บท
ตั้งค่า

บทนำ 1

ณ เพนต์เฮ้าส์ใจกลางเมืองกรุงฯ



ชายหนุ่มในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมลงมาจนเห็นแผงอกแน่นนั่งพิงพนักเก้าอี้อยู่หลังโต๊ะทำงานดีไซน์เรียบหรู แขนทั้งสองวางลงยังที่พักข้างตัวพร้อมกับผ่อนคลายร่างกายตัวเอง สายตาคมกริบมองไปยังหญิงสาวในชุดเดรสสีดำรัดติ้วที่แทรกตัวอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างของเขาซึ่งเธอกำลังทำหน้าที่ปรนเปรอโดยการใช้ลิ้นนุ่มโลมเลียไปทั่วแกนกายขนาดใหญ่พร้อมกับส่งมันเข้าไปในอุ้งปากร้อนแล้วดันเข้าจนสุดทาง หญิงสาวทำอย่างนั้นสลับไปมาเป็นเวลาหลายนาทีอย่างเอาใจ

อ๊อก อ๊อก!!

กรามของเขาขบเข้าหากันอย่างสะกดกลั้นความกระสันเสียว เธอเห็นดังนั้นก็รีบเร่งจังหวะเข้าออกให้ถี่ขึ้นแล้วผ่อนลงตามการตอบสนองของร่างกายคนที่นั่งอยู่ ชายหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะถึงฝั่งฝันในไม่ช้า เขากำมือแน่นแล้วปล่อยอารมณ์ของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ ไม่นานร่างของเขาก็กระตุกแล้วฉีดน้ำรักอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากของเธอจนหมดทุกหยาดหยดพร้อมกับพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง

หญิงสาวดูดกลืนมันเข้าไปอย่างรู้งานแล้วเช็ดทำความสะอาดจัดการกางเกงสแล็คสีดำของเขาให้กลับไปเข้าที่เข้าทางเหมือนเดิม

ทว่าใจเธอกลับไม่อยากหยุดแค่นั้น ร่างอวบรีบลุกขึ้นแล้วโน้มใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางอย่างหนาเข้าใกล้ใบหน้าหล่อเหลาจนหน้าอกขนาดใหญ่ของเธอทะลักออกมาพ้นเดรสที่สวมอยู่เกือบครึ่งเต้า

“ถ้าคุณต้องการมากกว่านี้...” เธอเอ่ยถามน้ำเสียงกระเส่า สายตายั่วยวนไล่มองใบหน้าของเขาด้วยความหลงใหล เธอแค่อยากเป็นผู้หญิงโชคดีที่ได้ครอบครองร่างกายนี้สักครั้งก็เท่านั้น

“ออกไป” สายตาของเขาเหลือบมองไปทางอื่นด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายอย่างไม่ปิดบัง

“ฉันสามารถทำได้ทุกอย่าง รับรองว่าคุณจะติดใจ” เธอไม่ลดละความพยายามยังคงพูดโน้มน้าวเขาอีกครั้ง

“บอกว่าให้ออกไป!” ชายหนุ่มรู้สึกทนไม่ไหวกับความน่ารำคาญนี้อีกต่อไป เขาตะวาดออกมาเสียงดังลั่นแล้วผลักเธอให้ออกห่างจากตัวอย่างนึกรังเกียจ หญิงสาวซวนเซออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัวและรู้สึกตกใจไม่น้อย เธอไม่คิดว่าผู้ชายที่ดูเงียบแบบนี้พอโกรธขึ้นมาจะน่ากลัวมากเหมือนกัน

สายตาคมกริบฉายแววไม่พอใจยังคงจ้องมองเธออยู่อย่างนั้น จนเธอต้องยอมแพ้แล้วหันหลังเตรียมจะเดินออกไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดกับปฏิกิริยาที่เขาแสดงออกมาว่าไม่สนใจเธอเลย

หญิงสาวที่กำลังเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาชะงักกึก เมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มเปล่งออกมาอีกครั้ง

“เดี๋ยว”

เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจเพราะคิดว่าเขาอาจจะเปลี่ยนใจแล้วรีบหันกลับไปมองทันทีด้วยรอยยิ้มหวาน แต่คำพูดที่เขาเปล่งต่อมาทำให้เธอต้องชะงักเท้าที่กำลังจะเดินเข้าไป ริมฝีปากอิ่มหุบยิ้มแทบไม่ทัน

“รอบหลังไม่ต้องมาแล้วนะ ไม่ได้เรื่อง!”

ริมฝีปากของเธอเม้มเข้าหากันแน่นอย่างรู้สึกเสียหน้าครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับหันหลังแล้วเดินตึงตังออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกอารมณ์เสียอย่างถึงขีดสุด

ภาคินัยหรือภาม นักธุรกิจหนุ่มหล่อวัยสามสิบห้าปี ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับเดินไปหยุดยืน ยังกระจกบานใหญ่ตรงหน้า นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองวิวด้านนอกในยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยรถรากำลังสัญจรไปมาอย่างหนาแน่นรวมถึงตึกมากมายที่มีแสงไฟสีทองสาดส่องออกมาและรอบๆ ก็เต็มไปด้วยสถานเริงรมย์ ไนต์คลับและอีกมากมาย

สีหน้าเรียบนิ่งยังคงมองไปเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกล่องลอยอย่างกับคนไร้ความรู้สึก แต่ลึกๆ แล้วมันกลับไม่ได้เป็นไปอย่างนั้นแม้แต่น้อย ด้วยบุคลิกภายนอกที่เป็นคนเงียบขรึมจนบางครั้งก็ค่อนไปทางเย็นชาทำให้ใครๆ ต่างคิดว่าเขาเป็นคนไร้หัวใจ ทว่าในทางกลับกันบุคลิกแบบนี้ ทำให้พวกผู้หญิงที่เข้าหาเขารู้สึกว่ามันมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด

เสียงเคาะประตูเรียกสติที่กำลังล่องลอยออกไปไกลให้กลับมาอีกครั้ง เสียงฝีเท้าของใครบางคนหยุดยืนอยู่ด้านหลังไม่ไกลจากเขานัก ภาคินัยเอ่ยถามขึ้นโดยไม่ได้หันกลับไปมอง เพราะรู้ดีว่าคนที่เข้ามานั้นเป็นใคร

“มีอะไร”

“คุณภีมชวนไปที่คลับ บอกว่าวันนี้มีเครื่องดื่มพิเศษครับ”

อคินหรือคิน เลขาหนุ่มวัยสามสิบสามปีเอ่ยบอกพร้อมกับขยับขาแว่นสายตาเล็กน้อย ใบหน้าที่อยู่ภายใต้กรอบแว่นสีเงินนั้น หล่อเหลาไม่ต่างจากผู้เป็นเจ้านาย สองคนนี้ไม่ว่าไปที่ไหนก็มักจะมีสายตาของสาวๆ มองมาราวกับต้องมนต์สะกด อคินเป็นเลขาและเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ภาคินัยไว้ใจ

“อะไรของมันอีกล่ะ” ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองเบาๆ ด้วยความสงสัย

“ไปมั้ยครับ ผมจะได้เตรียมรถ” เลขาคนสนิทถามขึ้นอีกครั้งอย่างรอคอยคำตอบ

ภาคินัยยืนใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจพูดออกมา

“ไปเตรียมรถ”

“ครับ”

อคินตอบรับแล้วรีบลงไปเตรียมรถอย่างที่เคยทำพร้อมกับนั่งลงประจำที่คนขับรอผู้เป็นเจ้านาย ไม่นานภาคินัยก็เข้ามานั่งในรถ หลังจากนั้นรถยุโรปคันหรูก็ค่อยๆ เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทาง

สักพักรถก็มาจอดยังหน้าคลับที่มีผู้คนกำลังยืนกันอยู่ประปราย ที่นี่เป็นคลับขนาดใหญ่มีพื้นที่แยกออกเป็นหลายส่วนและหลายระดับตามกำลังเงินในกระเป๋าของคนที่มาสังสรรค์ คลับแห่งนี้เป็นธุรกิจของครอบครัวภาคินัยซึ่งมีน้องชายของเขาเป็นผู้ดูแล ส่วนบิดากับมารดานั้นส่งต่อทุกอย่างและหนีไปสวีทกันที่บ้านพักตากอากาศนานหลายเดือนแล้ว

ชายหนุ่มเลือกที่จะเดินเข้าไปทางด้านหลังร้านเพราะเขาไม่ชอบที่แบบนี้มากนัก ครั้นเมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าน้องชายเพียงคนเดียวกำลังนั่งคลอเคลียอยู่กับหญิงสาวคนหนึ่งอย่างเมามันบริเวณโต๊ะทำงาน ซึ่งเป็นภาพปกติที่เขาเห็นจนชินตา ชายหนุ่มกับอคินจึงเดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่กลางห้อง

“มาเร็วจัง”

ภรัณยูหรือภีม หันมาพูดกับพี่ชายพร้อมกระซิบบอกให้ผู้หญิงคนนั้นออกไปก่อน ชายหนุ่มวัยสามสิบสองปียืนขึ้นแล้วรูดซิบกางเกงยีนสีซีดของตัวเองพร้อมกับเดินมานั่งลงตรงข้ามผู้เป็นพี่ ภรัณญูเป็นคนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เขามักจะชอบสวมเสื้อยืดสีดำกับกางเกงยีนขาดๆ เส้นผมของเขาถูกย้อมให้เป็นโทนสีเทาจนดูมีออร่า ติ่งหูหนาใส่จิวเพชรเพียงข้างเดียวดูดีอย่างลงตัว

“วันนี้มีเครื่องดื่มอะไรอีกวะ ภีม” ภาคินัยมองหน้าน้องชายนิ่งพร้อมกับเอียงคออย่างรอคำตอบ

“ก็แค่อยากให้ออกมาเที่ยวสาวบ้าง” ภรัณยูแสร้งพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“กู กลับละ” ภาคินัยเตรียมจะลุกขึ้น ทว่าน้องชายกลับรีบห้ามไว้พร้อมกับสาธยายสิ่งที่เขาพึ่งคิดค้นได้เมื่อไม่นานมานี้

“เฮ้ย! ล้อเล่น วันนี้มีเครื่องดื่มพิเศษ ดื่มง่ายแถมอร่อย แต่อานุภาพรุนแรงตามระดับ”

“เลยมาให้กูชิม”

“ก็ชิมกันหลายๆ คนไง แล้ววันนี้มีสาวๆคนใหม่มาด้วย เผื่อพี่สนใจ”

“ไม่” ภาคินัยปฏิเสธเสียงแข็งกร้าว

“ปฏิเสธเร็วจริงๆ พี่ทำให้ผมคิดว่านกเขาพี่มันไม่ขันแล้ว” ภรัณยูมองหน้าพี่ชายอย่างจับผิด

“ก็แค่ยังไม่เจอคนที่ถูกใจ แล้วก็ไม่อยากนอนกับใครมั่วๆ” เขาย้ำคำหลังแล้วมองหน้าภรัณยูพร้อมกับแค่นหัวเราะออกมา

“ผมคัดคนนะคร๊าบ ไม่ได้มั่วอย่างที่พี่คิด”

“...”

"ถ้าพี่ยังไม่เลิกมองผมแบบนั้น.."

"ทำไม?"

"เปล๊าาา"ภรัณยูยักไหล่แล้วหันไปมองทางอื่น ทว่าในใจของเขากลับคิดอะไรสนุกๆออก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel