ถูกหลอกจากคนที่รัก(2)
“อะไรกัน ฉันเห็นพี่มีเงินตั้งเยอะ”
เธอไม่เชื่อและพยายามที่จะเข้ามาค้นตัวสามี แต่กลับถูกเขาผลักจนล้มลง นุษบาโกรธมากที่สามีกล้าทำร้ายเธอจึงพุ่งเข้าไปทุบตีเขา โสภณโมโหตวัดฝ่ามือใส่ใบหน้าโทรมเต็มแรงจนเลือดซึมออกทางมุมปาก
“ไปให้พ้นหน้าฉันเลยไป!”
ผู้เป็นสามีตวาดไล่ก่อนที่เขานั้นจะเดินขึ้นห้องไป ทิ้งให้นุษบาอาละวาดอยู่คนเดียวเพียงลำพัง
โสรญายืนอยู่หน้าประตูบ้านได้ยินเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น เธอถอนหายใจยาวก่อนจะแขวนถุงกับข้าวเอาไว้ที่ลูกบิดประตูและเดินจากมา เดิมทีตั้งใจจะมาเยี่ยมพ่อแต่เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ไม่ค่อยดีจึงตัดสินใจที่จะไม่เข้าไปด้านใน
“โส!”
ขณะที่หญิงสาวกำลังรอรถเมล์อยู่นั้น เสียงใครบางคนก็ตะโกนเรียกขึ้นมา หญิงสาวหันไปมองก่อนจะเห็นน้องสาวต่างแม่เดินตรงเข้ามาหา หญิงสาววัยสิบเจ็ดปีสวมชุดนักเรียนยับยู่ยี่ ปล่อยชายเสื้อออกนอกกระโปรง มือข้างหนึ่งมือกระเป๋าใบเก่า ขณะที่มืออีกข้างคีบบุหรี่อยู่
“มะนาว ไปไหนมา”
เธอเอ่ยถามน้องสาวก่อนที่อีกฝ่ายจะนั่งลงข้างๆและแบมือ
“ขอเงินหน่อยดิ”
โสรญาส่ายหน้า ถึงมีเธอก็ไม่ให้เพราะรู้ว่า มีนานุชจะเอาไปซื้อเหล้าหรือไม่ก็บุหรี่ การใช้เงินของอีกฝ่ายไม่สร้างสรรค์และไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ฉะนั้นผู้เป็นพี่จึงได้ปฏิเสธ
“พี่ไม่ให้เธอหรอก ดูก็รู้ว่าคงไม่ได้เอาไปซื้อข้าว”
หญิงสาวหัวเราะก่อนจะอัดควันบุหรี่เข้าปอดและพ่นใส่หน้าพี่สาว เธอรู้ว่าโสรญามีเงินเก็บเยอะเพราะแม่เล่าให้ฟังว่าอีกฝ่ายนั้นทำงานตัวเป็นเกลียว ที่สำคัญแม่ของพี่สาวก็ยังได้ดิบได้ดีได้แต่งงานกับชาวต่างชาติ ส่งเงินมาให้ใช้เดือนละหลายหมื่น มีเหรอที่จะไม่มีเงิน
“ใจร้าย รู้หรือเปล่าว่าน้องกำลังลำบาก”
มีนานุชแทบไม่ได้ค่าขนมไปโรงเรียนเพราะพ่อกับแม่เป็นหนี้เป็นสินมากมายจนไม่กล้าออกไปทำงาน ทุกวันนี้พ่อต้องหางานรับจ้างจากที่เคยทำงานบริษัทมีเงินเดือนมั่นคง แต่เพราะติดการพนันอย่างหนักจนไปยักยอกเงินบริษัทเข้าเลยถูกไล่ออก โชคดีแค่ไหนที่เขาไม่เอาเรื่อง ไม่งั้นคงติดคุกหัวโต
“อยากมีเงินก็ทำงานสิ”
หญิงสาวเอ่ยก่อนที่เธอจะก้มมองนาฬิกา ตอนนี้เป็นเวลาสี่โมงเย็นแล้ว เธอนัดกับเพื่อนไว้ที่ห้างสรรพสินค้าตอนห้าโมง จึงได้รีบลุกขึ้นตั้งใจจะเรียกแท็กซี่ แต่น้องสาวกลับโพล่งขึ้นมาเสียก่อน
“พี่รู้ไหมว่าพ่อเป็นมะเร็ง”
พี่สาวชะงักก่อนหันกลับไปมองน้องสาว ตอนแรกเธอไม่เชื่อแต่เมื่อเห็นใบหน้าเศร้าสลดของอีกฝ่ายก็เชื่อสนิทใจ
“ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“สักพักแล้ว หมอไม่ให้บอกพ่อ”
น้องสาวพูดบอกก่อนจะหยิบกระดาษบางอย่างออกจากกระเป๋าและยื่นให้โสรญา หญิงสาวกวาดตาอ่านก่อนจะทรุดนั่งลง
“พี่ไปเยี่ยมพ่อบ้างก็ดีนะ ไม่รู้จะอยู่ได้ถึงเมื่อไหร่ ช่วงนี้ก็ปวดท้องบ่อยด้วย”
มีนานุชลุกหันมาพูดก่อนจะเดินกลับไปที่บ้าน โสรญาไม่รอช้ารีบลุกขึ้นตามอีกฝ่ายไปติดๆโดยไม่รู้เลยว่านี่เป็นแผนการของน้องสาวที่ล่อให้เธอติดกับดัก
โสรญาเข้ามาในบ้านพร้อมน้องสาวก่อนย่นจมูกเล็กน้อยเมื่อได้กลิ่นเหม็นโชยไปทั่วทั้งห้อง หญิงสาวเกือบอาเจียนแต่เมื่อเห็นสาตาของแม่เลี้ยงก็ทำได้แต่เก็บอาการ
“เดี๋ยวพี่ไปหาพ่อก่อน”
เธอกระซิบบอกน้องสาวก่อนที่จะเดินขึ้นบันไดไป ขณะนั้นนุษบาได้เอ่ยเรียกลูกสาวมาใกล้ๆ
“ได้เงินมาไหม”
มีนานุชส่ายหน้าก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงด้วยท่าทางเซ็งๆ เธออยากดื่มเหล้าจนจะลงแดงตายอยู่แล้ว แต่ไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหน เดี๋ยวนี้โสรญาก็เริ่มไม่ใจอ่อนให้เงินเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว