คิมหันต์พิศวาส

75.0K · จบแล้ว
Readed
33
บท
751
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อแอนเนทท์ ลอง มองเห็นโจชัว ดีน ในครั้งแรกนั้น เธอก็รู้สึกพึงพอใจ และมั่นใจว่าเสน่ห์ของเธอจะทำให้เขายอมสยบ แต่ครั้งนี้เธอคิดผิดที่ลองเล่นกับไฟ แม้ว่าโจชัว เองจะพอใจในตัวเธอ แต่เขาก็หยิ่งเกินกว่าที่จะยอมตกหลุมพรางนั้น ผู้ที่รู้สึกพ่ายแพ้จึงกลายเป็นแอนเนทท์ จอมวางแผนนั่นเอง

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักรักหวานๆดราม่าโรแมนติก

บทที่1

ดวงอาทิตย์เหนือฟากฟ้าแห่งนอร์ธ คาโรไลน่าสาดละไอแห่งความร้อนอบอ้าวลงมาทั่วชวนให้บรรยากาศไม่แจ่มใสผู้คนได้รับอิทธิพลจากความร้อนนั้นพลอยบังเกิดความรู้สึกเฉื่อยชาอ่อนเปลี้ยอย่างบอกไม่ถูก สายลมที่ระรวยจากมหาสมุทรแอตแลนติคมิได้ช่วยบรรเทาความร้อนลงได้ในท่าที่นั่งคุกเข่าอยู่แอนเนทท์ ลองค่อยไล้ครีมป้องกันผิวลงบนช่วงขาสีทองนวล ขณะที่ดวงตาสีเทาควันกวาดไปรอบๆ บริเวณสระว่ายน้ำจับสังเกตบุคลิกลักษณะของบรรดาแขกคนอื่นๆ ที่ทอดกายพักผ่อนกันอยู่ในบริเวณนั้น

หนุ่มสาววัยรุ่นคู่หนึ่งกำลังระเริงกันอยู่กลางสระเปล่งเสียงสำรวลอย่างสนุกสนานเมื่อต่างฝ่ายต่างพยายาจะกดอีกฝ่ายหนึ่งให้จลงในน้ำส่วนคนอื่นๆ นั้นทอดกายอย่างเกียจคร้านอยู่บนเก้าอี้ริมสระตัวยาวซึ่งทางโรงแรมได้จัดตั้งเรียงรายไว้ดูเหมือนทุกคนจะมีกิจกรรมที่มิได้ผิดแผกแตกต่างไปกว่ากันนักคือการไล้ผิวด้วยครีมกันแดดลงบนเรือนกาย เช่นที่แอนเนทท์กำลังทำอยู่ในเวลานี้

เมื่อเสร็จสรรพแล้วเธอก็ปิดจุกขวดลงหันไปมองน้องสาวรอยยิ้มอ่อนๆ จุดขึ้นบนริมฝีปากแม้แววในดวงตาคู่นั้นจะฉายแววรักใคร่แต่มันเจือแววเศร้าอยู่มาชาสาวน้อยผมดำดวงตาสีฟ้ากำลังให้ความสนใจกับหนังสือที่ถืออยู่ในมือน้องสาวของเธอแต่งชุดอาบน้ำแบบคนที่รักนวลสงวนตัวเป็นชุดชิ้นเดียวติดกันสีฟ้าในวัย 18 เช่นนี้ มาชามีทุกสัดส่วนบนเรือนกายที่บอกถึงความเป็นสาวทรงเสน่ห์คนหนึ่งแต่เธอออกจะเป็นคนสงบพูดน้อยกิริยาท่าทางสงบเสงี่ยมไม่รู้จักการใช้จริตกิริยาใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งทำให้แอนเนทท์มีความรู้สึกว่าเธอจำเป็นที่จะต้องชี้แนะแนวทางแก่น้องสาวคนนี้อยู่

