บท
ตั้งค่า

EP:09 คลอด

สองเดือนถัดมา...

ภายในห้องผ่าตัดโรงพยาบาลเอกชนHH

บรรยากาศภายในห้องผ่าตัดนั้นมันเย็นเฉียบและเงียบกริบ ด้านหน้าของเพียงขวัญถูกกั้นด้วยผ้าสีเขียวสูงชนิดที่เธอมองไม่เห็นการกระทำของหมอและพยาบาลอีกฝั่ง เธอกลัวตื่นเต้นจนหัวใจนั้นเต้นรัวไปหมด แต่เป็นเพราะฤทธิ์กล่อมของยา มันเลยทำให้เธอนั้นไม่ได้ตื่นตระหนกอะไร บวกกับมีโอนิกซ์นั้นคอยอยู่ข้างๆ ไม่ห่าง เธอเลยอุ่นใจไปได้มากเลยทีเดียว

“อือ...” เพียงขวัญครางเสียงสั่นกลัว ดวงตาของเธอพยายามจดจ้องไปที่การกระทำของหมอและพยาบาลที่กำลังทำคลอดอยู่ ใบหน้าของเธอซีดเผือก ตัวสั่น ที่ไม่รู้ว่าสั่นเพราะอุณหภูมิภายในห้องผ่าตัดหรือเป็นเพราะฤทธิ์จากยา

“ไม่ต้องกลัวนะ” เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างหู มันทำเอาเธอใจชื้นขึ้นมาแบบทันควัน

เขาไม่เคยปล่อยมือเธอเลย ตั้งแต่พามาโรงพยาบาล เตรียมตัวเข้าห้องคลอด ฉีดยา จนกระทั่งตอนนี้

เวลาในตอนนี้มันเหมือนยาวนานไปมากๆ แต่คงเป็นเพราะเธอนั้นรอคอยจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นมากกว่า เวลามันถึงผ่านไปช้าแบบนี้

“คุณนิค...”

“ว่าไง”

“นานจังเลยคะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

“ไม่มีอะไรหรอก มันไม่นานเลยนะ คุณหมอกำลังทำคลอดอยู่”

โอนิกซ์พยายามพูดให้เพียงขวัญนั้นสบายใจ เพราะมันไม่ได้มีอะไรน่ากลัวเลย คุณหมอและทีมแพทย์ก็กำลังช่วยกันทำคลอดอยู่ ไร้เสียงการสนทนาใดๆ แต่เขาก็ไม่ได้เห็นตรงส่วนแผลผ่าคลอดหรอก ว่าตอนนี้ถึงไหนแล้ว ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนของทีมแพทย์

จนกระทั่งเวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมงได้...

ทารกคนแรกคลอดออกมาพร้อมกับส่งเสียงร้องดังอ้าว ไม่นานนักทารกคนที่สองก็ร้องตามกันมาติดๆ เสียงร้องที่ดังระงมนั้นมันทำให้หัวใจของเพียงขวัญเต้นรัวมากกว่าเดิมอีก

เป็นการรอคอยที่มีค่ามากจริงๆ เสียงร้องนั้นเหมือนปลุกสัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอให้ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มรูปแบบ

“คลอดแล้วนะ ลูกปลอดภัยแล้วเพียงขวัญ”

“คุณนิค ลูกหน้าเหมือนใครคะ”

“เหมือนเราสองคนไง”

“.....” เพียงขวัญยิ้มทั้งน้ำตา เธอรู้สึกตื้นตันอยู่เต็มอกไปหมด ไม่เคยดีใจแล้วต้องร้องไห้แบบนี้มาก่อนเลย ครั้งแรกในชีวิตของเธอเลยก็ว่าได้

“ลูกของเราแข็งแรงดีนะ น่ารักมากๆ เลย” โอนิกซ์พูดกระซิบเสียงแผ่วเบา

“เหรอคะ...”

“คุณพ่อคะ เดี๋ยวต้องให้คุณแม่และทารกได้พักฟื้นร่างกายให้หายเหนื่อยก่อนนะคะ ต้องรบกวนคุณพ่อออกไปรอด้านนอกค่ะ”

“ครับ ได้ครับ”

“คุณนิค...”

“ฉันจะออกไปรอข้างนอกนะ ไม่ได้ไปไหนหรอก เดี๋ยวหมอก็พาเธอออกมานะ นอนพักก่อน ฉันไม่หนีไปไหนหรอกสัญญาเลย”

“ค่ะ”

โอนิกซ์ออกมารอที่ด้านนอก ถึงจะไม่ได้อยู่กับเพียงขวัญด้านใน แต่เขาก็สามารถมองลูกแฝดที่นอนอยู่ในตู้อบผ่านห้องกระจกได้ มือน้อยๆ ที่กำลังขยับเบาๆ นั้นทำเอาลูกผู้ชายอกสามศอกเช่นเขาถึงกับน้ำตาคลอ

คนที่ไม่เคยคิดจะแต่งงาน มีครอบครัว ณ ตอนนี้ได้กลายเป็นพ่อคนเสียแล้ว ตอนที่รู้ว่าเพียงขวัญท้องเขาเองก็พร้อมจะทำหน้าที่คนเป็นพ่อ คนที่ไม่เคยคิดจะมีครอบครัว มันก็ไม่ได้แปลว่าทำหน้าที่พ่อไม่ได้นี่

“ดวงใจของพ่อ”

โอนิกซ์พึมพำออกมาแผ่วเบา เด็กน้อยๆ ที่นอนอยู่ในนั้นเป็นเหมือนดั่งดวงใจของเขาไปแล้ว

ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองนั้นกำลังจะได้เป็นพ่อคน เขาก็รู้สึกว่าชีวิตของตัวเองนั้นมีค่าขึ้นมาอีกครั้ง ไม่ใช่แค่ทำงานไปวันๆ เหมือนคนไม่มีปลายทางหรือจุดจบของชีวิต อย่างน้อยเขาก็รู้แล้วว่าชีวิตของเขาไม่ได้ไร้ค่าอีกต่อไป แต่ยังมีค่าให้กับลูกอีก

ภายนอกดูดี แข็งแกร่งน่าเกรงขาม แต่ใครจะไปรู้ว่าในอดีตนั้นเขาต้องกล้ำกลืนและเผชิญเรื่องเลวร้ายอะไรมาบ้าง

คนเราไม่ได้เกิดมาแล้วเข้มแข็งได้เลย ล้วนแต่ต้องเจอบทพิสูจน์หนักๆ มาด้วยกันทั้งนั้น มันถึงแข็งแกร่งได้มากขนาดนี้

“ต่อจากนี้พ่อจะมีชีวิตอยู่ เพื่อพวกหนูนะ แฝดน้อยของพ่อ”

“พรีม เพิร์ซ”

***************

...เวลาต่อมา

ณ ห้องพักฟื้นพิเศษ

“คุณนิค...”

“ตื่นแล้วเหรอ นอนต่ออีกหน่อยสิ”

“ไม่แล้วค่ะ ลูกล่ะคะ?”

“ยังอยู่ในตู้อบน่ะ”

“ลูก...”

“เปล่า ฉันถามหมอมาแล้ว เด็กเพิ่งคลอดยังปรับตัวกับอากาศนอกท้องของแม่ไม่ทัน เลยต้องเข้าตู้อบก่อน”

“อ๋อ...”

ได้ยินอย่างนั้นก็สบายใจขึ้นมาหน่อย ตอนนั้นได้ดูหน้าลูกแค่แป๊บเดียวเอง ยังไม่ทันได้รู้เลยว่าใครหน้าตาแบบไหน คนไหนผู้ชาย คนไหนผู้หญิง

“เพียงขวัญ”

“คะ?”

“ฉันตั้งชื่อลูกแล้วนะ เหมือนกับเธอเลย”

“??”

“น้องพรีม กับน้องเพิร์ซ ชื่อเพราะมั้ย”

“พะ เพราะค่ะ แต่ว่า...คุณไม่”

“ฉันโอเคนะ ไม่ได้คิดอะไรมากเลย”

“ค่ะ”

“ฉันแจ้งเกิดแล้วนะ ลูกใช้นามสกุลของฉัน ส่วนเธอ...อยากเปลี่ยนหรือเปล่า?”

“ค-คะ!? เปลี่ยนนามสกุลเหรอคะ แต่มันก็แปลว่าเราต้อง...”

“ไม่ดีหรือไง เธอจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่ฉันจะเอาลูกไปเลี้ยงคนเดียว”

ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่การไม่จดทะเบียนสมรส สิทธิ์ขาดก็เป็นของแม่อยู่ดี

แต่อยู่ดีๆ มาชวนเธอจดทะเบียนสมรสเนี่ยนะ เขายังสติดีอยู่หรือเปล่า หรือว่าอะไรเข้าสิงเขา

“คุณนิค”

“อะไร?”

“อยู่ ๆ มาพูดเรื่องจดทะเบียนสมรส คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?”

“เปล่า ฉันก็ปกติดี ทำไมล่ะ ไม่อยากเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉันเหรอ”

“.....” ถูกถามแบบนั้นมันก็พูดไม่ออกน่ะสิ ถ้าพูดว่าอยากเป็นมันจะดูน่าเกลียดไปไหม แล้วถ้าพูดว่าไม่อยากล่ะมันจะเป็นยังไงต่อ

“เธอจะได้สบายใจ ว่าฉันไม่ไปมีหญิงอื่นแน่”

“คะ คือว่ามันเร็วไป คุณชอบทำอะไรให้ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวตลอดเลย”

“ฉันถูกสอนมาเสมอว่า ตัดสินใจแล้วให้ทำเลย อย่ารีรอ”

“ขอคิดก่อนนะคะ”

“ไม่ให้คิด”

“แต่ว่า...”

“ฉันให้ทนายมาทำเรื่องแจ้งเกิดลูกแล้ว จดๆ ไปเลยดีกว่า มันจะได้ไม่เสียเวลาทนายเขา”

“คุณนิค!”

“??”

“แล้วถ้าเลิกกัน ฉันต้องแบ่งสมบัติน้อยนิดที่มีให้คุณอีก ไม่ลำเอียงไปหน่อยเหรอคะ” เพียงขวัญพูดตัดพ้อ

“ของของเธอฉันไม่เอาหรอก สบายใจได้”

“.....”

“ตกลงตามนี้นะ”

“ฉันปฏิเสธคนที่ตัดสินทำไปแล้วแบบคุณได้ด้วยเหรอคะ”

“เธอก็ไม่ได้มีใคร ฉันก็ไม่ได้มีใคร จดทะเบียนสมรสกัน อยู่ด้วยกัน คิดซะว่าเราสองคนถูกพ่อแม่จับคลุมถุงชนให้อยู่ด้วยกันก็ได้ อยู่ ๆ กันไปเดี๋ยวก็รักกันเอง”

“พูดได้หนิ..” เพียงขวัญพูดกับตัวเอง

ความจริงเขาก็แค่อยากมีใครสักคนไว้ข้างกาย ที่เธอคนนั้นไม่ได้หวือหวา ไม่ได้เลิศเลออะไร อยู่เงียบๆ ไม่ใช่คนที่เอาแต่จะสร้างความเดือดร้อนปวดหัวมาให้ และอีกอย่างการที่เขามีเธอ มันก็แปลว่าเขาจะไม่สามารถเป็นของใครได้อีก

ความรักสำหรับเขาไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นยังไงเลย เพราะอายุอานามตอนนี้ก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้วล่ะ ไม่ได้เริ่มต้นความรักมาแบบสวยหรูแต่เริ่ม แต่แบบนี้มันก็ไม่ได้แย่อะไร

“ใครๆ ก็อยากแต่งงานกับฉัน”

“ขนาดนั้นเชียว?”

เธอพูดหยอก แต่ความจริงก็พอจะรู้อยู่แหละว่าเขามีสาวๆ มาชอบเยอะ ดูจากที่ลงข่าวโครมๆ ไม่เว้นแต่ละวัน นี่ถ้าเขาดูเจ้าชู้สักหน่อยนะ ป่านนี้คงมีเมียท่วมเมืองไปแล้ว

“แหงสิ” พูดอย่างมั่นใจ

“ขออย่างเดียวค่ะ อย่าให้ลูกเจ้าชู้แบบนี้เลย คุณเตรียมสินสอดไม่ไหวแน่ๆ”

“สักร้อยคนยังไหว”

“จะบ้าเหรอคะ?! เอาอะไรคิดจะให้ลูกมีเมียร้อยคน!”

“แค่เปรียบเปรย...” โอนิกซ์พูดเสียงลากยาว เธอชอบเข้าใจอะไรแบบเนื้อๆ ตลอด ไม่ได้เข้าใจความหมายของคำว่าเปรียบเปรยเลยสักนิด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel