ตอนที่ 2
หลายชั่วโมงต่อมา…
"เอ่อ...คุณคะ คือหนูได้เวลาเลิกงานแล้ว หนะ…หนูขอตัวก่อนนะคะ" นานาที่มองดูเวลาบนนาฬิกาข้อมือของฟรานซิสเอ่ยขึ้น หลังจากที่เธอนั่งนิ่งปล่อยให้เขาโอบกอดไว้อยู่แบบนั้นมานานหลายชั่วโมง จนบางทีก็แอบสัปหงกอยู่หลายครั้ง
ฟรานซิสที่กำลังนั่งดื่มคุยกับมาร์คบ้าง ปรายตามามองเมื่อมีเสียงจากคนตัวเล็กที่เขาโอบกอดอยู่ดังขึ้น
"ไปสิ" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเหมือนไม่ใส่ใจก่อนจะยอมคลายพันธนาการออกให้เธอเป็นอิสระ
นานารีบลุกพรวดพราดขึ้นยืนทันทีที่เขายอมปล่อยให้เธอได้เป็นอิสระ ก่อนจะรีบลนลานวิ่งออกจากห้องไปอย่างไม่หันหลังกลับมามองหรือไม่แม้แต่จะเอ่ยลาใคร
"จะให้ผมตามมั้ยครับ" ฌอนถามขึ้น เมื่อเห็นสาวน้อยที่เจ้านายหนุ่มโอบกอดไว้รีบลุกเดินออกจากห้องไปด้วยความรีบร้อน
"หึ ไม่ต้อง" ฟรานซิสยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ พลางนึกในใจว่าเด็กสาวคนนี้ไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่นๆที่เขาเคยเจอมา
เธอเหมือนจะกลัวเขาแต่บางทีก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ เธอสามารถนั่งนิ่งๆอยู่ข้างกายเขาได้หลายชั่วโมงโดยที่ไม่ทำอะไรสักอย่างนอกจากนั่งสัปหงก เธอดูแตกต่าง แตกต่างจนน่าสนใจไม่น้อย…
"อ้าว แม่กวางน้อยมึงไปไหนแล้ววะ" มาร์คที่เอาแต่สนใจสาวข้างกายหันมาถามอย่างสงสัย เมื่อเงยหน้าขึ้นจากสองเต้าอวบใหญ่ของหญิงสาวข้างกายแล้วไม่เห็นสาวน้อยที่เพื่อนรักเรียกมานั่งด้วย
"ไปแล้ว"
"ไปแล้ว? ไปไหน?"
"เธอบอกเลิกงานแล้ว กูกลับก่อนนะ" พูดจบฟรานซิสก็เดินออกมาพร้อมกับลูกน้องคนสนิทอย่างฌอนทันที ทิ้งให้มาร์คนั่งงงอยู่แบบนั้น
"ไอ้ฌอน สืบประวัติเด็กคนนั้นให้กูที" เมื่อขึ้นมาบนรถฟรานซิสก็เอ่ยปากสั่งลูกน้องเสียงเรียบ
"ได้ครับนาย" ฌอนขานรับ ได้แต่คิดในใจว่าสาวน้อยคนนั้นต้องไม่ธรรมดาแน่ๆที่ทำให้ผู้เป็นนายของเขาถึงกับอยากรู้ประวัติกันเลยทีเดียว
"ออกรถสิวะ!"
"ครับๆ ขอโทษครับนาย" ทันทีที่เสียงเข้มทรงพลังเอ่ยสั่ง ฌอนก็รีบออกรถอย่างรวดเร็วทันใจ กลัวว่าถ้าช้ากว่านี้อาจจะได้กินลูกตะกั่วแทนข้าว
หลังจากที่ออกมาจากห้องวีไอพีได้ ร่างบางของนานาก็รีบตรงเข้ามาเปลี่ยนชุดเป็นชุดเดิมของตัวเองทันที
"นี่ค่าแรงวันนี้นะ" ผู้ช่วยผู้จัดการร้านสาวสวยยื่นซองสีขาวที่บรรจุเงินค่าแรงจำนวนมากให้กับเธอ
"ขอบคุณค่ะ หนูขอตัวก่อนนะคะ" นานารับซองจากผู้ช่วยผู้จัดการร้านเสร็จ เธอก็ขอตัวเดินออกมาทางด้านหลังของผับหรูทันที
พลั่ก!
ร่างบางของเด็กสาวเดินออกมาได้สักพักก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครสักคนในเงามืด จนทำให้เธอนั้นล้มลงไปกับพื้นอย่างแรง
"อ้ะ! โอ๊ย! ขะ…ขอโทษค่ะ" เสียงเล็กร้องโอดโอยด้วยความเจ็บ แต่ก็ไม่ลืมที่จะรีบเอ่ยขอโทษบุคคลนั้นอย่างรีบร้อน ทั้งที่ยังไม่ได้เงยหน้ามองหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ
"ไม่เป็นไร เธอเจ็บตรงไหนหรือเปล่า"
พอได้ยินน้ำเสียงที่เอ่ยออกมาทำให้นานารีบเงยหน้าขึ้นมองทันที พร้อมกับขมวดคิ้วมนจนหัวคิ้วแทบจะชนกัน เมื่อคนที่เธอเดินชนนั้นคือเขา ฟรานซิส
"มะ…ไม่เป็นไรค่ะ" ถึงปากจะบอกไปแบบนั้น แต่ร่างกายกลับตรงกันข้ามกับคำพูด เมื่อเธอกำลังพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นจากพื้นก็รู้สึกเจ็บร้าวระบบที่ข้อเท้าขึ้นมาจนไม่สามารถพยุงตัวเองลุกได้
พรึ่บ
"บ้านเธออยู่ไหน ฉันจะไปส่ง" ฟรานซิสย่อตัวลงไปอุ้มร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนแล้วเอ่ยถาม
"มะ…ไม่เป็นไรค่ะ หนูกลับเองได้"
"ฉันบอกว่าจะไปส่ง" เขาพูดย้ำอีกครั้งเสียงเรียบ ไม่สนใจคำปฏิเสธของเธอ
"บอกทางด้วย" ฟรานซิสอุ้มเธอมาขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล โดยมีฌอนเป็นคนขับ
นานาพยักหน้ารับเบาๆ โดยไม่ได้พูดอะไรอีก เมื่อเขายืนยันที่จะไปส่งและไม่ฟังคำปฏิเสธของเธอ แล้วอุ้มเธอพามาขึ้นรถแบบนี้ จึงได้แต่จำใจบอกทางกลับบ้านให้เขาไปส่งอย่างเลี่ยงไม่ได้ จนกระทั่งฌอนขับรถมาจอดที่หอพักเล็กๆ แห่งหนึ่งตามที่เธอบอกทาง
"ขอบคุณที่มาส่งหนูนะคะ" นานาเอ่ยขอบคุณพร้อมกับยกมือไหว้เขา
ฟรานซิสพยักหน้ารับนิ่งๆ พอเห็นแบบนั้นเธอก็ไม่รอช้ารีบเปิดประตูลงจากรถแล้วเดินขากะเผลกเข้าไปในหอพักทันที
วันต่อมา…
ร่างบางที่กำลังนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มเริ่มขยับตัวไปมาเบาๆ เมื่อรู้สึกตัวตื่นในช่วงสายของวัน ก่อนจะบิดขี้เกียจไปมาแล้วยันตัวลุกขึ้นนั่งบนที่นอนด้วยอาการงัวเงีย
"อื้อ~ นี่เราหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย" พอดูเวลาก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นว่าตอนนี้นั้นสายมากแล้ว หรือจะเรียกได้ว่าอีกนิดเดียวก็เที่ยงแล้วก็ว่าได้
"แล้วนี่จะไปทำงานเย็นนี้ไหวมั้ยเนี่ย" เสียงเล็กบ่นกับตัวเองอย่างคิดไม่ตก เมื่อมองดูที่ข้อเท้าของตัวเองนั้นยังคงบวมช้ำและเจ็บระบมอยู่ไม่หาย
ก่อนที่เธอจะตัดสินใจลุกขึ้นไปอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวของตัวเองจนเสร็จ ถึงจะเจ็บข้อเท้าและเดินลำบากแต่ยังไงเธอก็ต้องไปทำงานอยู่ดี ไม่ไปก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไว้ใช้จ่าย
@ผับหรูใจกลางเมือง
"อ้าวนานา ทำไมวันนี้มาเร็วจัง"
"คือ...พอดีว่าเมื่อคืนหนูเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ อาจจะเดินไม่ค่อยถนัดเลยต้องรีบมาเตรียมตัวก่อนเวลา ต้องขอโทษด้วยนะคะ" เธอบอกกับผู้ช่วยผู้จัดการร้านไป ก่อนที่ผู้ช่วยผู้จัดการร้านจะก้มมองมาที่เท้าของเธอ
"ไม่เป็นไรๆ เดินไหวไหมล่ะเนี่ย ยังไงก็เดินระวังๆด้วยล่ะ" ผู้ช่วยผู้จัดการร้านบอกกับเธออย่างใจดี
"ขอบคุณค่ะ งั้นหนูขอตัวไปแต่งตัวก่อนนะคะ"
"จ้ะ" ผู้ช่วยผู้จัดการร้านสาวสวยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม
"วันนี้เธอคงจะไม่ต้องเดินไปเดินมาให้เมื่อยหรอกนะนานา" พอเด็กสาวเดินไปไกลจนลับสายตา ผู้ช่วยผู้จัดการร้านสาวสวยก็ได้แต่เอ่ยขึ้นไล่หลังเสียงเบา เพราะเธอได้รับคำสั่งมาแล้ว…
"ติดใจอะไรที่ร้านกูนักหนาเหรอวะ หึ" มาร์คเอ่ยทักฟรานซิสด้วยรอยยิ้มกวน เมื่อเห็นเพื่อนรักมานั่งดื่มอยู่ในห้องวีไอพีที่ผับเขาอีกแล้ว
"ร้านมึงทำเลดีนะ ทำบ่อนแล้วน่าจะรุ่ง ลูกค้าคงเยอะน่าดู เผาทิ้งแม่งเลยไอ้ฌอน" ฟรานซิสกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เมื่อพูดกับเพื่อนจบ ก่อนจะหันไปพูดกับลูกน้องต่อในประโยคหลัง
"ได้ครับนาย!"
"เฮ้ย! เดี๋ยวๆ ไอ้ห่านี่!"
"หึ ไปตามเด็กคนนั้นมาได้แล้ว" เด็กที่ฟรานซิสพูดถึงก็นานา
หลังจากที่ให้ฌอนสืบประวัติของเธอให้เรียบร้อย เขาก็รีบมาที่ผับแห่งนี้ทันที เพราะเธอ…น่าสนใจจนทำเอาติดใจไม่น้อย
"คะ…คุณ" นานาถึงกับตกใจที่เจอเขาอีกแล้ว
"มานั่งนี้สิ" ฟรานซิสสั่งเสียงเรียบปรายตามองที่ว่างข้างตัว
นานาที่เห็นแบบนั้นก็ไม่ได้อิดออด ยอมเดินไปนั่งลงข้างเขาอย่างว่าง่าย เพราะดูจากเมื่อวานแล้วเขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่มันดูไม่ดีเหมือนเพื่อนเขาทำกับผู้หญิงที่เรียกมาบริการ เธอก็แค่นั่งเฉยๆ อยู่ข้างเขาจนถึงเวลาเลิกงาน ดีกว่าต้องเดินไปมาทั้งที่เท้ายังเจ็บ
"อยู่เฉยๆ" มาเฟียหนุ่มเจ้าเล่ห์อย่างเขารีบใช้โอกาสโอบกอดเอวคอดของเธอไว้แน่นทันทีที่เธอเดินขากะเผลกมานั่งลงข้างเขา
"เอ่อ...คุณคะ คุณกอดหนูแน่นไปแล้วนะคะ" จะให้เธอนั่งเฉยๆได้ยังไง ในเมื่อเขาเล่นกอดเอวคอดเธอแน่นขนาดนี้
แต่ยิ่งเธอดิ้นเขาก็ยิ่งกอดแน่นขึ้นไปอีก จนตอนนี้เธอแทบจะขึ้นไปนั่งบนตักเขาอยู่แล้ว
"ไอ้ฌอน กูว่าเร็วๆนี้มึงคงจะมีนายหญิงเป็นตัวเป็นตนแล้วล่ะ" มาร์คหันไปพูดกับลูกน้องคนสนิทของฟรานซิสอย่างขบขัน
ฟรานซิสไม่ได้สนใจคำพูดของเพื่อนเลยสักนิด ยังคงเอาแต่นั่งโอบกอดร่างบางข้างกายไว้แน่น มือหนาก็เริ่มอยู่ไม่สุข เริ่มลูบไล้ไปมาตามสะโพกมนและต้นขาของคนตัวเล็กไม่หยุด จนนานาต้องคอยใช้มือจับมือเขาไว้อยู่บ่อยครั้ง
เธอขอถอนคำพูด ที่บอกว่าเขาไม่เหมือนเพื่อนก่อนหน้านี้ เพราะตอนนี้เขากำลังทำตัวรุ่มร่ามกับเธออยู่ไม่ต่างจากเพื่อนเขาเลย
…