ตอนที่ 5
“ปล่อยรตีก่อนนะคะ… อย่าให้รตีต้องทำผิดต่อสามี รตียังไม่พร้อมจริงๆ ค่ะ เดี๋ยวใครเข้ามาเห็นเข้า”
ริมฝีปากบางเอ่ยทัดทาน หารู้ไม่ว่าอารมณ์ของเขาในยามนั้นมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับไปทบทวนถึงความถูกต้องดีงามทั้งปวง
“ถ้าผมไม่เรียก ใครหน้าไหนก็ไม่กล้าเข้ามาทั้งนั้น”
เสียงกระซิบแผ่วเบา ปะปนมากับลมหายใจร้อนผะผ่าวของเขา รินรดอยู่ข้างๆ ลำคอของเธอ เขาขบเม้มเบาๆ ที่ติ่งหู ยืนยันให้ความมั่นใจกับเรือนร่างอรชรที่บิดเร่าอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเขาด้วยความรู้สึกสับสนใจกับสถานการณ์ตรงหน้า
เขาทำให้เธอเคลิบเคลิ้ม คล้อยตามอย่างว่าง่าย ร่างกายอ่อนยวบเกินจะควบคุม ซวนเซจนทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่
พ่อเลี้ยงเดโชรวบเอวคอดของเธอเอาไว้มั่น รั้งร่างรัดรึงให้เอนหลังเข้าเบียดแนบกับอกของเขา ปล่อยให้สะโพกผายของเริงรตีดุนดันอยู่กับความเป็นชายของเขาซึ่งกำลังเกรี้ยวกราดอยู่ภายใต้กางเกงจนเจ้าตัวเริ่มอัดอัดกับขนาดอันใหญ่โตของมัน
เริงรตีรู้สึกโล่งใจได้เพียงชั่วครู่ เมื่อเขาละมือข้างหนึ่งจากการเคล้นคลึงทรวงอกของเธอ ทว่าโล่งใจได้ไม่นาน เธอก็ต้องสะท้านวูบขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อรู้สึกถึงฝ่ามือซุกซนของพ่อเลี้ยงเดโชกำลังสอดเข้าใต้ชายกระโปรงของเธอ
“อุ๊ย.. เดี๋ยวค่ะ”
หล่อนพยายามขืนกายออกจากวงแขนแข็งแรงของเขา แต่ก็ยังช้ากว่ามือของพ่อเลี้ยงที่ถกรั้งชั้นในตัวจิ๋วของเธอไปไว้ด้านข้างของซอกขา แล้วหงายฝ่ามือลูบล้วงลงไปคลึงเค้นพูเนื้ออิ่มอูมเอาตามแต่ใจ
“อื๊อ… หยุดเถอะค่ะ”
เริงรตีทำท่าว่าจะขัดขืน เมื่อความเป็นผู้หญิงโดนรุกเร้ารุนแรงขึ้นทุกที
“ผมหยุดไม่ได้…”
เขาส่ายหน้าดื้อดึง
“อุ๊ย… ถึงเนื้อถึงตัวแบบนี้ รตีไม่ไหวแล้วค่ะ…”
เธอพยายามจะหยุดมือซุกซนของเขา
“ไม่ไหวก็ปล่อยให้มันเป็นไปเถอะครับ… ไม่มีอะไรต้องกลัว… เป็นของผมนะครับคนดี”
น้ำเสียงปะเหลาะประโลม ไม่เพียงแค่ลูบล้วง หากแต่ลำนิ้วซึ่งแลเห็นข้อเอ็นปูดโปนยังสอดลึกเข้าไปในรอยแยกระหว่างร่องเนื้อซึ่งบัดนี้กำลังชุ่มลื่นไปด้วยหยาดน้ำรักที่หลั่งเยิ้มออกมากับการเร้าโลมอย่างมีชั้นเชิงลีลาของเขา ทำให้พ่อเลี้ยงกระตุกยิ้มอย่างได้ใจ แววตาเจ้าเล่ห์นึกกระหยิ่มอยู่ในที เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะมีชัยเหนือการทัดทานของเริงรตี
“รตีกลัวค่ะ…”
เธอพึมพำคล้ายกำลังสับสน
“เชื่อผม… ไม่มีอะไรต้องกลัว คุณก็รู้ว่าผมรอที่จะมีวันนี้กับคุณมานานแค่ไหน รตีจ๋า… อย่าทรมานกันอีกเลย นาทีนี้สำคัญมากสำหรับผม ผมไม่มีวันที่จะละทิ้งโอกาสดีเช่นนี้ ผมจะไม่ยอมปล่อยให้คุณหลุดลอยไปไหนอีกแล้ว”
น้ำเสียงของเขาจริงจังจนน่ากลัว ยืนยันถึงจุดยืนและความปรารถอันชัดเจนที่มีต่อเธอ
“ฉันก็คงจะเหมือนกับพวกผู้หญิงคนอื่นๆ ของคุณ ที่เริ่มต้นด้วยสายตาเจ้าชู้ ตามด้วยบอกรัก… และสุดท้ายก็จบลงบนเตียงนอนเหมือนเช่นทุกครั้ง”
เธอว่าให้เขา น้ำเสียงระคนไปด้วยอารมณ์กระเง้ากระงอดของผู้หญิง
“ใครว่ามันจะจบลงบนเตียงนอนล่ะ...!”
เขากระซิบน้ำเสียงกระเส่าที่หลังใบหู
“คะ…” คนในอ้อมแขนอุทานด้วยความตกใจ
“มันจะจบลงบนโต๊ะทำงานต่างหาก”
ไม่เพียงแค่พูด หากแต่ยังยืนยันถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยฝ่ามือใหญ่ที่เหวี่ยงกวาดทุกสรรพสิ่ง ทั้งโทรศัพท์ แจกัน แว่นตา และเอกสารบนโต๊ะทำงานหล่นโครมไปจากโต๊ะ ราวกับว่ามันเป็นสิ่งเกะกะไร้ค่าเสียเต็มประดา ในนาทีที่จิตใจจดจ่ออยู่แต่การจะได้เชยชมผู้หญิงตรงหน้า
สายตาของเริงรตีจ้องมองสิ่งของที่ร่วงลงไปกองเกลื่อนอยู่กับพื้นด้วยแววตาตระหนก
เขาไม่รีรออีกต่อไป ท่อนแขนกำยำของพ่อเลี้ยงรวบร่างระทดระทวยจนแทบจะยืนไม่ได้ด้วยสองขาของตัวเองขึ้นวางโครมลงบนโต๊ะ
“ว้าย…”
เรือนร่างบอบบางของเริงรตีแทบจะปลิวตามแรงปรารถนาของเขาที่พลุ่งโพลงขึ้นในตอนนั้น เขาทำให้เธอนึกหวั่นกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
และในทันทีที่แผ่นหลังแตะพื้น ในท่านอนหงาย ใบหน้าสะสวยของเธอจำต้องแหงนเงยขึ้นมองเพดาน ดวงตาคู่งามจับอยู่ที่เพดาลห้องอย่างเลื่อนลอย… ปล่อยชีวิตให้เป็นไป เมื่อรับรู้ว่า
ต้นขาและหัวเข่ากลมกลึงเบียดชิดที่ตั้งชันอยู่ในขณะนั้น กำลังถูกฝ่ามือหยาบใหญ่ของเขาพยายามแบะแยกมันออกจากกันด้วยความหิวกระหาย
“ อ๊ะ… โอววว…”
เริงรตีสะดุ้งเฮือก รู้สึกทรมานเหมือนร่างกายกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยง เมื่อเขาดันเข่าทั้งสองข้างของเธอให้ขนานกับลำตัวแล้วแนบเน้นใบหน้าลงไปเกลือกอยู่ระหว่างเนินเนื้อซึ่งแน่นนูนขึ้นราวกับหลังเต่า เบียดแน่นอยู่ระหว่างซอกขาของเธอ
เสี้ยวอึดใจต่อมาเธอก็รู้สึกได้ถึงปลายลิ้นสากระคายของเขาที่ชำแรกเข้าไประหว่างกลีบเนื้อสาวซึ่งกรุ่นไปด้วยกลิ่นคาวสวาท อีกทั้งปลายคางซึ่งระคายไปด้วยตอเครา ก็ครูดคราดขึ้นๆ ลงๆ ไปกับปุ่มเนื้อน้อยๆ ตรงด้านบนของร่องสวาทจนใบหน้าของเธอบิดเบะ เรือนผมยาวสลวยหลุดออดจากมุ่นมวยที่ขมวดเอาไว้แผ่สยายไปกับโต๊ะทำงาน