บท
ตั้งค่า

บทที่ 6

“มื้อนี้แกเลี้ยงเลยนะยัยเฟื่อง โทษฐานทำให้คนสวยอย่างฉันตกใจ” จังหวะที่กำลังหย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ เก๋ไก๋ก็เอ่ยขึ้น แต่คนที่พึ่งอกหักรักคุดมาเมื่อคืนกลับเออออตาม

“ฉันด้วย ฉันก็ตกใจ”

“แหม…ที่อย่างนี้รวมหัวกันมาเลยนะ” เฟื่องรัตน์แยกเขี้ยวให้ทั้งสองคน

“จะเลี้ยงฉันดีๆ ไหมยะ”

“เลี้ยงก็เลี้ยงอ่ะ”

“เออ…นี่แกโอเคใช่ไหมษา” แต่ก่อนที่จะได้กินอะไร เก๋ไก๋ก็หันมาถามวันเมษาเสียหน่อย

“อื้อ…ไม่ได้เป็นอะไรนี่ หรือท่าทางฉันเป็น”

“ท่าทางน่ะไม่มี แต่ยิ่งแกไม่แสดงออก พวกฉันก็ยิ่งห่วง”

“ใช่ๆ แกเปิดประเด็นมาตรงใจฉันมากเก๋ไก๋ เอ้านี่รางวัล” เฟื่องรัตน์ตักส้มตำปูปลาร้ารสจัดใส่จานให้เก๋ไก๋เต็มช้อน เพื่อเป็นรางวัลที่พูดได้ตรงกับใจเธอ

“จะว่าไปก็เป็นอยู่นะ มันยังจี๊ดๆ ยังโหวงๆ ในอกแปลกๆ”

“เวลาจะทำให้แกดีขึ้นเอง” คำพูดของเก๋ไก๋ วันเมษาได้แต่เอ่ยรับ น่าแปลกแม้เธอจะเสียใจมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน แต่กลับไม่มีน้ำตาสักหยด

“อื้อ…คงต้องแบบนั้นแหละ จะทำไงได้เนอะ ฉันไม่ใช่คนที่พี่เขาเลือกนี่นา”

“แกนี่แกร่งกว่าที่ฉันคิดไว้อีกษา ขืนเป็นฉันนะ เจอสถานการณ์แบบนี้ คงง่อยแดก ไปไม่เป็นแน่ๆ เมื่อคืนถูกบอกเลิก เช้ามายังต้องมาเจอกันที่ทำงานอีก” เฟื่องรัตน์ย่นจมูก เพราะถ้าเธอเจอเหตุการณ์อย่างเมื่อคืน ไปไม่เป็นจริงๆ

“ยังดีหน่อย ที่วันนี้พี่วีณ์ออกกองต่างจังหวัด ไม่งั้นฉันก็คงง่อยแดกเหมือนกันล่ะเฟื่อง”

“แล้วยัยเอวานั่นล่ะ” พอพูดถึงเอวาแล้วเก๋ไก๋ก็ของขึ้นเบาๆ

“ก็ไปเป็นนางแบบ ให้พี่วีณ์ที่ออกกองไปถ่ายกันที่สวนผึ้งวันนี้นี่แหละ”

“หูย…ป่านนี้คงนัวเนีย จนคนในกองถ่ายเอียนกันไปหมดแล้วมั้ง”เฟื่องรัตน์ทำปากเป็นสระอิเมื่อเอ่ยจบประโยค

“จะนัว จะเนียหรือจะอะไรก็เรื่องของเขาเถอะ ไม่เกี่ยวกับฉันแล้ว”วันเมษาเอ่ยปลงๆ เพราะเธอไม่อยากไปยุ่งวุ่นวายเหมือนกัน เดี๋ยวจะหาว่าไปเป็นมือที่สาม แทรกระหว่างกลางคู่ที่แสนจะเหมาะสมกัน

เพราะวันนี้ที่บริษัท พอรู้ข่าวว่าเอวาและปรวีณ์กำลังคบหากันอยู่ ใครๆ ก็ต่างเชียร์ ต่างสนับสนุน ช่างต่างกับเธอราวฟ้ากับเหว ไม่สิ ไม่ใช่ เรื่องของเธอกับปรวีณ์ ไม่มีใครรู้ว่าก่อนหน้านี้กำลังเดตกันอยู่ด้วยซ้ำไป คิดแล้วก็พานให้เศร้าใจ เฮ้อ! คิดแล้วเศร้า วันเมษาจึงกินส้มตำปูปลาร้าแก้อาการอกหักรักคุดเสียเลย

ขณะที่กำลังนั่งทานส้มตำบำบัดอาการอกหักอยู่นั้น อยู่ๆ เฟื่องรัตน์ก็ตักอกไก่ชิ้นโตมาวางใส่จานให้วันเมษา

“นี่สำหรับแก”

“อกไก่ เอากลับไปเลย ฉันจะอิ่มแล้ว”

“กินไปเยอะๆ เขาบอกว่ากินไก่จะได้ดูมๆ” เฟื่องรัตน์ยักคิ้วให้

“กินมาตั้งแต่ยังสาว ป่านนี้ก็ไม่ดูมๆ สักที ดีไม่ดี ไปตรวจสุขภาพปลายปีอาจเจอว่าเป็นโรคเก๊าท์ เพราะกินไก่เยอะเกินไปนี่แหละ” วันเมษาก้มมองหน้าอกตัวเองอีกครั้ง คิดแล้วก็กลุ้มใจกับความเล็กของตัวเอง

“นี่ก็พูดไปนั่น” เก๋ไก๋ส่ายหน้าให้คนพูด

“คิดแล้วก็ เฮ้อ!...กลุ้มใจ ชักอยากจะเมา” ได้ยินประโยคนี้ เฟื่องรัตน์ก็แย้งทันควัน

“อย่าๆ ไม่ต้องพูดเลย แกคออ่อนมาก กินเหล้าไปแค่แก้วสองแก้วนี่เมาอย่างกับกินเป็นขวดๆ แล้วถ้าแกเมาทีไร พวกฉันเดือดร้อนตลอด ไม่แก้ผ้านอนก็ไล่ปล้ำคนอื่น ฉันไม่อยากเสียตัวให้เพศเดียวกัน” วีรกรรมตอนเมาของวันเมษาน้อยเสียเมื่อไหร่ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยเรียน รู้ตัวว่าเมาแล้วจะชอบนอนแก้ผ้า ไหนจะไล่ปล้ำไล่กอดคนข้างๆ ยังจะชวนไปดื่มอีก

เฟื่องรัตน์จำวีรกรรมการเมาแบบสุดโต่งของวันเมษาได้ดี คือคืนฉลองเรียนจบ คืนนั้นวันเมษาเมาหนักมากถึงขนาดไปนัวเนียผู้ชายโต๊ะข้างๆ จนเกือบถูกชะนีที่มาด้วยตบเข้าให้ ดีที่เก๋ไก๋กับเธอเข้าไปห้ามทัน

“ใช่ๆ แล้วที่สำคัญ อย่าไปเมากับใครที่ไม่ใช่พวกฉันสองคนเด็ดขาด เข้าใจไหมยัยษา”

“จ้ะๆ รู้แล้ว” วันเมษารับคำ เพราะตั้งแต่ก่อเรื่องวันฉลองเรียนจบ เธอก็แทบไม่แตะเหล้าเลย จะมีจิบบ้าง นิดๆ หน่อยๆ ตามโอกาสเท่านั้น

“กินต่อเถอะ เดี๋ยวส้มตำจะเซ็ง พานไม่อร่อย” เก๋ไก๋เอ่ยชวน

“เอ้านี่ กินไปเยอะๆ” เฟื่องรัตน์ยังคงตักไก่ ตักส้มตำให้วันเมษาไม่ได้หยุด ตามด้วยเก๋ไก๋ บริการดีไม่มีตก แต่ท่าทางแบบนี้มีหรือที่ทั้งสองจะมองไม่ออก ว่าตอนนี้เฟื่องรัตน์อิ่มแล้วนั่นเอง ถึงได้นั่งสวยๆ บริการทุกอย่างให้เพื่อนแบบนี้

ธาวิน ใช้เวลาว่างระหว่างพักเบรกที่แสนจะมีค่า ด้วยการนั่งมองนามบัตรของวันเมษา ส่วนอีกมือหนึ่งนั่นถือโทรศัพท์ยี่ห้อดังกำลังชั่งใจอยู่ว่าจะกดโทร ออกหาเธอดีหรือไม่ ถ้าโทรไปแล้วจะเริ่มคุยอะไรกับเธอก่อนดี หมอหนุ่มดูจะเคร่งเครียดกับบทสนทนาที่ยังไม่เกิด ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยเป็นแบบนี้กับใครมาก่อน แต่นี่กลับมาประหม่ากับผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ทว่าอายุมากกว่าเขาสี่ปี!

“เอาวะ เป็นไงเป็นกัน” เมื่อตัดสินใจลุย ธาวินจึงกดหมายเลขโทรศัพท์ของวันเมษาที่ปรากฏอยู่บนนามบัตร ก่อนจะโทรออก ระหว่างรอสาย ใจของหมอหนุ่มเต้นแรงและรัวมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ธาวินรอสายกระทั่งระบบตัดเข้าฝากข้อความ คิ้วดกหนาได้รูปขมวดกันยุ่ง เมื่อคนที่เขาตั้งใจจะโทรศัพท์หาแทบตายไม่รับสายเสียนี่ นั่นทำให้เขากดวาง แล้วเลือกที่จะเซฟชื่อเธอไว้ ‘วันเมษา’ ไม่นานไลน์ของเธอก็เด้งขึ้นมา ธาวินจึงกดเข้าไปดูข้อมูล แต่เธอแทบไม่ได้อัพเดตอะไรเลย มีเพียงรูปโปรไฟล์ที่เป็นคัพเค้กเท่านั้น

“เฮ้อ!” เสียงถอนหายใจดังเฮือกใหญ่ ก่อนจะคว้าน้ำเย็นๆ มาดื่ม นั่นเพราะคิดว่าเขาจะได้รู้จักวันเมษามากกว่านี้เสียอีก แต่ทุกอย่างกลับไม่เป็นอย่างที่ใจคิดเลย

ก่อนจะดึงสติกลับมา เมื่อถึงเวลางาน แต่ใจก็มีแวบคิดถึงคนบางคนอยู่บ้าง อยากรู้ว่าป่านนี้เธอจะทำอะไรอยู่ กำลังนั่งหัวเราะหรือร้องไห้กันนะ หรือว่าจะทั้งสองอย่าง ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ยกมือทั้งสองข้างขึ้นเท้าสะเอว สายตานั้นมองออกไปนอกห้องทำงาน ก่อนจะคิดอะไรออก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel