บท
ตั้งค่า

หนี

ปัง! เสียงปืนยิงขู่ไปทางด้านหน้าที่ทั้งสองกำลังวิ่งไป

“คุณทางนี้เร็วหน่อย”

เมื่อเห็นอีกคนช้าเกินไปมือใหญ่คว้าข้อมือเล็กจูงให้วิ่งตามเข้าไปในป่าลึก ท่ามกลางความมืดสนิทสำหรับคนปรับแสงไม่ทันอย่างอังวรี ตอนนี้เธอไม่ต่างจากคนตาบอด สองขาเร่งจังหวะก้าวให้ทันคนด้านหน้า

พ่อเลี้ยงคิมหันต์ไม่มีทางเลือกหากอยู่รอคนของตนเองมาช่วยคงไม่ทันการณ์ ถึงตอนนั้นเขาและเธอคงได้กลายเป็นศพไปเสียก่อนแน่ ทำได้เพียงพาหญิงสาวเดินเข้ามาในป่าลึกขึ้น ถึงจะไม่ปลอดภัยแต่นี่เป็นเส้นทางที่ตนเองรู้จักดี คิดว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในเวลานี้

แต่สำหรับอังวรีแล้วไม่ใช่เลย เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับตัวเองกันแน่ กำลังหนีอะไรอยู่ แล้วผู้ชายคนที่บอกว่ามาช่วยเนี่ยไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหนกัน

ทุกอย่างตั้งอยู่ในความไม่รู้ทั้งหมดแต่ก็ไม่ได้มีทางเลือกมากนักนอกจากเชื่อใจผู้ชายตรงหน้า อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่คนที่เล็งปืนมาทางเธอ

นานเท่าไหร่ไม่รู้ ยิ่งเดินเข้าไปลึกหนทางยิ่งเดินยากขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มไม่มีทางเรียบให้เดินเส้นทางเริ่มมีเนินหินกอหญ้าเล็กใหญ่สลับกันไป ตลอดทางที่เดินมาขาเรียวเตะเจ้าหินพวกนั้นไปหลายรอบทั้งยังต้นหญ้าที่บาดแขนขา

ยังโชคดีที่หญิงสาวใส่กางเกงขายาวมา พ่อเลี้ยงเองก็รู้ว่าเส้นทางนี้มันลำบากกว่าการเดินเขามาก ยิ่งในเวลากลางคืนเช่นนี้ ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กก็สู้ไม่ถอยไม่มีบ่นสักคำ

หากเป็นเวลากลางวันเขาคงได้เห็นใบหน้าซีดเซียวกับเหงื่อที่ผุดเต็มใบหน้าสวยและลำตัวของเธอไปแล้ว

“คุณฉันคิดว่าฉันเดินต่อไปไม่ไหวแล้ว คุณหนีไปก่อนเลย” อังวรีรีบบอกเมื่อรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะเป็นตัวถ่วงในเร็ว ๆ นี้

“ผมมาช่วยคุณนะ จะให้ทิ้งคุณไว้อย่างนี้ได้ยังไงกัน อีกอย่างนี่ก็ใกล้ถึงแล้ว”

“ใกล้ถึงเหรอ หมายความว่าคุณรู้ทางออกจากที่นี่”

“อืม! อดทนหน่อยนะ” เขาให้กำลังใจ

อย่างที่เขาบอกเดินต่ออีกไม่นานก็จะถึงจุดชมวิวที่เป็นหน้าผาสูง หากเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ขึ้น ตรงนี้จะเป็นสถานที่ที่สวยงามมาก แต่หากมาช่วงเวลานี้ก็เป็นสถานที่น่ากลัวที่หนึ่งเลยเช่นกัน เพียงแค่ก้าวพลาดก็อาจไม่มีชีวิตกลับไป

พ่อเลี้ยงคิมหันต์ตัดสินใจหยุดให้หญิงสาวได้พักเสียหน่อย คิดว่าคงหนีมาได้ไกลจากพวกนั้นแล้ว แต่คิดผิดเพียงไม่นานหลังจากทั้งสองหยุดพัก ก็มีเสียงฝีเท้ากลุ่มคนวิ่งตรงมาทางที่พวกเขาอยู่ คราแรกคิดว่าสลัดพวกนั้นหลุดแล้ว แต่พวกมันกับตามมาทัน

“แย่แล้วคุณพวกนั้นตามมาทันแล้ว” อังวรีบอกด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล

“ฉันว่าคุณรีบหาที่หลบก่อนเถอะช่วยฉันเท่านี้ก็พอแล้วขอบคุณมาก”

“หมายความว่าไง คุณจะยอมแพ้แล้วเหรอ”

“ฉันจะสู้ในวิธีของฉัน“

“หมายความว่าไง” พ่อเลี้ยงถามย้ำไม่เข้าใจว่าหญิงสาวคิดจะทำอะไรกันแน่

“เถอะน่า คุณไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงกับคนแปลกหน้าอย่างฉันหรอก วันนี้มีคนตายมากพอแล้ว”

“แล้วคุณจะทำยังไง ไอ้วิธีของคุณน่ะ” คนไม่เชื่อยังคงคาดคั้นถามต่อ

“....” ไม่มีคำตอบมีแต่ความเงียบ

“สองคนก็ดีกว่าคนเดียวไม่ใช่หรือไง มาไกลได้ขนาดนี้แล้วจะมายอมแพ้อะไรตอนนี้”

“แต่ว่า...”

ยังไม่ทันจะได้พูดต่อเสียงตะโกนเยาะหยันดังแทรกขัดเสียก่อน

“ฮา ๆ ไม่มีทางให้หนีแล้วถ้าไม่อยากตายก็เอาของของกูคืนมา”

“ของอะไรฉันไม่รู้เรื่อง”

“อย่ามาทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย ก็ของที่มึงหยิบผิดไป เอาไปไว้ที่ไหน”

“ของอะไร ฉันไม่รู้เรื่องจริง ๆ”

“กูรู้ว่ามึงรู้รีบเอาคืนมาดี ๆ แล้วกูจะปล่อยพวกมึงไป”

ปล่อยไปอย่างนั้นหรือขนาดนักท่องเที่ยวพวกนั้นไม่รู้เรื่องอะไรด้วยพวกมันยังฆ่าทิ้งได้ง่ายๆเลย นับประสาอะไรกับเธอ

“แค่เอสดีการ์ดอันเดียวถึงกับต้องฆ่าคนที่ไม่รู้เรื่อง พวกแกคงทำเรื่องไม่ดีไว้สินะ แล้วเอสดีการ์ดนั้นก็คงเป็นหลักฐานสำคัญมากถึงได้ตามมาไม่คิดชีวิตแบบนี้”

“ปากดีแบบนี้ แสดงว่าเปิดดูแล้วสินะ”

“ใช่ฉันเห็นทั้งหมดแล้ว เรื่องชั่ว ๆที่พวกแกทำไว้กัน ถ้าฉันไม่ตายพวกแกไม่รอดแน่ ฉันจะทำให้คนชั่วอย่างพวกแกได้รับกรรมที่ทำไว้”

-นี่หรือคือวิธีต่อสู้ที่เธอบอก เป็นวิธีฆ่าตัวตายชัดๆสถานการณ์ที่ปืนจ่อหน้าแบบนี้ยังกล้าต่อล้อต่อเถียงพวกชั่วนี่ -คิมหันต์คิดในใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel