บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 13 เมียฉัน ฉันอุ้มเอง

ตอนที่ 13 เมียฉัน ฉันอุ้มเอง

“ฉันรออยู่ข้างตึกคณะเธอ รีบออกมา”

“ค่ะ”

เมื่อโทรสั่งเด็กในปกครองเสร็จเรียบร้อย ก็ทิ้งกายพิงเบาะรถตู้ครอบครัวคันหรูที่มีโชคชัยเป็นคนขับ แล้วหลับตาระงับความหงุดหงิดจากเรื่องเมื่อตอนบ่าย แอร์ในรถยนต์ที่ปรับจนเย็นเฉียบไม่สามารถทำให้จิตใจเขาสงบลงได้เลย

เมื่อลืมตาขึ้นมา มองผ่านกระจกหน้ารถ ก็เห็นแม่ตัวดีกำลังเดินเร็วๆตรงมา แต่ก็ต้องชะงักเพราะอยู่ๆก็มีหนุ่มหล่อ หน้าตี๋ ผิวพรรณสะอาดสะอ้านตะโกนเรียกเธอเสียก่อน สองคืนยืนคุยกันอยู่เพียงครู่ ก่อนที่ทั้งคู่จะจับไม้จับมือกันแล้วโบกมือลาแยกย้ายกันเดินไปคนละทาง

กรามแกร่งขบกันแน่นจนสันกรามขึ้นนูน เรื่องเดิมยังไม่ทันลงโทษและเขายังไม่ทันได้หายหงุดหงิด แม่สาวเสน่ห์แรงมายืนจับไม้จับมือกับผู้ชายต่อหน้าต่อตาเขาอีกต่างหาก นี่เธอกล้าเกินไปแล้วจริงๆ ท้าทายอำนาจมืดของเขาขนาดนี้ คิดว่าเขาไม่กล้าทำอะไรเธอจริงๆสินะ

โชคชัยเหลือบมองหน้าคนเป็นนายผ่านกระจกมองหลัง ก็นึกเสียวสันหลังแทนสาวน้อยผู้มีชะตาอาภัพคนนั้น ไม่รู้คืนนี้ จะโดนเจ้านายของเขาเล่นงานจนบอบช้ำแค่ไหน ตัวยิ่งเล็กๆอยู่ด้วย

สาวน้อยที่ยังไม่รู้ชะตาชีวิต ก้าวขึ้นมานั่งบนรถเคียงข้างเขา ที่ตอนนี้ตวัดสายตาดุดันมามองที่เธอ จนเธอต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่รู้หงุดหงิดอะไร หรือเพราะต้องเสียเวลามารับเธอแบบนี้มันทำให้เขาเสียงานเสียการ

“เอ่อ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป ฉันมาเรียนเองก็ได้นะคะ เป็นภาระคุณมารับมาส่งเปล่าๆ”

“หึ จะมาเองกลับเอง เพื่อจะได้ไปไหนกับผู้ชายพวกนั้นต่อใช่ไหม นี่เธอมีอะไรกับผู้ชายกี่คนกัน”

“คุณพูดอะไร ฉันแค่รู้สึกว่าตัวเองเป็นภาระ คุณกับคุณโชคก็ไม่ใช่จะว่างๆ ฉันแค่ไม่อยากให้พวกคุณมีงานเพิ่ม แค่นั้นเอง”

เขาคว้าตัวเธอขึ้นมานั่งบนตักของเขา แล้วกอดเธอไว้แน่น ไม่ยอมให้เธอดิ้นหนีไปไหนได้

“ไอ้ผู้ชายคนเมื่อกี้มันเป็นใคร ทำไมต้องจับมือถือแขนกับมันแบบนั้น นี่ถ้าฉันไม่จอดรถอยู่ตรงนี้ เธอคงไปนอนเอากับมันแล้วใช่ไหม”

“พูดบ้าอะไรของคุณ นั่นเพื่อนฉัน ปล่อยนะ”

“เพื่อนกันเขาไม่จับมือกันแบบนั้นหรอก ผู้ชายผู้หญิง จะสนิทกันก็ต้องมีขอบเขต นอกเสียจากว่าเธอเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนกับไอ้หมอนั่น”

“งั้นก็แล้วแต่คุณจะคิด ปล่อย อื้อ อื้อ”

เขาก้มลงประกบปากจูบเธออย่างเอาเป็นเอาตาย เธอทุบตีและดิ้นอึกอักอยู่ในอ้อมกอดของเขา แต่มือที่แข็งดังครีมเหล็กก็ไม่ยอมปล่อยเธอไป ยิ่งเธอดิ้น ยิ่งกอดรัดเธอแน่น ยิ่งเธอทุบเขา ยิ่งบดจูบเธอรุนแรงขึ้น

โชคชัยไม่กล้าแม้แต่จะมองคนทั้งคู่ผ่านกระจกหลัง แค่ได้ยินเสียงก็รู้แล้วว่าเจ้านายหนุ่มของเขาลงโทษเด็กในปกครองคนนี้ด้วยวิธีใด และใครก็ตามไม่มีสิทธิ์ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ เดิมแค่เรื่องเมื่อบ่ายเขาก็โกรธเธอจะแย่ ดันมามีเรื่องไอ้หนุ่มรูปหล่อคนเมื่อกี้อีก เสียงอึกอักดิ้นรนที่เกิดขึ้นนี่ยังถือว่าปรานี

“อื้อ อ่อย อื้อ”

ชายหนุ่มยังคงตั้งหน้าตั้งตาตะโบมจูบเธอด้วยสัมผัสที่ดุดันร้อนแรง มันยาวนานจนคนตัวบางบนตักแทบขาดอากาศหายใจ จึงหยุดทุบตีและยอมจำนนให้เขาได้ลงโทษเธอตามต้องการ

“อย่ายุ่งกับผู้ชายหน้าไหนอีก เธอเข้าใจไหม”

“เข้าใจ แต่เขาเป็นเพื่อนฉัน นั่นเดือนมหาวิทยาลัยรุ่นเดียวกับฉัน และเขาชอบผู้ชายด้วยกัน”

“ห๊ะ”

“แฟนของเขาเพื่อนในคณะฉัน ชัดไหม”

“แต่เธอกับไอ้หมอนั่นจับมือกัน”

“ก็เพราะเขาไม่ได้ชอบผู้หญิงไง ปล่อยฉันได้หรือยัง”

“ยัง เรามีเรื่องต้องชำระความกันอีกเยอะเลย นี่มันแค่เรื่องแรก แค่เริ่มต้นเท่านั้น”

มือใหญ่ร้อนผ่าวลูบคลำที่ต้นขาขาวผ่องของเธอ ก่อนลากหายเข้าไปในกระโปรงจนเธอสะดุ้งโหยง

“นี่ปล่อยฉันนะ อย่าทำ”

“ทำอะไร”

“อื้อ เอามือออกไป”

“ฉันแค่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้”

“แต่คุณโชคนั่งอยู่ตรงนี้นะ”

“ก็ใครบอกจะเปลี่ยนตอนนี้ล่ะ รอรถจอดแล้วให้โชคลงไปข้างล่างก่อน”

“งั้นคุณก็เอามือออกไปจากตัวฉันก่อนสิ”

“ไม่ล่ะ มันอุ่นดี แล้วก็นั่งนิ่งๆ ถ้าไม่อยากโดนบนรถ”

เธอจำต้องนั่งนิ่งๆ ให้เขาลูบๆคลำเธอตามต้องการตลอดเส้นทาง

เมื่อถึงผับของเขา โชคชัยก็ลงจากรถไปอย่างรวดเร็ว และเขาก็บังคับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เธอจนเรียบร้อย จากนั้นจึงพาเธอขึ้นไปนั่งที่ห้องทำงานของเขา ที่บัดนี้พนักงานจัดเครื่องดื่มมารอตามที่เขาสั่งเรียบร้อยแล้ว

“ชงเหล้าให้หน่อยสิ”

“ฉันชงไม่เป็นค่ะ”

“ชงๆมาเหอะน่า อย่าเรื่องมาก”

ก็คนบอกชงไม่เป็น ชงไม่เป็น ยังจะบังคับให้ชงให้ใช่ไหม ได้ เขาใส่เหล้าเท่าไหร่กันนะ ครึ่งแก้วใช่ไหม โซดาอีกนิด ที่เหลือก็น้ำแข็ง จัดไป กินไม่ได้อย่ามาด่าเธอแล้วกัน

“วันนี้เธอรู้ไหม ว่าใครมาหาฉัน”

“ไม่รู้ค่ะ”

“ก็คู่ขาเก่าของเธอไง นายประณัยนั่นน่ะ ท่าทางจะหลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น เขียนเช็กมาให้ฉันสิบล้าน”

“พี่ณัยหรอคะ”

เธอทั้งตกใจและดีใจ ตกใจที่เพื่อนรักตั้งใจและรีบช่วยเหลือเธอขนาดนั้น และดีใจที่ประณัยช่วยเหลือเธอ เงินไม่ใช่น้อยๆ แต่เขาก็ใจดีกับเธอเหลือเกิน เธอรู้ว่าเขาแอบรักเธอมาหลายปี แต่เธอไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเขาได้เลย มองเป็นพี่ชายตั้งแต่วันแรกยังไง วันนี้ก็ยังคงเป็นความรู้สึกนั้น

“อืม นายประณัยนั่นแหละ หรือเธอมีคู่ขาหลายคน”

“แล้วแต่คุณจะคิดค่ะ แล้วคุณตกลงรับเช็กไว้ไหมคะ”

“หึ ไม่ต้องทำหน้าตามีความหวังขนาดนั้นก็ได้ เสียใจด้วยนะ สาวน้อย ฉันไม่ได้รับเช็กนั่นไว้หรอก เพราะฉันไม่ได้ต้องการเงิน”

“แล้วคุณต้องการอะไร”

“ต้องการนอนกับเธอไง ช่วยไม่ได้นะ บอกคู่ขาให้รอหน่อยแล้วกัน วันหนึ่งเธอคงเป็นอิสระ”

แต่คงไม่ใช่เร็วๆนี้

เธอก้มหน้าก้มตาเทเหล้าใส่แก้วให้กับเขาตามปริมาณที่คิดก่อนหน้านี้ ดวงตากลมโตรื้นไปด้วยน้ำตา นึกเศร้าใจในชะตาชีวิต ขนาดมีคนดีๆอย่างประณัยมายอมใช้หนี้แทนให้ เธอยังหนีไปจากเขาไม่ได้เลย

“เธอนี่เก่งนะ ปั่นหัวผู้ชายได้ขนาดนี้ แต่หลังจากนี้อย่าได้คิดจะไปออดอ้อนให้มันมาใช้หนี้อะไรให้เธออีก เพราะถ้ามันมาหาฉันอีกคราวหน้า ฉันฆ่ามันตายแน่”

“โหดร้าย คุณมันไม่ใช่คน”

“อืม รู้ก็ดีแล้ว และฉันหวงของด้วย ผู้หญิงของฉัน ถ้าฉันยังไม่คายทิ้ง ก็อย่าหวังว่าใครจะเอาไปกินได้”

เธอมองเขาด้วยสายตาเกลียดชัง ชงเหล้าในแก้วอย่างกระแทกกระทั้น แล้ววางลงตรงหน้าเขา

“หึ”

ปราณนต์แค่นหัวเราะ แล้วยกแก้วเครื่องดื่มของตัวเองขึ้นมากระดกอึกใหญ่ ทันทีที่รสชาติของมันแทรกซึมในโพรงปาก ความขมปร่าของเหล้าดีกรีแรงทำให้เขาแทบอยากจะบ้วนทิ้ง นี่อะไรวะเนี่ย เหมือนแก้วนี้เธอเทเหล้าไปประมาณครึ่งขวดได้ รสชาติมันแย่มาก ถ้าเขาขืนกินแก้วนี้หมด มีหวังเขาเมาตั้งแต่แก้วแรก

เพราะเขาไม่ยอมรับการชดใช้หนี้สินจากคู่ขาเก่าของเธอแล้วปล่อยให้เธอเป็นอิสระ เธอเลยจงใจกลั่นแกล้งให้เขาดื่มเหล้ารสชาติห่วยแตกนี่สินะ ได้ ในเมื่อเธอแกล้งเขา เขาก็จะใช้อำนาจที่มีในมือ แกล้งเธอกลับบ้าง

“ดื่มให้หมดแก้ว”

“ห๊ะ อะไรนะ”

“หูหนวกหรอ ฉันบอกให้เธอดื่มให้หมด ชงเอง ก็กินเอง จะได้รู้ว่ารสชาติมันห่วยแตกแค่ไหน”

“ก็ฉันบอกแล้วไงว่าชงไม่เป็น คุณยังจะมาใช้ฉันชงอยู่ได้ ฉันไม่กินหรอกนะ”

เธอขยับตัวจะลุกหนี แต่ก็ไม่ไวไปกว่ามือปลาหมึก เมื่อเขาดึงเธอลงมานั่งเคียงข้าง ชนิดที่ว่านั่งเบียดกันแนบชิดจนแมลงหวี่ยังบินลอดผ่านไม่ได้

“ดื่มเดี๋ยวนี้ ถ้าเธอไม่ดื่ม ฉันจะปล้ำเธอตรงนี้แหละ”

“ไอ้บ้า คนเผด็จการ”

เขายกแก้วเหล้านั้นเทใส่ปากตัวเองอมไว้เต็มกระพุ้งแก้ม แล้วจับล็อกต้นคอของเธอมาประกบปากเขา ก่อนค่อยๆปล่อยเหล้ารสชาติรุนแรงนั้นให้ไหลลงไปในโพรงปากเธอจนหมด มันทั้งขมทั้งบาดคอจนเธอแทบอยากจะอาเจียนออกมา แต่เมื่อเขาใช้สายตากดดันเธอ ก็จำต้องกลืนมันลงคอไปจนหมด และคนใจร้ายอย่างเขาก็ป้อนเธอด้วยวิธีนี้จนหมดแก้ว

“อี๋ ขม”

“ก็ชงเอง”

ด้วยความที่เธอไม่ใช่นักดื่มตัวยง และอาหารมื้อเย็นยังไม่ตกถึงท้อง ทำให้เมื่อแอลกอฮอล์เข้มข้นแก้วนั้นไหลลงไปสู่กระเพาะอาหารของเธอ มันเลยทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบทั้งท้องและลำคอ

ทันใดนั้นเอง เลือดในกายเธอมันร้อนขึ้นและไหลพล่านทั่วร่าง ภาพตรงหน้ามันเอนเอียงพร่าเบลอจนเธอค่อยๆทิ้งตัวลงพิงกับอกแกร่งของเขา ดวงตาหรี่ปรือจวนเจียนจะปิด เธอรู้เลยว่าเธอเมาเข้าแล้ว แต่มันไม่สามารถควบคุมร่างกายได้เลย

“เห้ย ณิชา เธอเป็นอะไร”

เขารับร่างบางที่ทิ้งตัวลงพิงอกเขาแล้วไถลลงจนหน้าเกือบคะมำ มือใหญ่กอดเธอเอาไว้แล้วยกตัวเธอเข้ามากอดแนบอก ใช้มือเชยคางเธอขึ้นมาก็เห็นสาวน้อยของเขาหน้าแดงก่ำ ดวงตาหรี่ปรือหวานเยิ้มจวนเจียนจะปิดอยู่รอมร่อ

“นี่เธอเมาหรอ แค่แก้วเดียวนะ”

แค่แก้วเดียว แต่เขาลืมไปหรือเปล่า ว่าแก้วของเขามันใหญ่แค่ไหน และเธอก็ใส่เหล้าไปเสียครึ่งค่อนแก้วแล้ว และที่สำคัญ เขากินมันไปแค่อึกใหญ่อึกเดียว ที่เหลือทั้งแก้วมันเข้าไปอยู่ในกระเพาะน้อยๆของเธอ

“ณิชา ตื่นมาก่อน ณิชา”

“อืมมม”

คนสวยครางงึมงำในลำคอด้วยความรำคาญ พอดีกับที่ลูกน้องคนสนิทเอาเอกสารมาวางไว้ให้เขาที่โต๊ะทำงาน เขาจึงร้องเรียกให้เอาแฟ้มนั้นมาเปิดให้เขาเซ็นตรงนี้ เพราะไม่อยากทิ้งคนในอ้อมกอดให้นอนเมาอยู่บนโซฟาคนเดียว

“กิต เอาแฟ้มมานี่เลย เปิดให้ด้วย ฉันจะเซ็นเลย”

“อ้าว คุณณิชาเป็นอะไรครับ”

กิตติที่กำลังเปิดแฟ้มให้กับเจ้านายหนุ่มเซ็น อดแปลกใจไม่ได้ที่สาวสวยในอ้อมกอดของเขาหน้าแดงก่ำ แถมคอพับคออ่อนอยู่ในอ้อมอกของเขาอีกต่างหาก

“เมา”

เขาพูดแล้วก็รีบตวัดปากกาเซ็นเอกสารสำคัญทุกแผ่นในแฟ้ม โดยแทบไม่อ่านเลยด้วยซ้ำ เพราะอยากรีบพายัยเด็กขี้เมานี่กลับบ้านไปนอนจะแย่แล้ว

“ครบแล้วนะ ฉันกลับก่อน โชค นายไปเตรียมรถไว้รอเลย ฉันจะอุ้มยัยเด็กนี่ไปที่รถเดี๋ยวนี้”

“ให้ผมอุ้มให้ดีกว่าครับ”

“ไม่ต้อง เมียฉัน ฉันอุ้มเองได้”

พูดจบก็อุ้มสาวน้อยที่เมาจนไม่ได้สตินี่ลงไปข้างล่างทันที ท่ามกลางความมึนงงของกิตติ เพราะปกติแล้ว เจ้านายเขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับผู้หญิงคนไหน ถ้าคู่ขาเมา ก็เป็นเขากับโชคชัยนี่แหละ ที่คอยดูแลรับส่ง หรือแม้แต่อุ้มหรือแบกกลับห้องก็เคยมาแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel