังไปมอง
“ฉันจำได้ๆ” อาคิโกะเสริม “ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ ฉันลืมแล้ว”
“ฉันชื่อคริส” คริสคลี่ยิ้มให้สองสาวอย่างอ่อนโยนราวกับว่าตัวเองเป็นหนุ่มดอกไม้ “เธอสองคนใช่อาคิโกะกับเอริไหม”
“ใช่ๆ ดีใจจังนายจำพวกเราได้ด้วย” เอริดีใจจนออกหน้าออกตา
พอได้เห็นใบหน้าของคริสใกล้ๆ จึงรู้ว่าคริสเป็นคนหล่อมาก และด้วยความที่เขามีเชื้อสายตะวันตกมันทำให้เขาดูตัวใหญ่กว่าคนเอเชียเป็นเท่าตัว
คนอะไรไม่รู้ทั้งหล่อทั้งหุ่นดี เอริคิดในใจ
“...” คริสคลี่ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร พรางปรายตามองร่างเล็กที่กำลังยืนหันหลังให้ มุมปากหยักแสยะยิ้มเมื่อมายูไม่กล้าแม้จะหันมามองหน้าเขา “จะกลับกันแล้วหรอ”
“อืม มายูไม่ค่อยสบายก็เลยจะกลับกันเลย” เอริตอบพรางปรายตามองมายูที่กำลังยืนทำหน้าไม่สู้ดี ทุกคนรู้ว่าสมัยก่อนมายูไม่ค่อยลงรอยกับคริส
“เป็นอะไรมากไหมเนี่ย” คริสแกล้งถามด้วยความเป็นห่วง ทั้งที่ความจริงรู้ดีว่ามายูเป็นอะไร “หน้าซีดแบบนี้ต้องหนักแน่ๆ ให้ฉันไปส่งไหม”
“...” มายูเม้มปากจนเป็นเส้นตรงเพราะรู้ดีว่าคริสกำลังเสแสร้ง “ไม่เป็นไร ฉันขับกลับเองได้”
“แต่เหมือนเธอจะขาอ่อนนะ แค่ยืนก็ยังสั่น คอนโดฉันอยู่ไม่ไกลจากคอนโดของเธอ เดี๋ยวฉันแวะไปส่ง” คริสเสนอ นั่นทำให้เพื่อนสองคนเห็นดีเห็นงามด้วย
“ฉันว่าให้คริสไปส่งดีกว่านะ เผื่อวูปขึ้นมาจะทำไง” เอริเห็นด้วยกับคริส
คริสทำหน้าตาใสซื่อจนเพื่อนทั้งสองหลงเชื่อว่าเขาคงไม่แกล้งมายูเหมือนตอนเด็กๆ แล้ว
“ฉันเห็นด้วยกับคริสนะ เพื่อนกันยังไงก็ต้องดูแลกันปะ” อาคิโกะเสริม
“...” มายูเงียบ ไม่มองแม้กระทั่งหน้าของคริส
“ว้าาา~ สงสัยมายูคงกลัวฉันแกล้งเหมือนตอนเด็กๆ ตอนนั้นฉันยังเด็กแต่ตอนนี้ฉันโตพอที่รู้แล้วว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ฉันเป็นลูกผู้ชายพอน่า” คริสแกล้งตีหน้าเศร้าจนเพื่อนทั้งสองเริ่มเห็นใจ ที่มายูไม่ยอมคุยกับคริสทั้งๆ ที่เรื่องมันก็ผ่านไปนานแล้ว
มายูกำหมัดแน่น ทำไมจะไม่รู้ว่าคริสกำลังเสแสร้งแกล้งตีหน้าเศร้า
“ใช่ เรื่องมันก็ผ่านมานานแล้ว สมานฉันท์กับคริสเถอะนะ ยังไงก็เป็นเพื่อน” เอริเดินเข้ามาตบไหล่เพื่อนสาวเบาๆ ในขณะที่มายูยังยืนนิ่ง
“ใช่ๆ อะไรที่ผ่านมาแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไปเถอะนะ ตอนนี้ทุกคนต่างก็โตแล้ว” อาคิโกะเดินเข้ามาเสริมทัพ
คริสกระตุกยิ้มด้วยความพอใจเมื่อแกล้งตีหน้าเศร้าจนเพื่อนสองคนหลงเชื่อ
มายูตวัดมองคริสตาเขียวปั๊ดพรางขบกรามแน่น เมื่อเห็นรอยยิ้มที่ใสซื่ิอของคริส
มองรางวัลตุ๊กตาทองให้มันเลย!
“รถนายอยู่ไหน!”
“มา เดี๋ยวฉันพาไป” คริสคลี่ยิ้มหวานละมุน จนเพื่อนอีกสองคนโล้งอกเมื่อมายูยอมไปกับคริสซักที
“ฝากมายูหน่อยนะ” เอริกับอาคิโกะคลี่ยิ้มพรางโบกมือบ้ายบาย
“ได้ เดี๋ยวฉันไปส่งมายูถึงที่เลย” คริสส่งยิ้มกลับ นัยตาของเขาวาววับด้วยความเจ้าเล่ห์ แต่เพื่อนสองคนไม่ทันสังเกตุ
งานนี้คงไม่รู้สินะว่ากำลังปล่อยเพื่อนเข้าถ้ำเสือ