ตอนที่ 3
“อยู่นครสวรรค์แล้วทำไมมีเสียงคลื่น... โกหกพี่หรือเปล่า”
พี่เอกตั้งข้อสังเกต ฉันรู้สึกกลัวว่าจะหลุดอะไรออกไปให้เขาจับได้ว่าหนีมาเที่ยวทะเลคนเดียว
“เสียงจากทีวีค่ะ... ดูหนังอยู่ ก็เดือนเหงานี่คะ... เลยเปิดทีวีเสียงดังไปหน่อย”
“กินข้าวยัง... ”
“เรียบร้อยแล้วค่ะ พี่เอกล่ะคะเป็นไงบ้าง”
“พี่โอเค... เดือนจะกลับวันไหน”
“วันอังคารค่ะ”
“อืม... แล้วเจอกันที่กรุงเทพฯ นะ งั้นพี่ขอตัวก่อน ตอนนี้อยู่หน้าห้องสัมมนาของโรมแรมน่ะ วุ่นมาก รอทีมขาย อ้อ... แค่นี้ก่อนนะเดือน จะเริ่มประชุมกันแล้ว”
พี่เอกตัดสายไปโดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย แต่ฉันก็ชินเสียแล้ว ยังดีที่เขาโทรมา... เพราะอย่างน้อยก็เตือนสติว่าฉันไม่ใช่คน ‘โสด’ ที่จะเที่ยวมานั่งมองตาฝรั่งเหมือนกำลังหาเหยื่ออยู่อย่างนี้
ก่อนที่ฉันจะก้าวเดินออกมาจากร้าน ก็ยังไม่วายที่จะเหลียวกลับไปมองว่าเขายังมองฉันอยู่หรือเปล่า ซึ่งก็จริงอย่างที่ฉันเดา เขาเกือบจะนั่งอยู่ในท่าเดิมเหมือนตอนแรกที่ฉันเดินเข้ามาในร้าน
สายตาแพรวพราวของเขาจับจ้องมองมาจนฉันรู้สึกอึดอัด นึกในใจว่าเขาน่าจะเดินเข้ามาพูดกันให้รู้เรื่องยังจะดีกว่า... ว่าจะเอายังไงกันแน่ มองอยู่ได้
ฉันดึงทิชชู่จากกล่องพลาสติกสีชมพูกลมๆ ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ตัดสินใจเดินลึกเข้าไปตามทิศทางของป้ายที่มีลูกศรชี้บอกว่าไปห้องน้ำ ตั้งใจว่าจะเข้ามาล้างมือและสำรวจหน้าตาสักหน่อย
ฉันมารู้ตัวอีกทีว่ามีคนเดินตามมาข้างหลัง ก็ตอนที่ท่อนแขนกำยำของคนแปลกหน้ารวบเข้าที่เอวของฉันจากทางด้านหลังแล้วรั้งเข้าไปในห้องน้ำชาย
“อื๊อ... ”
เขาล็อคประตู ฉันหวาดกลัวสุดชีวิต หัวใจเต้นแรง พยายามจะร้องให้คนช่วย
“ปล่อยนะ... อื๊อ”
ฉันร้อง แต่ฝ่ามือใหญ่ของคนแปลกหน้าก็เอื้อมมาปิดปากฉันเสียสนิท ฉันพยายามสะบัดแรงจนเหลียวไปมองเห็นหน้าเขาได้แวบหนึ่ง ทำให้ได้รู้ว่าเป็นคนเดียวกับฝรั่งบ้ากามที่แอบมองฉันตาเป็นมัน
“อย่าดิ้น”
เขาขู่เสียงเข้ม แขนใหญ่สอดรัดอยู่ใต้ราวนมของฉัน รั้งลำตัวน้อยๆ ไปกอดเอาไว้แน่น
“อยู่เฉยๆ แล้วคุณจะไม่เจ็บ”
