บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

ด้วยความร้อนใจทำให้ภาคินตัดสินใจโทรเข้าไปหามัฑณาวีที่บริษัท จึงได้รู้ว่าความจริงว่าหญิงสาวถูกบริษัทเลิกจ้างด้วยเหตุผลเพียงเพราะบริษัทต้องการลดต้นทุน แต่ภาคินกลับรู้สึกว่าเรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำมากกว่านั้น ทันใดนั้นเองสายเรียกเข้าก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าปลายสายเป็นใครจึงรีบกดรับ

“เห็นข้อความของมัทแล้วล่ะสิ”

“ใช่ค่ะ พี่พิซซี่ติดต่อพี่มัทได้ไหมคะ ลียาพยายามโทรศัพท์เข้ามือถือของพี่มัท แต่พี่มัทก็ไม่ยอมรับสาย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพี่มัทถึงส่งข้อความมาแบบนี้”

น้ำเสียงของสาวรุ่นน้องฟังดูร้อนรน ทั้งที่ปกติแล้วไม่ว่าเหตุการณ์อะไร ก็จะไม่สามารถทำให้ฬียากรตื่นตระหนกได้ยกเว้นเรื่องของมัฑณาวี หญิงสาวที่เธอรักเสมือนพี่สาวของตนเอง ทั้งที่ไม่ได้มีความผูกพันกันทางสายเลือด

“พี่ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกันเลยโทรเข้าบริษัท ทางนั้นบอกว่ามัทถูกเลิกจ้าง”

“ถูกเลิกจ้าง!”

“ใช่ พี่ว่าเรื่องนี้มันต้องมีเงื่อนงำบางอย่าง”

“หรือจะเป็นเพราะเรื่องนั้น”

“เรื่องอะไร!?” ภาคินย้อนถามด้วยความงุนงงปนสงสัย

“ไว้เจอกันแล้วลียาจะเล่าให้พี่ฟัง แต่ตอนนี้เราต้องหาตัวพี่มัทให้เจอก่อนที่พี่มัทจะตัดสินใจทำอะไรลงไป”

“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่เอง”

“พี่พิซซี่จะทำยังไงคะ”

“ประกาศตามหาคนหาย”

“ถ้าพี่ได้ข่าวพี่มัทโทรบอกลียาด้วยนะคะ”

“ไม่มีปัญหา ได้เรื่องยังไงจะรีบติดต่อกลับไป”

เมื่อภาคินวางสายก็ลองโทรศัพท์เข้ามือถือของสาวเจ้าปัญหาอีกครั้ง แต่ปลายทางก็ยังไม่ยอมรับสายอยู่ดี เขาจึงโพสต์ประกาศตามหาคนหายที่หน้าเฟซบุ๊กของหญิงสาว

‘ประกาศตามหาตัวมัฑณาวี วรรธนานนท์...ใครที่ทราบเบาะแสของผู้หญิงคนนี้ ช่วยบอกด้วยว่าเจ้าหนี้ต้องการพบตัวด่วนมาก อย่าแม้แต่จะคิดฆ่าตัวตายหนีหนี้เด็ดขาด’

ที่มัฑณาวีไม่ได้รับสายเพราะเธอปิดเสียงโทรศัพท์มือถือของตนเองในช่วงเวลางาน กว่าจะรู้ตัวว่าเพื่อนรักทั้งสองโทรมานับสิบสาย ก็เป็นช่วงจังหวะที่หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่ออ่านไลน์ หลังจากทิ้งบอมบ์ไปว่าฉันอยากตาย ยังไม่ทันที่จะได้โทรกลับก็มีสายของภาคินโทรเข้ามาพอดี

ทันทีที่กดรับก็ได้ยินเสียงของเพื่อนรักด่าเสียงดังมาตามสาย จนต้องรีบยกหูโทรศัพท์ออกห่างก่อนที่จะกลายเป็นคนหูหนวก

“รับสายได้เสียที แกจะมีโทรศัพท์มือถือไว้ทำไมถ้าจะไม่รับสายคนโทรเข้า ต้องให้ฉันด่าซะก่อนใช่ไหมถึงจะสบายใจ”

“นี่โทรมาด่ากันโดยเฉพาะเลยว่างั้น”

“ใช่ ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน รู้ตัวไหมว่าทำให้คนสองคนเป็นห่วง”

“ห่วงเรื่องอะไร”

“ถามมาได้ว่าห่วงเรื่องอะไร ก็ห่วงเรื่องที่แกทิ้งบอมบ์ไว้ในไลน์กลุ่มว่าแกอยากตายน่ะสิยะ แกยังตายไม่ได้ถ้าฉันไม่อนุญาตเข้าใจไหม ตอบมาก่อนว่าตอนนี้แกอยู่ที่ไหน”

“ดิเอ็มไพร์”

“ตรงไหนของดิเอ็มไพร์พูดมาให้ชัด ๆ”

“ร้านกาแฟที่เราเคยนัดเจอกัน”

“โอเค รอฉันอยู่ที่นั่นเลยนะ ห้ามไปไหนจนกว่าฉันจะไปถึง ฉันจะรีบไปหาแกเดี๋ยวนี้”

หลังจากวางสายภาคินก็รีบโทรศัพท์กลับไปหาฬียากรทันที เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายคงจะร้อนใจด้วยความเป็นห่วงใยในตัวมัฑณาวี

“พี่ติดต่อมัทได้แล้วนะ”

“พี่มัทไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมคะ” หญิงสาวรีบย้อนถามกลับไปด้วยความร้อนใจ

“ยังไม่ตาย เอาเป็นว่าลียามาพบพี่ที่ร้านกาแฟ ในห้างสรรพสินค้าดิเอ็มไพร์ตรงข้ามกับออฟฟิศของมัทก็แล้วกัน พี่นัดเจอมัทที่นั่น”

“ได้ค่ะ ลียาจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

หลังจากนัดแนะกันอย่างดีแล้วก็วางสาย ทั้งคู่ต่างก็ขับรถไปที่จุดนัดพบด้วยความร้อนใจไม่ต่างกัน ที่ทำเช่นนั้นได้เพราะวันนี้ฬียากรไม่ต้องไปทำคดีที่ศาลและนั่งทำงานอยู่ที่ออฟฟิศ ด้วยความหว่งใยในตัวมัฑณาวีเธอจึงขอลางานเพื่อไปตามนัด ส่วนภาคินก็เป็นเจ้าของเอเจนซี่ที่คอยมองหาคนที่หน้าตาดีและมีบุคลิกที่โดดเด่น เพื่อชักชวนพวกเขาเหล่านั้นให้ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง เวลาในการทำงานของเขาจึงยืดหยุ่นได้ตามแต่ใจ

ในระหว่างที่มัฑณาวีกำลังนั่งจิบกาแฟรอเพื่อนทั้งสองอยู่นั้น เธอได้เปิดเฟซบุ๊กของตนเองแล้วก็เห็นประกาศตามหาคนหายของภาคิน

“ใช้วิธีนี้เลยเหรอพิซซี่ ร้ายจริง ๆ” จากนั้นก็รีบโพสต์คอมเมนต์ตอบกลับไปทันที

‘ไอ้เพื่อนบ้า! ฉันไปเป็นหนี้แกตั้งแต่เมื่อไร’

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกระแนะกระแหนลอยมากระทบหู

“ทำไมถึงว่างมานั่งจิบกาแฟอยู่ตรงนี้ได้ เจ้านายเธอจะรู้ไหมว่าเธอเอาเวลางานของบริษัทมานั่งส่องผู้ชายอยู่ที่นี่”

เสียงนั้นคุ้นหูจนทำให้มัฑณาวีต้องหันกลับไปมอง แล้วก็พบกับโจทย์เก่ากำลังเดินตรงมานั่งลงตรงข้ามตนเองโดยที่เธอไม่ได้เชื้อเชิญ

“ทำไมวันนี้ฉันถึงได้ซวยซ้ำซวยซ้อนแบบนี้นะ” หญิงสาวบ่นพึมพำกับตนเองเบา ๆ พร้อมกับแอบเบ้ปาก สีหน้าแสดงถึงความเบื่อหน่ายเมื่อต้องมาพบกับคู่ปรับเก่าโดยบังเอิญเช่นนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel