ตอนที่ 11 : ไม่มีทางเลือก 3
“พายคายักขึ้นหาดไปแล้วพี่วิน เห็นคุณบารเมษฐ์บอกว่าแกอยากอาบแดดที่ชายหาด” อนุชิตรายงานตามที่ได้ยินมา
“อืม เห็นเงียบ ๆ ขรึม ๆ แบบนั้น เรื่องบนเตียงก็ใช่เล่น กว่าจะออกมากันได้ก็เกือบเที่ยงโน่น ไม่คางเหลืองไปแล้วเหรอยัยนีนนั่น”
“คงเพลียน่าดูแหละพี่วิน ตอนเข้าไปเอาข้าวในครัวตาโรย ๆ เหมือนกัน”
“แล้วยัยนั่นพูดหรือบ่นอะไรไหม”
“ไม่นี่พี่วินเห็นเงียบ ๆ คงไม่กล้าหรอกผมว่า”
“เออ ให้มันได้แบบนี้ ขืนโวยวายขึ้นมาล่ะพี่จะจัดการให้หนักเลย อ้อ พี่จะไปว่ายน้ำเล่นด้านหลังเรือสักหน่อย เองก็คอยดูแลเจ้านายดี ๆ ล่ะ บนชายหาดโน่นก็คอยส่องกล้องดูเป็นระยะด้วย ว่ามีอะไรเป็นอันตรายหรือเปล่า”
“ได้ครับพี่วิน” อนุชิตรับปากแล้วก็นั่งทำงานต่อ ส่วนธาวินไปเปลี่ยนกางเกงว่ายน้ำ แล้วลงเล่นน้ำในจุดที่ไม่เป็นการรบกวนลูกค้า
สักพักใหญ่ ๆ เจนธรรมชวนจิลาวัลย์ พายเรือคายักไปขึ้นชายหาดเหมือนกัน เขาเดินไปหยุดตรงที่นีนนารานอนหลับสนิทแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว กวาดตามองคนหลับด้วยความหื่นกระหาย จิลาวัลย์ยังเดินทอดน่องเล่นอยู่บนชายหาด แต่พอมองไปใต้ต้นไม้ก็พลอยรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
“โอ๊ย !” เสียงร้องดังขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทำให้บารเมษฐ์ตกใจตื่นรีบลุกขึ้นเดินเข้าไปดู จิลาวัลย์เองก็วิ่งตามหลังเขาไปติด ๆ
เจนธรรมล้มลงกับพื้นมือกุมหน้าท้องเอาไว้แน่น ส่วนนีนนารานั้นกำลังยืนทำหน้าไม่พอใจใส่เขาอยู่ ครั้นเห็นอีกสองคนเดินเข้ามาหาใกล้ ๆ หญิงสาวก็เดินหลบไปอยู่อีกมุม
“คุณเจนธรรมเป็นอะไรคะ ร้องเสียเสียงดังเลย” จิลาวัลย์รีบคุกเข่าลง ประคองเขาให้ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน
“มีอะไรกันโชน” บารเมษฐ์ถามเพื่อนตัวเอง ก่อนหันไปมองคนที่เดินมาหลบอยู่ด้านหลังเขา ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ก็คุณนีนถีบฉันน่ะสิ” เจนธรรมรีบฟ้อง
“ถีบ ?” บารเมษฐ์หันกลับไปมองนีนนารา ซึ่งตอนนี้เอาแต่ก้มหน้ามองทราย ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองคนอื่น
“นีนเธอถีบไอ้โชนมันจริงหรือเปล่า” บารเมษฐ์ถามย้ำ
“จริงค่ะ พอดีว่าฉันหลับอยู่ แล้วคุณเจนธรรมเข้ามาอยู่ใกล้ ๆ ฉันตกใจ เลยถีบออกไปแบบไม่รู้ตัวค่ะ” นีนนาราพยายามพูดไม่ให้เรื่องดูเลวร้ายจนเกินไป เธอไม่กล้าหักหน้าเจนธรรมด้วยการบอกว่าเขาลูบต้นขาของเธอก่อน เธอตื่นมาเจอบอกให้หยุดเขาก็ไม่ยอมฟัง เลยต้องถีบ จนกระเด็นออกไปแบบนั้น
“แบบนี้นี่เอง แกผิดนะโชนทำนีนตกใจก่อน” บารเมษฐ์สรุปแบบเป็นกลางที่สุด
“อะไรวะไอ้ฟาร์ม นี่แกเข้าข้างคุณนีนเหรอวะ”
“เปล่าไม่ได้เข้าข้าง”
“ก็แค่ลูบ ๆ คลำ ๆ แค่นี้เอง ไม่เป็นมืออาชีพเลย” คำพูดดูแคลนของเจนธรรม ทำให้ทุกคนต้องหันมามองเขาเป็นสายตาเดียวกัน โดยเฉพาะบารเมษฐ์เขาถึงกับต้องเดินเข้าไปหาใกล้ ๆ
“ลูบ ๆ คลำ ๆ” เอ่ยย้ำคำที่เจนธรรมเอ่ยออกมาเมื่อครู่นี้
“อะไรนักหนาวะไอ้ฟาร์ม ปกติเราก็แบ่งกันกินอยู่บ่อยครั้ง” คนร้อนตัวรีบโวยวายใส่เพื่อน
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่ สรุปคือแกไปลูบ ๆ คลำ ๆ นีนเขา แล้วเขาก็เลยถีบแกเข้าให้ว่างั้น”
“เออ” เจนธรรมยอมรับทั้งที่ยังรู้สึกโกรธนีนนาราอยู่ เขาไม่มีเสน่ห์ตรงไหน ทำไมหญิงสาวถึงทำท่ารังเกียจแบบนั้น
ได้ยินแล้วจิลาวัลย์เองก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า หญิงสาวขึงตามองนีนนาราอยู่ตลอดเวลา แต่จนแล้วจนรอด คนทำผิดก็ไม่ยอมเอ่ยคำพูดที่เธออยากได้ยิน
“นีนเธอไม่ได้ตั้งใจถีบคุณเจนธรรมใช่ไหม ถ้างั้นก็ขอโทษคุณเจนธรรมเขาเสียสิ คุณเจนธรรมเขาออกจะใจดี เขาไม่ถือโทษโกรธเธอหรอก จริงไหมคะ” จิลาวัลย์พูดกับหญิงสาวแล้วหันไปซบหน้าตรงอกออดอ้อนเขา นีนนาราเห็นแล้ว ก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างอึดอัดใจ ก็ใครว่าเธอไม่ตั้งใจล่ะ
“ขอโทษค่ะคุณเจนธรรม” แต่เพราะอยากให้เรื่องนี้จบเร็ว ๆ เธอจึงต้องยกมือขึ้นไหว้ขอโทษเขา
“แล้วแกล่ะไอ้โชนยกโทษให้นีนไหม เขาอุตส่าห์ยกมือไหว้ขอโทษแล้วนะ” บารเมษฐ์หันไปมองเพื่อนกึ่งบังคับ
“เออ ยกโทษให้ก็ได้ แต่ทีหลังอย่าทำอีกนะ”
“งั้นก็เลิกแล้วต่อกันนะคะ คุณเจนธรรมเราไปนอนอาบแดดเล่นกันบ้างดีกว่าค่ะ” จิลาวัลย์รีบดึงข้อศอกของเจนธรรมให้ลงไปนอนอาบแดดที่ชายหาด นีนนาราจึงทรุดตัวลงนั่งบนผืนผ้าตามเดิม บารเมษฐ์ทรุดตัวลงนั่งตามหญิงสาวบ้าง
“ไม่ไปอาบแดดต่อแล้วเหรอคะ”
“ไม่ล่ะ รำคาญสองคนนั้น” เขาพูดทีเล่นทีจริง
“เอ่อ แล้วคุณจะทำอะไรต่อคะ” เห็นเขามานั่งข้าง ๆ เธอ ไม่มีท่าทีจะเดินไปอาบแดดต่อ หญิงสาวเลยเกิดความสงสัยขึ้นมา
“นอน” เขาตอบสั้น ๆ
“ว่าไงนะคะ”
“ฉันบอกว่าจะนอนตรงนี้กับเธอนี่แหละ อาบแดดพอแล้ว” พูดจบก็ทิ้งตัวลงนอนในทันที โชคดีผ้าที่นำมาปูเป็นผืนค่อนข้างใหญ่พอที่สองคนจะสามารถนอนแบบเบียด ๆ กันได้ นีนนารานั่งชันเข่ามองเขานอนอยู่เงียบ ๆ สักพักเขาก็หลับสนิทลงไปจริง ๆ คงจะง่วงมากเหมือนเธอ แล้วเธอจะมานั่งมองสองคนนั้น นัวเนียกันกลางทะเลทำไม คิดแล้วก็เอนตัวลงนอนและหันหลังให้เขา
“อ๊ะ” ท่อนแขนหนาและหนักของเขา จงใจพาดมากอดเอวเธอเอาไว้ พร้อมกับลมหายใจที่เป่ารด จูบหนัก ๆ ตรงต้นคอก็ตามมา
“คุณบารเมษฐ์” หญิงสาวเสียงสั่นยามเรียกชื่อของเขา
“นอนได้แล้ว” เขาตัดบทแล้วหลับต่ออย่างง่ายดาย
แต่ก็เป็นการหลับ ๆ ตื่น ๆ เพราะเสียงหยอกล้อของสองคนในทะเล บ่อยครั้งที่นีนนาราได้ยิน เสียงถอนหายใจอย่างหงุดหงิดจากบารเมษฐ์ และในที่สุดเขาก็ลุกขึ้นนั่ง พร้อมกับดึงข้อมือของเธอให้ลุกตามไปด้วย
“อะไรคะ”
“ขึ้นเรือกันดีกว่า” เขาช่วยเก็บของ แล้วพายเรือคายักกลับขึ้นเรือไป โดยไม่คิดชวนเจนธรรมกับจิลาวัลย์ให้ตามไปด้วย บารเมษฐ์รู้สึกรำคาญความสำราญของทั้งคู่ ที่มักจะส่งเสียงดังขณะที่เขาอยากอยู่กับธรรมชาติเสียมากกว่า แต่จะให้พูดตรง ๆ ก็เกรงว่าความเป็นเพื่อนจะระหองระแหงกันเปล่า ๆ
“เล่นน้ำในสระไหมนีน” เขาถามระหว่างเดินขึ้นไปบนเรือ
“ไม่ค่ะ” แค่คิดว่าสองคนนั้น ได้ทำอะไรกันบ้างในสระน้ำแห่งนี้ นีนนาราก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา กลัวว่าบารเมษฐ์จะเจริญรอยตามเพื่อนไปอีกคน
“งั้นเราไปแช่น้ำอุ่น ๆ ในห้องดีกว่า”
หญิงสาวรู้ว่าในห้องมีอ่างอาบน้ำวนอยู่ แต่ยังไม่มีใครใช้งานสักคน เพราะสภาพอ่างก็ยังแห้งสนิทอยู่ตลอดเวลาที่เธออาบน้ำ อ่างอาบน้ำวนเป็นทรงกลมมีเบาะรองนั่ง และกระจกในห้องน้ำก็สามารถเปิดให้เห็นวิวด้านนอกได้ เพียงแต่เธอไม่คิดจะเปิดมันแค่นั้นเอง
“คุณบารเมษฐ์คะ ฉันไม่ได้ลงน้ำไม่เปียกนะคะไม่ต้องอาบก็ได้ค่ะ” หญิงสาวนึกชื้นใจที่เธอไม่เปียกน้ำทะเล มีแค่เศษทรายที่ปัดออกก็พอ
“ไม่เปียกก็ต้องอาบเป็นเพื่อนฉันนะนีน”
“แต่ว่าเอ่อ “
“หน้าที่ของเธอคือบริการฉันให้มีความสุขนะจำได้ไหม นี่ไงล่ะงานบริการของเธอ” คนพูดหยุดเดินแล้วดึงตัวของนีนนาราเข้ามาสวมกอดเอาไว้ เขาดันปลายคางของหญิงสาวขึ้น แนบริมฝีปากเข้าไปควานหาความหอมหวานภายใน แม้จะจูบไม่ค่อยเป็น แต่นีนนาราก็ไม่ขัดขืนหรือต่อต้านเขา หญิงสาวรู้ซึ้งแล้วว่าอยู่บนเรือลำนี้ หากเขาต้องการเธอก็ปฏิเสธไม่ได้
“แค่อาบน้ำเฉย ๆ ได้ไหมคะ”
“หืม แล้วใครว่าฉันจะทำอะไรเธอล่ะ” พูดจบเขาก็ดึงมือของหญิงสาวให้เดินลงไปยังห้องนอนของตัวเอง