ลมหายใจร้อนผ่าวพรูออกมาพร้อมกับเสียงกระซิบแผ่วพร่าข้างหู ทำเอาขนของฉันลุกซู่ ลำตัวหนาเบียดบดเข้ากับแผ่นหลังของฉันจนรับรู้ได้ว่าเขาเป็นผู้ชายที่ตัวใหญ่มาก มืออีกข้างของเขาสามารถรวบสองมือของฉันด้วยมือเพียงข้างเดียวแล้วกดไว้ใต้ลิ้นปี่เพื่อไม่ให้ฉันดิ้นรนขัดขืน
“ไม่ต้องกลัว ผมจะไม่ทำร้ายคุณ”
เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษที่ข้างหู ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาในการสื่อสารกับคนที่เรียนจบเอกภาษาอังกฤษอย่างฉัน
แม้เขาจะบอกว่าไม่ทำร้าย แต่ในสภาพนั้น... เป็นใครก็คงหวาดกลัวไม่ต่างจากฉัน
บอกว่าจะไม่ทำร้าย หากแต่เขาก็กอดรัดฉันแรงขึ้น แผ่นหลังและบั้นท้ายของฉันที่เบียดบดอยู่กับลำตัวใหญ่โตของเขาที่ยืนพิงผนังทำให้ฉันใจเต้นแรง รับรู้ได้ถึงดุ้นเนื้ออวบอุ่นกลางลำตัวของเขาที่ดุนดันอยู่กับบั้นท้ายหนั่นแน่นของฉันเหมือนจะหาทางเข้ามาให้ได้
“อื๊อ... ”
ฉันร้องเบาๆ เขาจงใจกอดรัดเอวของฉันแล้วเบียดกึ่งกลางกายเข้าหา จงใจให้สะโพกแนบเน้นกับดุ้นเอ็นแข็งปั๋งของเขาที่กำลังเสียดสีเหมือนจะอวดความยาวใหญ่อยู่กับหนั่นสะโพกของฉันอย่างบ้าคลั่ง
“ไม่นะ... เอาออกไป”
ฉันแสดงท่าทางขยะแขยง
“จะเอาออกทำไม... ก็มันยังไม่ได้ยัดเข้าไปเลยนี่นา”
เขากระซิบกลับมาอย่างมีอารมณ์ขัน น่าแปลกที่คำพูดหยาบคายที่ได้ยินยิ่งทำให้ฉันตื่นเต้น ใจเต้นแรง จากนั้นเขาก็จูบฟัดแรงๆ ที่ซอกคอของฉัน ที่เส้นผม ขมับและใบหู
“อื๊อ... ปล่อยนะ... ”
ฉันอุทาน มือใหญ่ของเขาบีบขยำทรวงอกอวบใหญ่ของฉันอย่างเมามันไม่ปราณี จนฉันเริ่มหวามไหว อ่อนระทวยไปด้วยความลืมตัวเมื่อโดนจู่โจมแบบไม่ทันได้ตั้งตัว
“เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้ อื้อฮือ... นมใหญ่เป็นบ้า”
มือของเขาสอดเข้าใต้ชายเสื้อ ลูบล้วงขึ้นมากอบกุมหนั่นเนื้อนุ่มนิ่ม นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือคีบเค้นเม็ดหัวนมทั้งสองข้างของฉันแล้วบีบแรงๆ จนแดงปลั่ง ความเสียวซ่านทำให้ฉันดิ้นพล่าน แทบจะลงไปกองกับพื้น แต่เขาก็รั้งฉันขึ้นมากอดเอาไว้แน่น มือซุกซนยังบีบขยำเต้านมของฉันอย่างเมามัน
“อย่า... ”
ในท่าซึ่งร่างกายบอบบางของฉันซ้อนอยู่บนลำตัวใหญ่โตของเขาที่ยืนพิงผนังห้องน้ำ เขายังคงจูบไซ้ซอกคอทั้งสองข้างของฉันสลับไปมา มือยังไม่ละจากทรวงอก บีบขยำไม่หยุด ทำเอาฉันอ่อนเปลี้ยไปทั้งร่าง
“หยุด... ไอ้บ้า”