บทที่2
เพล้ง
จานเซรามิกบนโต๊ะอาหารแตกจนเกิดเสียงดังสร้างความตกใจให้กับผู้คนอยู่ไม่น้อย เมื่อมีสิ่งของบางอย่างถูกขว้างกระทบกับจานใส่อาหารจนแตกกระจาย
"นี่มันอะไรกันราชา ลูกทำบ้าอะไร"คุณหญิงแสงมณีตะโกนถามนัยน์ตาสีดำสนิทจ้องเขม็งมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเหลือบไปมองด้านหลังของลูกชายซึ่งมีร่างของเด็กสาวใช้ยืนหลบอยู่ด้วยความหวาดกลัว
"ผมสมควรต้องเป็นคนตั้งคำถามนี้มากกว่านะครับว่าคุณแม่เป็นอะไรไปถึงได้ไปทำร้ายร่างกายของมะลิเธอ"
"แม่ทำอะไร แม่ไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย ลูกอย่ามากล่าวหาแม่มั่ว ๆ นะราชา"คุณหญิงแสงมณีพูดด้วยน้ำเสียงฉุนขึ้นจมูก ในเมื่อเธอไม่ยอมรับจะมีใครน่าไหนทำอะไรคนอย่างเธอได้
"ผมไม่เคยกล่าวหาใครมั่ว ๆ หรอกนะครับ ถ้าผมไม่มีหลักฐาน"
"แล้วไหนล่ะหลักฐานของลูก เอาออกมาให้แม่ดูหน่อยสิ"
"นี่อย่างไรล่ะครับหลักฐาน"ราชาคว้าตัวของแฟนสาวให้ออกมายืนชินกันอยู่ด้านข้าง ใบหน้าขาวสวยของมะลิ บัดนี้ มีรอยฝ่ามือประทับไว้ให้ผู้คนได้เห็นมันอย่างชัดเจน
"แค่รอยฝ่ามือบนใบหน้าของเด็กรับใช้ชั้นต่ำก็เป็นหลักฐานให้ลูกกล่าวหาว่าแม่เป็นคนทำได้อย่างนั้นเลยหรือราชา"ริมฝีปากเคลือบลิปสติกยิ้มร้าย แววตาเจ้าเล่ห์แฝงรอยยิ้มชวนขนลุกมันยิ่งทำให้มะลิกลัวจนตัวสั่น
"แม่อยู่สูงเป็นถึงรองผู้บริหาร และเป็นถึงไฮโซไม่ลดตัวลงไปยุ่งเกี่ยวกับพวกชนชั้นต่ำอย่างแฟนของลูกหรอกนะราชา เพราะแม่น่ะไม่ชอบพวกเสนียดอะไรพวกนี้"
"คุณแม่"คำพูดที่ออกมาจากปากของคุณหญิงแสงมณีไม่ต่างอะไรกับน้ำกรดชั้นดีที่ราดรดลงบนหัวใจดวงน้อยของคนฟังอย่างมะลิ ด้วยความไม่สู้คนมาตั้งแต่ไหนแต่ไรจึงทำให้เธอได้แต่ยืนนิ่งเงียบแค่เพียงเท่านั้น ไม่กล้าโต้ตอบอะไรกลับไปเพราะผลสุดท้ายทุกอย่างมันก็จบแบบไม่ต่างอะไรจากเรื่องของเมื่อคืน
"เมื่อไหร่คุณแม่จะยอมเปิดใจให้มะลิบ้าง ทำไมคุณแม่ถึงได้มองไม่เห็นความดีในตัวของเธอ"ราชาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจ ตั้งแต่ไหนแต่ไรผู้เป็นแม่ก็พาตั้งแง่ไม่ชอบแฟนสาวของเขา ยิ่งพอมารู้ว่าเขาและเธอกำลังคบหาดูใจกันมันยิ่งสร้างความไม่พอใจและยิ่งทำให้ผู้เป็นแม่เกลียดในตัวของหญิงสาวมากขึ้น ซึ่งเหตุมันเกิดมาจากอะไรเขาก็ยังหาคำตอบไม่ได้
"ความดีกับความเหมาะสมลูกคิดว่าคนอย่างแม่จะเลือกแบบไหนให้กับลูกกันราชา"
"แม่ขอบอกให้ลูกได้ฟังอีกครั้งนะ ว่าแม่จะไม่มีวันรับคนใช้อย่างนางมะลิมาเป็นลูกสะใภ้เด็ดขาด"แววตาและน้ำเสียงสื่อถึงความหนักแน่นจนทำให้ราชานึกหวั่น จุดประสงค์ของผู้เป็นมารดานั้นไม่มีใครสามารถคัดค้านได้แม้แต่ผู้เป็นบิดา เขากลัวว่าความรักของเขากับแฟนสาวจะไม่ไปรอดตลอดถึงฝั่ง แต่ถึงอย่างไรเขาจะไม่มีวันยอมปล่อยมือคู่นี้ไปไหน จนกว่าจะตายจากกัน
"เจ็บมากไหมมะลิ ฉันต้องขอโทษแทนคุณแม่ด้วยนะ"
"ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ อันที่จริงแล้วคุณหญิงไม่ได้เป็นคนทำอะไรมะลิหรอกค่ะ มะลิซุ่มซ่ามเอง"หญิงสาวพูดประโยคนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ดวงตาเศร้าหมองมองหลุบตาต่ำอย่างไม่กล้าสบตามองกับนัยน์ตาสีดำของราชาซึ่งกำลังจ้องมองเธออย่างต้องการจับผิด
"เธออย่ามาโกหกฉันเลยมะลิ ฉันรู้ดีว่าแม่ของตัวเองเป็นคนอย่างไร"ราชาถอนหายใจกับความคิดของผู้เป็นแม่ เพียงแค่มะลิเป็นเด็กรับใช้ภายในบ้านท่านถึงกับแสดงสีหน้ารังเกียจขัดขวางความรักของพวกเขาทั้งคู่เลยหรือ ตลอดสองปีที่เขาและเธอคบหากันทั้งพ่อและแม่ของเขาต่างพากีดกันความรักจนถึงตอนนี้ ตอนที่เขากำลังเรียนใกล้จะจบปริญญา ส่วนเธอต้องรออีกปีกว่าถึงจะเรียนจบ
"มะลิว่าเราสองคน"
"หยุดคิดเรื่องนั้นไปเลยนะมะลิ จำเอาไว้ฉันไม่มีวันเลิกกับเธอ"ราชาตะคอกออกมาจนเสียงดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักซึ่งเป็นคอนโดของเขาที่ผู้เป็นพ่อซื้อให้ มะลิถึงกับนั่งนิ่งเงียบเม้มริมฝีปากเข้าหากัน ทำไมความรักของเธอนั้นไม่ได้สวยหรูดั่งในนิยายที่เธอชอบอ่านกันนะ
"ฉันขอโทษนะมะลิที่พูดเสียงดังใส่"เมื่อสำนึกขึ้นได้ว่าเผลอตะคอกใส่ ราชารีบเดินมานั่งลงบนโซฟาตรงข้างหญิงสาว วงแขนใหญ่คว้าร่างของเธอเข้ามาสวมกอดด้วยความรัก
"ไม่เป็นอะไรค่ะ มะลิไม่ได้โกรธคุณเลย"
"ฉันขอเวลาอีกนิดนะมะลิ ฉันจะทำให้ทุกคนยอมรับในตัวของเธอให้ได้"
"มะลิจะรอวันนั้นค่ะ"รอวันที่เขาและเธอจะได้รักแบบไม่โดนครอบครัวของเขากีดกัน แม้ว่าวันนั้นไม่รู้จะนานเท่าไหร่ แต่ด้วยความรักของเธอนั้นมันได้มอบให้ชายหนุ่มหมดไป จึงทำให้เธอยินดีที่จะรอ
"แต่กว่าจะถึงวันนั้น ฉันขอพูดเรื่องของเราสองคนวันนี้ก่อนนะ มะลิ"นัยน์ตาของราชาฉายชัดถึงความปรารถนาอันแรงกล้ายามเมื่อได้มองร่างบางของเธอ นิ้วมือหนาค่อย ๆ ปลดกระดุมชุดนักศึกษาทั้งของเขาและเธอ ส่วนมะลินั้นได้แต่นั่งก้มหน้าซ่อนใบหน้าแดงก่ำของตัวเองเอาไว้ ก่อนร่างกายบอบบางแต่กลับมีสัดส่วนอวบอิ่มจะถูกดันราบให้นอนลงบนโซฟา และไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเหตุการณ์ต่อไปมันจะเกิดอะไรขึ้น