บทที่2
นีราผล็อยหลับไปเมื่อเกือบย่ำรุ่ง ความอ่อนล้าและกังวลทำให้หล่อนหลับไปโดยไม่รู้ตัว กระนั้นทันทีที่หลับ...หล่อนก็ฝัน นีรารู้ตัวด้วยว่ากำลังฝันอยู่ หล่อนนอนอยู่บนเตียง...ในห้องตัวเอง ที่สำคัญ...ตัวของหล่อนเปล่าเปลือยล่อนจ้อนไร้อาภรณ์ปิดบัง
เสียงลมหายใจฟืดฟาดทำให้รู้ว่า หล่อนไม่ได้อยู่ลำพัง มีใครอีกคนอยู่ในห้องกับหล่อน เขาอยู่บนเตียงเดียวกัน
ใครคนนั้นแยกขานีราให้อ้าออก ผืนป่างามที่หล่อนหวงแหนจึงปรากฏแก่สายตาเขา
นีราอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี ทว่าข้อเท้าทั้งสองถูกตรึงไว้กับที่นอน ลมหายใจที่เป่ารดตรงผืนป่าทำให้หล่อนรู้ว่าหน้าของเขาอยู่ห่างเพียงคืบ หญิงสาวพยายามดิ้น แม้ความรู้สึกเสียวซ่านจะก่อเกิดขึ้นภายใน ดอกไม้สวรรค์ของหล่อนเริ่มคายน้ำหวานอีกครั้ง
หล่อนไม่เคยเปิดเผยส่วนนี้ให้ใครเห็นมาก่อน มันทั้งอับอายและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ที่ยิ่งกว่านั้น...หล่อนอยากรู้เหลือเกิน มันจะเป็นอย่างไรถ้าลิ้นนุ่มๆ แตะลงตรงเกสรดอกไม้งามกลางผืนป่า
จะรู้สึกอย่างไร...ซาบซ่าน กระสันเสียวแค่ไหน
เหมือนใครคนนั้นจะอ่านใจหล่อนออก เมื่อเขาจรดลิ้นลงสัมผัสยอดเกสรอย่างแผ่วเบา เท่านั้นแหละน้ำหวานที่ถูกกักเก็บไว้ภายในก็เริ่มหลั่นริน นีราร้องครวญครางด้วยความรัญจวนใจ หล่อนแอ่นกายเข้าหาเขา...เพื่อให้เขาได้ครอบครองยอดเกสรอย่างสนิทแนบ เขาพลิกพลิ้วปลายลิ้นอย่างคนเจนจัด สลับกับดูดเม้มยอดตูมเต่งจนนีราใจจะขาด
ดาวเล็กดาวน้อยวิบวับระยิบระยับ สวรรค์ลอยลงมาอยู่ตรงหน้า นีราพยายามไขว่คว้าอย่างโหยกระหาย ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นฉุดกระชากนีราให้ตื่นจากฝันพิศวาสของตน
กริ๊งงงงงง!!!
เสียงนาฬิกาปลุกที่นีราตั้งไว้ให้ปลุกหล่อนตอนตีห้านั่นเอง หญิงสาวลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความอาลัยอาวรณ์ ความรู้สึกกระสันซาบซ่านยังอยู่ไม่จางหาย
หล่อนนอนนิ่งอยู่เป็นครู่ก่อนจะสำเหนียกว่า...สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแค่ความฝัน
แต่เป็นฝันที่ซ่านเสียวที่สุดที่เคยฝัน หล่อนผงกศีรษะขึ้นมองเรือนร่างขาวโพลนของตนเอง ชุดนอนกระโปรงร่นมากองอยู่ที่เอวเพราะนอนชันขาตั้งฉากกับที่นอน นีราหายใจแรงเมื่อนึกถึงความรู้สึกในฝัน หล่อนเอื้อมมือไปยังผืนป่ากลางกายที่อร้าอร่ามต่อสายตา น้ำหวานฉ่ำเยิ้มเนืองนองเต็มไปหมด
นี่หล่อนคงอารมณ์ค้างจากเมื่อคืน จนเก็บไปฝันใช่ไหม?
เมื่อปลายนิ้วสัมผัสเกสรสวรรค์ ความหฤหรรษ์เสียวซ่านก็แล่นวาบไปทั่วร่าง นีรากัดเม้มริมฝีปากเมื่อมิอาจข่มใจหยุดยั้งได้อีกต่อไป เมื่อคืนหล่อนพลาดตกสวรรค์มาครั้งหนึ่ง ยังจะต้องมาพลาดในฝันอีก
เพราะคู่รักข้างห้องนั่นแท้ๆ ตั้งแต่ทั้งคู่ย้ายมาอยู่ห้องริมสุด นีราก็กลายเป็นสาวร่านสวาททุกครั้งที่ได้ยินเสียงครวญครางอย่างเสียวกระสันของทั้งคู่ หล่อนต้องปลดเปลื้องอารมณ์ตัวเองเพื่อให้เสร็จสมตามทั้งคู่ไป หลายครั้งเมื่ออารมณ์คุถึงจุดนีรานึกอยากซื้อดิลโด้มาช่วยปลดปล่อยอารมณ์ แต่ก็อายและหวาดกลัว หล่อนกลัวว่าเจ้าอวัยวะเทียมนั้นจะทำให้เจ็บ เลยได้แต่ใช้นิ้วช่วยตัวเองจนเสร็จสมขึ้นสวรรค์
ความคิดของนีราล่องลอยไปเรื่อยๆ สูงขึ้น และสูงขึ้น เมื่อสวรรค์ที่หล่อนสร้างกำลังจะสำเร็จเป็นรูปร่าง ดัชนีน้อยแหวกกลีบดอกไม้สวรรค์ล้วงล้ำสู่ใจกลางซึ่งมีน้ำหวานพร่างพรูหล่อนร้องครวญครางและหายใจแรง จนทรวงอกเต่งตึงกระเพื่อมตามจังหวะหายใจ นีราหลับตาพริ้มเมื่อมืออีกข้างขยี้ขยำอกตูมสองข้างสลับกันอย่างเมามัน ปลายเท้าเริ่มจิกเกร็งกับที่นอนเมื่อปลายทางปรากฏขึ้นรำไร นิ้วที่ล้วงล้ำเข้าไปยิ่งขยับรวดเร็วและรุนแรง
“อา...พี่ยักษ์ พี่ยักษ์ ช่วยนีด้วย นีจะเสร็จแล้ว...” นีราเผลอเรียกชื่อชายหนุ่มที่หล่อนแอบรักเหมือนทุกครั้ง
ความรู้สึกแตกกระจายกลายเป็นดวงดาวพริบพรายระยิบระยับ สุขสมราวล่องลอยบนสวรรค์ชั้นฟ้า
เมื่ออารมณ์รัญจวนผ่านไป นีราจึงกลับมายืนบนดินอีกครั้ง พร้อมกับความทรงจำเรื่องข่าวร้ายที่ได้รับเมื่อคืน
‘พี่ยักษ์จะเป็นยังไงบ้าง’
นีราตัดสินใจลุกจากเตียง พุ่งเข้าห้องน้ำ วันนี้หล่อนไปทำงานสายแน่ๆ เมื่อหญิงสาวหายเข้าห้องน้ำไปแล้ว ตรงปลายเตียงจึงปรากฏร่างที่ไร้เงา สายตาที่มองตามเต็มไปด้วยความดิบหื่น
“นีเป็นยังไง เมื่อคืนได้นอนบ้างหรือเปล่า” ภัทรา เจ้าเพื่อนคนเดิมที่โทรศัพท์บอกข่าวร้ายทักถามเมื่อเห็นหน้านีรา
แวบหนึ่งนีราอดไม่ได้ที่จะนึกถึงฝันประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อคืน กระทั่งทำให้หล่อนต้องเผด็จสวาทตนเองเป็นอย่างแรกในเช้าวันนี้
กลางวันนีรากลายร่างเป็นสาวเรียบร้อย พูดน้อย และเก็บงำความรู้สึก ผิดกับเวลากลางคืน...ยามที่ได้ยินเสียงเริงสวาทของคนข้างห้อง
“ก็...นอนไม่ค่อยหลับ แกได้ข่าวพี่เขาบ้างไหม”
“ฉันไปสืบมาแล้ว เห็นว่าพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่รู้สึกตัว พี่ยักษ์โชคดีเพราะว่าคาดเข็มขัดนิรภัย เลยมีแค่รอยฟกช้ำ กับบาดแผลภายนอก แกสบายใจได้พี่ยักษ์ยังมีร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์น่า”
“แล้วทำไมมันถึงเกิดอุบัติเหตุล่ะแก พี่ยักษ์เขาไปไหนแกรู้ไหม?” ท่าทางอ้ำอึ้งของเพื่อนทำให้นีราเดาออก “พี่ยักษ์ไปหาแฟนล่ะสิ”
