ตอนที่ 3 งานแต่ง
ตอนที่ 3 งานแต่ง
1 เดือนผ่านไป
ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง งานแต่งถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต โดยมีแม่พรเป็นคนช่วยจัดการทุกอย่างให้ นอกจากสินสอดที่ท่านให้มาแล้ว งานแต่งในวันนี้ท่านยังขอออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด ซึ่งปกติแล้วจะต้องเป็นฝ่ายเจ้าสาว ซึ่งทางฉันก็น้อมรับด้วยความเกรงใจ
กว่าจะมาถึงวันนี้ ฉันกับพี่ภูมิเจอหน้ากันอยู่สองสามครั้ง แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก เขาเอาองุ่นมาให้ เอาจริงๆฉันเองก็เขินมากอยู่เหมือนกันทำตัวไม่ค่อยถูก ไม่เคยเจอผู้ชายนิสัยนิ่งๆแบบนี้มาก่อน
เสียงแห่ขันหมากดังเข้ามาเรื่อยๆ ฉันตื่นเต้นมากอย่างกับรักกันมานาน แต่เปล่าเลยที่ตื่นเต้นเป็นเพราะกำลังถามตัวเองอยู่ว่าต่อจากนี้ไปจะทำตัวยังไงดี
ในระหว่างที่พิธีต่างๆในงานได้เริ่มขึ้น ฉันกับพี่ภูมิมองหน้ากันอยู่หลายครั้ง มีพูดคุยกันบ้างแล้วแต่สถานการณ์ วันนี้เขายิ้มให้ฉันด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เคยเลย วันนี้เขาดูหล่อกว่าวันแรกที่ฉันเจอเขาซะอีก
พิธีต่างๆจบลง เหลือพิธีสุดท้ายก็คือส่งตัวเข้าห้องหอ ซึ่งห้องหอก็คือห้องนอนของฉันเองค่ะ เสียงแซวของญาติๆก็เริ่มดังขึ้น
“เจ้าบ่าว...ทำเป็นหรือเปล่า”
“............” เขาแค่ยิ้มค่ะไม่ได้ตอบ แต่ฉันกลับเขินจนทำตัวไม่ถูก
“อย่าแซวลูกพี่ผมครับ” น่าจะเป็นเสียงพี่หาญคนงานที่บ้านพี่ภูมิค่ะ
"เจ้าขา...ฉันอิจฉาแกจัง" เสียงชะมดเพื่อนของฉันเองค่ะ
"ฉันด้วย อยู่ๆก็มีผู้ชายหล่อขนาดนี้หล่นลงมาจากฟ้าให้แกกิน" นี่ว่าน เพื่อนของฉันอีกคน
"ไอ้บ้า...พูดเยอะไปแล้ว" เสียงฉันเองค่ะ แซวอยู่ได้เขินนะเว้ย
“ฝากดูแลน้องด้วยนะภูมิ” บางคนก็พูดดี
“ครับ”
ส่วนเพื่อนๆของฉัน มีชะมด น้ำตาล พลอย และว่าน มาช่วยงานตั้งแต่เช้าตอนนี้ก็ยังอยู่
“พี่ภูมิคะ ถ้าเจ้าขามันย้ายไปอยู่บ้านพี่แล้ว พวกเราขอไปหามันที่นั่นบ้างได้มั้ยคะ” เสียงยัยพลอยค่ะ
“ได้ครับ”
“ขอบคุณนะคะ...” ท่าทางของเพื่อนๆฉันดีใจกันใหญ่ พวกมันบอกว่าอยากจะไปชมไร่องุ่น ส่วนที่พูดว่าอยากไปหาฉันนั้น มันก็แค่ข้ออ้าง แต่พวกเราก็เป็นเพื่อนรักกันค่ะ
พูดคุยกันเสร็จผู้ใหญ่ก็เริ่มให้พร สอนหลายอย่างเลย กว่าจะเสร็จพิธีตรงช่วงนี้ก็ใช้เวลาอยู่พอสมควร สุดท้ายทุกคนก็เดินออกจากห้องนี้ไปค่ะ เหลือแค่ฉันกับพี่ภูมิสองคน
เรานั่งอยู่ใกล้กัน หันมองหน้ากัน ฉันเม้มปากแน่นไม่รู้จะพูดอะไร อยู่ๆใบ้ก็กินซะอย่างนั้น รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย หัวใจเริ่มสั่นด้วยความตื่นเต้น เหงื่อเริ่มแตกทั้งๆที่ภายในห้องก็เปิดแอร์เย็นฉ่ำ
“ไปอาบน้ำสิ”
“พี่ภูมิไปอาบก่อนเถอะค่ะ”
“อือ...” ว่าแล้วเขาก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป ที่จริงเขาควรจะพูดอะไรกับฉันหน่อยมั้ย
แบบประมาณว่า...ให้พี่ช่วยถอดกิ๊บออกให้มั้ยครับ อะไรประมาณนี้ แต่เขาไม่พูดค่ะ แกะออกเองก็ได้! ช่างทำผมก็ติดไว้ซะเยอะเชียว...
พอพี่ภูมิเดินออกมาจากห้องน้ำ ฉันก็เดินสวนเข้าไปอาบน้ำบ้าง กว่าจะอาบน้ำสระผมเสร็จก็ผ่านไปเกือบชั่วโมง ออกมาฉันก็ต้องมานั่งเป่าผมให้แห้งอีกกว่าจะได้นอน ซึ่งตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว
“ดึกมากแล้วนอนกันเถอะ” เขาชวนฉันนอน แม่เจ้า!!
