ตอนที่ 4
ทรงกลดทำท่าว่าจะเดินนำออกมา
“ขอเวลาสักครู่นะคะนาย”
คำพูดที่ดังขึ้นข้างหลัง… ทำให้ทรงกลดต้องเหลียวกลับมามอง พลันสายตาปะทะเข้ากับภาพของแม่ลูกอ่อนที่นั่งอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ กำลังควักนมออกมาจากเสื้อ
‘โอ้ว… ’
ทรงกลดอุทานในใจ
จ้องมองริมฝีปากของเด็กน้อยกำลังครอบดูดปลายหัวนมชูชันขึ้นมาเป็นช่ออย่างนึกอิจฉา กะซวกดูดแรงจนน้ำนมสีขาวเอ่อออกมาชุ่มอยู่รอบขอบปาก เสียงดูดดังซ่วบๆ จนปลายหัวนมปูดพองอยู่ในอุ้งปากน้อยๆ ที่ดื่มกินอย่างไร้เดียงสา
“ขอหนูป้อนนมลูกสักครู่นะจ๊ะนาย… ”
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองสบตาเขา
“ตะ… ตามสบาย”
ทรงกลดตอบตะกุกตะกัก
รีบชักสายตาออกมาแทบไม่ทัน ยอมรับว่าไม่ง่ายเลยสักนิดที่จะหักห้ามอารมณ์ไม่ให้เกิดความรู้สึกทางเพศกับสาวแม่ลูกอ่อนที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนใจคนนี้
ทรงกลดเดินออกมายืนรออยู่หน้ากระท่อม ครู่สั้นๆ หญิงสาวก็อุ้มลูกตามมา
เขาเปิดประตูรถกระบะให้หล่อนขึ้นมานั่งบนเบาะหน้าคู่คนขับ ปิดประตูแล้วเดินอ้อมหน้ารถขึ้นมานั่งในตำแหน่งคนขับ พาหญิงสาวออกมาจากไร่อ้อย จุดหมายปลายทางก็ไม่ใช่ที่ไหน คือร้านเซเว่นฯ ที่หน้าถนนใหญ่ตรงข้ามกับปากทางที่จะแวะเข้ามาในไร่อ้อย
หลังจากซื้ออาหารมาใส่ไว้หลังรถกระบะจนพอ ในระหว่างที่กำลังขับรถกลับเข้ามาในไร่ คนางค์เหลือบไปเห็นตลาดนัด หล่อนจึงขอให้เขาแวะซื้ออาหารสดเตรียมเอาไว้ เมื่อเห็นว่าที่กระท่อมน้อยๆ ของทรงกลดมีตู้เย็นเล็กๆ อยู่ด้วย และมีอุปกรณ์เครื่องครัวที่จำเป็นพร้อมให้ทำอาหาร
“รู้สึกเกรงใจจังค่ะ… ที่ต้องให้คุณจ่ายเงินซื้อของมามากมาย”
คนางค์กล่าว อันที่จริงหล่อนอยากช่วยจ่าย แม้เงินจะมีไม่มาก แต่ทรงกลดก็จ่ายให้ทั้งหมด
“ไม่เป็นไร… ก็อย่างที่บอกว่าฉันรู้สึกสงสารเธอกับลูก”
เขาเหลือบมองหล่อนแวบหนึ่ง มือสองข้างยังวางอยู่ที่พวงมาลัย
เท่าที่คุยกันเมื่อครู่
ทำให้คนางค์รู้ว่าทรงกลดเป็นเจ้าของไร่ ทั้งไร่อ้อย ไร่มัน ไร่ข้าวโพด และเขายังรับซื้อพืชผลทางการเกษตรจากชาวบ้านเพื่อขายต่อให้โรงงานผลิตแป้งและอาหารสัตว์ คนางค์เชื่อว่าเขาน่าจะมีบ้านหลังใหญ่ แต่น่าแปลก… ที่เขาให้หล่อนต้องมาพักอยู่ในกระท่อมหลังน้อยกลางไร่อ้อย
วาบหนึ่งในความคิด
มันทำให้คนางค์นึกสงสัยว่าเพราะเหตุใดเขาจึงไม่พาหล่อนไปพักที่บ้านของเขา หรือว่าเขากลัวลูกเมียจะเข้าใจผิด ผู้ชายวัยกลางคนที่ทั้งหล่อเหลาและยังเป็นเจ้าของไร่คนนี้ น่าจะมีเมียอยู่แล้ว
ตอนค่ำ
ความมืดโรยตัวลงมาช้าๆ ไม่นานก็ปกคลุมไปทั้งไร่อ้อย ในราตรีกาลแสนเงียบและวังเวงกลางป่าคงน่ากลัวไม่น้อย… ถ้าหากคืนนี้ไม่มีทรงกลดอยู่ด้วย
ภายหลังเสร็จจากกินข้าวด้วยกัน ซึ่งก็คืออาหารอุ่นไมโครเวฟที่ซื้อมาจากร้านเซเว่นฯ เมื่อตอนใกล้ค่ำ จากนั้นคนางค์ก็พาลูกชายวัยแปดเดือนเข้ามาอาบน้ำในห้องน้ำ
“น้ำพออาบไหม”
มีความห่วงใยอยู่ในน้ำเสียงที่ถาม ทรงกลดที่ยื่นดื่มเบียร์อยู่หลังกระท่อมทอดสายตามองไปยังทิวเขาทาบทะมึนเป็นฉากหลังของไร่อ้อย หันมาถามแม่ลูกอ่อนที่กำลังอุ้มลูกออกมาจากห้องน้ำ
“มีน้ำพออาบจ้ะนาย… ”
หญิงสาวตอบ
“เดี๋ยวฉันจะรองไว้ให้อีก… เธอจะได้พออาบ”
ทรงกลดกล่าว สะดุดตากับภาพของแม่ลูกอ่อนที่อยู่ในชุดผ้าถุงกระโจมอก สองเต้าอวบใหญ่เบียดอัดกันแน่นอยู่ภายใต้ปมผ้าขมวดกันหลวมๆ เหน็บไว้กลางร่องอก ความอวบคัดทำให้มันยิ่งอะร้าอร่ามจนเจ้าของไร่อ้อยตะลึงมอง ยกเบียร์ขึ้นดื่ม มองทรวงอกหล่อนแล้วตวัดลิ้นเลียคราบเบียร์เกาะอยู่ที่แพหนวดสีดำหนาเหนือริมฝีปาก
“ไม่ต้องแล้วจ้ะนาย… ตอนนี้มีน้ำเต็มโอ่งแล้วจ้ะ นายไปอาบน้ำเถอะ”
“ไม่เป็นไร… ฉันอยากให้เธออาบก่อน”
“จ้ะ… เดี๋ยวหนูพาลูกเข้านอนก่อนนะจ๊ะ”
ลูกชายหล่อนช่างเลี้ยงง่ายจริงๆ
หลังจากคนางค์อุ้มร่างจ้ำม่ำมาวางลงในเบาะสีฟ้าเล็กๆ หนูน้อยก็หลับลงง่ายดาย สมกับเป็นเด็กในวัยกำลังกินกำลังนอน
อึดใจสั้นๆ ต่อมา