บางครั้งมันก็ออกจะเป็นการยากสำหรับแอนเนทท์ที่จะทำให้เชื่อว่า เธอทั้งคู่คือพี่น้องกันเพราะเธอกับมาชามีลักษณะที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ที่มองเห็นง่ายๆ ก็คือแอนเนทท์มิได้มีบุคลิกลักษณะของคนสงบเสงี่ยมเช่นน้องสาวแม้แต่น้อย เธอเป็นคนอิสระและมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวถ้าจะต้องทำในสิ่งที่จนต้องการ รูปร่างเรือนกายระหว่างเธอกับมาชาก็แตกต่างกว่ากันมาก เรือนผมยาวประไหล่ของแอนเนทท์เป็นสีน้ำตาลอ่อน หยักสลวยเป็นลอนราวขนนกที่อ่อนนุ่ม ส่วนมาชาผมดำตัดสั้นเป็นทรงบ๊อบแบบเด็กผู้ชาย ซึ่งมิได้ช่วยเสริมความงามให้เพิ่มขึ้นแต่อย่างใดดวงตาของน้องสาวเป็นสีฟ้าใสส่วนของแอนเนทท์เป็นสีเทาควันซึ่งมีแววเฉลียวฉลาดจุดประกายอยู่ตลอดเวลา

พี่น้องสองสาวเป็นผู้มีเรือนร่างโปร่งบาง สูงกว่าอัตราถัวเฉลี่ยเล็กน้อย แต่ในขณะที่มาชาปิดบังรูปร่างที่สมสัดส่วนไว้ในชุดอาบน้ำแบบเรียบร้อย แอนเนทท์กลับเปิดเผยเนื้อตัวอย่างเต็มที่ ชุดอาบน้ำสีขาวนั้นแม่จะเป็นชิ้นเดียวกันก็จริงแต่จะให้เรียกว่าเรียบร้อยแบบสมัยเก่าอย่างของมาชาไม่ได้ ทั้งนี้เพราะด้านข้างของตัวเสื้อถูกคว้านออกลงไปจรดลึกด้านแผ่นหลัง

แอนเนทท์กับมาชาแตกต่างกันราวกับกลางวันและกลางคืนก็ว่าได้ แคทลีนมารดาเลี้ยงเคยวิจารณ์เธอทั้งสองไว้ว่าเหมือนนางปีศาจกับนางฟ้า ซึ่งเท่าที่แอนเนทท์จะจำได้มันก็มิใช่คำวิจารณ์ที่มุ่งหมายจะให้เป็นการเสื่อมเสียอะไร เพราะง่ายๆ ก็คือมาชานั้นออกจะไร้เดียงสา ส่วนแอนเนทท์เป็นผู้พร้อมที่จะ “สร้าง” ให้ปัญหาเกิดขึ้นมากกว่าที่จะรอให้ปัญหานั้นเกิดขึ้นเอง ดังนั้นจึงมีอยู่หลายครั้งที่เธอมักจะประสบกับความยุ่งยากแต่ก็ฉลาดพอที่จะพาตัวพ้นออกจากปัญหานั้นได้

“เอ้า” แอนเนทท์ยื่นขวดครีมกันผิวให้กับน้องสาว

“ใช้เสียสิเดี๋ยวก็เป็นล็อบสเตอร์หรอก”

ที่จริงมาชาออกจะมีผิวพรรณคล้ำกว่าแอนเนทท์เสียอีกที่ผิวแพ้แดดง่าย

“ขอบใจ”

มาชาวางหนังสือในมือคว่ำหน้าลงไว้เพื่อมิให้หน้าที่กำลังอ่านอยู่ตลาดเคลื่อนออกไป ขณะที่ไล้ครีมไปตามช่วงแขนสีหน้าของสาวน้อยบอกความเคลิ้มฝันอยู่

“ที่นี่สบายดีจังนะพี่ว่าไหม แอนนชเนทท์ ตอนที่พ่อบอกว่าเราจะได้มาพักผ่อนกันที่ไร้ท์สวิลล์ บีช นี่น่ะฉันไม่นึกว่ะอจะพูดจริงด้วยซ้ำ”

“ทำไมล่ะ?” แอนเนทท์เอนกายลงบนเก้าอี้ยาวปิดเปลือกตาลงรับความอบอุ่นจากแสงแดด

“โธ่...ก็ทุกครั้งที่พ่อกลับบ้าน พ่อก็มักจะอยู่แต่ที่เดลลาแวร์ ไม่น่าแปลกใจหรอกถ้าจะคิดถึงว่าพ่อต้องเดินทางไปไหนมาไหนอยู่ตลอดเวลาน่ะ” มาชาพูดอย่างให้เหตุผล

“มันก็จริงอยู่หรอก” แอนเนทท์ออกจะเห็นด้วย

“แต่พ่อก็รู้นี่ว่าแคทลีนเขาก็ต้องอยู่บ้านตลอดเวลาเหมือนกันนี่ตอนที่พ่อไม่อยู่ มันก็เป็นธรรมดาอยู่หรอกที่เขาจะต้องอยากจะออกไปไหนเสียบ้างสักพัก โดยเฉพาะตอนนี้ ล็อบบี้ก็โตแล้ว”

เธอเสริมเอ่ยถึงน้องชายวัย 5 ขวบที่เกิดจากมารดาเลี้ยง

“พี่พูดถูก” มาชาคล้อยตาม

“แล้วก็...อย่างที่พ่อพูดนั่นแหละเราสองคนก็เข้ามหาวิทยาลัยแล้ว เพราะฉะนั้นมันก็ยากที่จะพูดอยู่เหมือนกันว่าเมื่อไหร่พวกเราทั้งครอบครัวจะได้พักผ่อนร่วมกันอย่างนี้”

“เพราะฉะนั้นฉันถึงตั้งใจว่าจะหาความสุขจากการพักผ่อนครั้งนี้ให้มากที่สุดไงล่ะ” แอนเนทท์เปิดเผยถึงความตั้งใจ

เสียงฝีเท้าที่เดินใกล้เข้ามาทำให้เธอเผยอเปลือกตาขึ้นมองบริกรในเครื่องแบบซึ่งเดินให้บริการอยู่รอบสระเข้ามาหยุดอยู่ใกล้เก้าอี้ตัวที่มาชานั่ง มีถาดเปล่าอยู่ในมือแอนเนทท์ซ่อนความชื่นชมในตัวเขาไว้อย่างชาญฉลาด เขาเป็นเด็กหนุ่มวัยประมาณ 20 เรือนผมสีบลอนด์ ผิวคล้ำ หน้าตาดีมาก และยังอะไรต่อมิอะไรอีกหลายอย่าง

“จะให้ผมนำเครื่องดื่มอะไรมาเสิร์ฟดีครับ?”

รอยยิ้มที่กระจายอยู่บนใบหน้าทำให้ชวนมองยิ่งขึ้นและมาชาก็หน้าแดงขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นแววแทะโลมในดวงตาคู่นั้น

แอนเนทท์ก็ยกมือข้างหนึ่งขึ้นป้องแสงแดดอยู่บนหน้าผาก ซึ่งอาการเช่นนั้นเรียกความสนใจจากบริกรหนุ่มทันทีแววชื่นชมปรากฏอยู่ในดวงตา ขณะที่กวาดไปทั่วเรือนร่างสีน้ำตาลอ่อนอมทอง และชุดอาบน้ำที่เปิดเผยของเธอ มาชาดูราวจะถูกลืมไปแล้ว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็มิได้รอดพ้นจากความสังเกตของแอนเนทท์ไปได้ และก็มิได้สร้างความแปลกใจให้กับเธอแต่อย่างใด การแสดงออกของเขาเผยให้เห็นความจริงประการหนึ่งว่าเขาชอบผู้หญิงผมสีบลอนด์มากกว่าสีดำ

“ฉันขอชาดำเย็นนะคะ”

แอนเนทท์สั่งพร้อมด้วยรอยยิ้มเชิญชวนบนใบหน้าบางทีมันก็อาจจะไม่เป็นการยุติธรรมนักที่จะแย่งความสนใจของเขามาเสียจากน้องสาว แต่มันอาจจะเป็นสำนึกแห่งการปกป้องคุ้มครองน้องไว้ก็ได้นี่ มาชาไร้ประสบการณ์อย่างเหลือเชื่อโดยเฉพาะในเรื่องการจับผู้ชาย เพราะฉะนั้นสมควรจะต้องกันออกจากทางของนายคนนี้

“มะนาวด้วยไหมครับ?” บริกรผู้นั้นถามใช้สายตาโลมเลียมให้แอนเนทท์รู้แจ้งว่าเขาพึงใจในตัวเธอ

“ดีทีเดียวค่ะ”

แววในดวงตาของแอนเนทท์แสดงให้เห็นว่าเธออ่านการสื่อสารของเขาออกแสร้งทำเป็นว่าเขาสร้างความรู้สึกระทึกใจให้ด้วยซ้ำก่อนที่จะปรายตามองไปทางมาชาซึ่งดูเหมือนจะซ่อนเร้นความผิดหวังไว้ได้ไม่แนบเนียนเท่าใดนัก

“เธอล่ะเอาชาดำเย็นด้วยหรือเปล่า?”

“ค่ะ...ได้โปรด” มาชาทวนคำสั่งของแอนเนทท์ด้วยเสียงแผ่ว

“เดี๋ยวผมจะเอามาให้ทันทีเลยครับ” บริกรผู้นั้นให้คำมั่น

“ถ้าคุณต้องการอะไรมากกว่านั้นละก็ผมชื่อเครกนะครับ”

“ตอนนี้เห็นจะขอแค่ชาก่อนเท่านั้นขอบใจมาก เครก” แอนเนทท์ตอบด้วยน้ำเสียงแห้งแล้วเขาโค้งคำนับให้เธอล้อๆ ก่อนที่จะถอยกลับออกไป

แอนเนทท์กลิ้งร่างลุกขึ้นนั่งเอามือกอดเข่าไว้มองตามร่างเขาไป เธอไม่ได้สนใจในตัวพ่อหนุ่มคนนี้เลยแม้แต่น้อยแต่ก็รู้ว่ามาชาสนใจ และเพื่อเห็นแก่น้องสาวเธอต้องการให้แน่ใจถึงความรู้สึกนึกคิดของมาชาที่มีต่อเขาเสียก่อน

“เธอว่าเขาเข้าท่าดีไหม แอนเนทท์?” มาชาถามขึ้นอย่างครุ่นคิด

“ก็อย่าไปคิดว่าพ่อหนุ่มคนนี้ไม่รู้ด้วยก็แล้วกัน” แอนเนทท์วิจารณ์คำถามของน้องสาวเยาะๆ เพราะในสายตาของเธอแล้วรู้สึกว่านายเครกคนนี้ออกจะภาคภูมิใจในความหล่อของตัวเองมากไปหน่อย

“เอ๊ะ ทำไม่พี่ถึงทำเสียงเหมือนไม่แยแสอย่างนั้นล่ะ” มาชาออกจะพิศวงอยู่

“ฉันเห็นนี่นาว่าเวลาที่เขามองพี่น่ะมันเป็นยังไงสนใจเต็มที่เลยละ”

น้ำเสียงของน้องสาวมิได้บอกแววอิจฉาเลยแม้แต่น้อย เพราะชินเสียแล้วกับการที่มีผู้ชายมารุมล้อมพี่สาวมากกว่าตัวเอง

“ไว้ให้เธอโตเสียก่อนเถอะ มาชา แล้วจะรู้ว่าผู้ชายในแบบของพ่อเครกคนนี้น่ะรักตัวเองมากกว่า” แอนเนทท์อธิบายให้น้องสาวฟัง

“คนแบบนี้ชอบคิดว่าตัวเองสามารถสร้างความหวั่นไหวให้ผู้หญิงได้”