“ค่ะ” ฉันค่อยๆเดินเข้าไปที่เตียงทีละนิดแล้วขึ้นมานอนบนเตียง พี่ภูมิลุกขึ้นไปปิดไฟจังหวะที่เขาลุก ทำให้ฉันรู้สึกสะดุ้งนิดหน่อย
จากนั้นภายในห้องก็มืดสนิท เขาเอนตัวนอนลงมาบนเตียง ที่นอนสปริงนุ่มๆยุบลงไปทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าเขาลงมานอนอยู่ด้วยข้างๆแล้ว
จากนั้นไม่นานฉันก็ได้ยินเสียงลมหายใจของพี่ภูมิดังสม่ำเสมอ อ้าว...หลับแล้วเหรอ นี่ฉันกำลังรออะไรอยู่เนี่ย...ด้วยความเหนื่อยล้าที่ยืนและเดินมาทั้งวัน ทำให้ฉันหลับตามพี่ภูมิไป...
เช้าวันรุ่งขึ้น
“พี่ภูมิคะ...แม่เรียกกินข้าวค่ะ”
“ครับ...” เขาเดินตามฉันมานั่งลงกินข้าวเช้าด้วยกัน
“อาหารถูกปากมั้ยลูก” แม่บัวถามพี่ภูมิ คล้ายกับชวนคุย พี่ภูมิเป็นคนพูดน้อยมาก แต่ท่าทางของเขาก็ยิ้มแย้มแจ่มใสดี ไม่ได้เหมือนกับคนที่ถูกแม่บังคับให้แต่งงานแต่อย่างใด สายตาของเขามองฉันดีขึ้นกว่าครั้งแรกที่เราเจอกัน แต่เขาแค่ไม่ค่อยพูด
“อร่อยทุกอย่างเลยครับ”
“ยัยเจ้าขาตื่นขึ้นมาปรุงเองเลยนะ ลูกสาวแม่ทำกับข้าวอร่อย แต่มันขี้เกียจ ตื่นก็สาย...” ฉันอยู่กับร้านอาหารมาตั้งแต่เด็กทำอาหารไม่เป็นคงขายหน้าแย่
“แม่...” เสียงฉันเองค่ะ กำลังจะดีอยู่แล้วเชียวดูแม่พูดเข้า
“ไม่เป็นไรครับ ที่บ้านผมมีแม่บ้านคอยทำกับข้าวกับทำความสะอาดให้ เจ้าขาไม่ต้องเหนื่อยหรอกครับ” ข้อเสียฉันเยอะก็จริง แต่ไม่ต้องบอกเขาหมดตอนนี้ก็ได้มั้ง
“ถ้าอย่างนั้นแม่ก็สบายใจหน่อย...เจ้าขาไปอยู่บ้านพี่เขา อะไรช่วยพี่เขาทำได้ก็ช่วยไปนะลูก เราเป็นผู้หญิง”
“ค่า...”
“กินข้าวเช้าอิ่มแล้ว ยังไงผมขออนุญาตพาน้องกลับเช้านี้เลยนะครับ งานที่สวนค่อนข้างเยอะน่ะครับ”
“ได้สิลูก ยังไงแม่ฝากน้องด้วยนะ”
“พ่อฝากน้องด้วยนะภูมิ”
“ครับ ผมจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลยครับ”
“ภูมิพูดแบบนี้พ่อกับแม่ก็สบายใจ”
ก่อนกลับพ่อกับแม่เรียกฉันกับพี่ภูมิให้เข้าไปหา พวกท่านยกสินสอดทั้งหมดคืนให้ไม่ขอเก็บไว้สักบาท ค่าจัดงานแม่พรก็ออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด พ่อยอดกับแม่บัวคงเกรงใจ
“พ่อกับแม่เก็บเอาไว้เถอะครับ” นั่นสิ
“ภูมิ...เอาอย่างนี้นะลูก คิดซะว่าพ่อกับแม่รับไหว้ด้วยของมีค่าทั้งหมดนี้ เก็บเอาไว้ให้หลานของพ่อก็ได้” พ่อยอดจับมือฉันกับพี่ภูมิให้รับเอาสินสอดพวกนี้เก็บเอาไว้ พี่ภูมิหันมามองหน้าฉัน ฉันจริงพยักหน้าให้
“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ครับ ถ้าผมว่างผมจะพาน้องมาเยี่ยมพ่อกับแม่บ่อยๆนะครับ” เราอยู่จังหวัดเดียวกันค่ะ แต่คนละอำเภอระยะทางค่อนข้างไกลกันพอสมควร
“ขอบใจมากลูก ฝากดูแลน้องด้วย”
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ” จากนั้นกระเป๋าเสื้อผ้าของฉันก็ถูกขนขึ้นรถด้วยฝีมือพี่ภูมิ รถที่พี่ภูมิขับได้แล่นออกไปตามท้องถนน โดยมีฉันนั่งอยู่ด้านข้าง
"รู้ตัวหรือยังว่าได้ไปอยู่บ้านหลังไหน"
"ทำไมคะ บ้านแม่พรไง"
"บ้านพี่..."
"อ้าว...พี่กับแม่พรไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันเหรอคะ"
"เดี๋ยวไปถึงก็จะรู้เอง" จากนั้นเราสองคนก็นั่งเงียบกันไปตลอดทาง ไม่มีการพูดคุยใดๆกันทั้งสิ้น ฉันเองก็เริ่มรู้สึกอึดอัด