Chapter 1 ซ้อมกีฬา
ร่างสูงโปร่งชายชายหนุ่มสูง 180 เซ็นติเมตร ผมอันดกดำ นัยตาคมเข้ม ผู้มีใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เบ้าหน้าฟ้าประทาน เสน่ห์ชวนให้หลงใหล อีกคนของกลุ่มหนุ่มหล่อสุดฮอตของคณะวิศวะ ทายาทคนที่สองของนักธุรกิจชื่อดังอย่าง ริว รัฐพล ที่ตอนนี้ร่างสูงนั้นโปร่งในชุดกีฬาเสื้อก้ามสีขาวแถบสีเแดง ยืนเด่นแพร่รัศมีความหล่อเหล่าในสนามบาส ไม่แพ้กับเพื่อนๆ ในกลุ่ม เนื่องจากวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่พวกเขานั้นมาฝึกซ้อมบาสที่จะแข่งขันกีฬามหาลัยในอีกไม่กี่วันข้าง เรื่องความหล่อ รวยที่มาเพียบพร้อมของหนุ่มๆ กลุ่มนี้นั้น หล่อแบบ มีเสน่ห์ที่กินกันไม่ลงเลยทีเดียว ทั้งที่เป็นแค่การซ้อมเล่นกับเพื่อนๆ และกลุ่มรุ่นน้องในคณะ แต่ก็มีสาวๆ บางกลุ่มที่ตามมาให้กำลังหนุ่มหน้าตาดีอย่างพวกเขา
สัปดาห์นี้ร่างสูงนั่นฝึกซ้อมกันอย่างหนัก ถ้าแพ้ขึ้นมาเดี๋ยวเสียชื่อคณะวิศวะหมดเพราะคณะวิศวะนั้นครองแชมป์กีฬาประเภทบาสเกตบอลมาถึง4 ปีซ้อน ซึ่งปีนี่เป็นปีสุดท้ายที่ริวนั้นจะได้ร่วมทำกิจกรรมในรั้วมหาลัย แต่นั้นก็แอบได้ยินมาคณะคู่แข่งขันในปีนี้หวังจะล้มแชมป์เก่าอย่างทีมพวกเขา
"ฝันไปเถอะ" หรือนี้อาจจะเป็นเสน่ห์ของหนุ่มๆ กลุ่มนี้ที่ชอบการกีฬาเล่นบาสเกตบอลเป็นกิจกรรมหลักเพื่อเพิ่มเสน่ห์ความเท่ห์ให้กับตนเอง ก็น่าจะเป็นได้
ร่างสูงในชุดกีฬาเบอร์แปดสิบเก้าวิ่งแย่งลูกบาสกับเพื่อนสนิทอย่างเรียวตะ อรัณ ริว และมีรุ่นน้องในคณะอีกหลายคนที่ร่วมซ้อมในครั้งนี้ด้วย ร่างสูงกระโดดซู๊ต ลูกบาสในสนาม ข้างตึกคณะวิศวะ โดยมีเพียงกลุ่มเพื่อนและรุ่นน้องในคณะเท่านั้นที่ซ้อมกันในสนามแห่งขึ้น
"ไอ้เชี่ยรัณ กูอยู่ตรงนี้ครับ ไอ้สัสมึงแม่งโยนให้ไอ้เชี่ยเรียวเฉย" ริวสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อโดนเรียวตะกระโดดรับลูกบาสไปต่อหน้าต่อตา ริวถึงกับต่อว่าอรัณทันที เมื่อเพื่อนร่วมทีมอย่างอรัณนั้นดันพลาดโยนลูกบาสให้ฝั่งคู่ต่อสู่อย่างเรียวตะและริก โดยพวกเขาทั้งสี่หนุ่มนั้นแบ่งแยกออกเป็นสองทีม
"อะ นี้แค่ซ้อมดูมึงนี้จริงจัง ขนาดนั่นเชียว" อรัณที่โดนริวต่อว่าถึงกับรีบสวนกลับทันที เพราะริวนั่นดูจริงจังราวกับแข่งขันรองชิง
"อ่า แม่ง พูดมาได้นะไอ้สัส" พูดยังไม่ทันขาดคำ ไอ้เรียวตะก็ซู๊ตลูกบาสเข้าห่วงอีกครั้ง และชนะทีมพวกผมไปทันที พร้อมกับทำหน้าเป็นเชิงว่า
"กูแน่ไหมละ" จากนั้นไอ้ริกก็วิ่งมาปรบมือกับไอ้เชี่ยเรียวตะ เป็นการเย้ยผมและไอ้เชี่ยรัณ แม่งหมั้นใส้พวกมันชิบหาย
"แค่ซ้อมเล่นเฉยๆ ละวะ มึงชนะกูได้ที่ไหนกันมีแต่ไอ้เรียวเป็นคนทำคะแนน" ผมหันไปว่าให้ไอ้ริกแฝดคนพี่ของผม ที่มันทำหน้าตาภูมิใจมาก ทั้งที่มันชู๊ตไม่เข้าห่วงซักลูก ฝีมือไอ้ริกเรื่องนี้มันไม่เท่าผมหรอกครับ
"แค่ ซ้อมแล้วไง มึงยอมรับเถอะครับว่าทีมพวกมึงสองตัวอ่อน ไอ้น้องชาย...ฮ่า" ไอ้ริกไม่พูดเปล่า พร้อมกับวางมือมาตบบ่าไหลของผม มันอวยทีมมันมาอย่างภูมิใจ ที่ชนะทีมพวกผมได้ ไอ้เจมส์และไอ้ดีเอ็มได้แต่มองหน้ามันด้วยท่าทีไม่พอใจเพราะสองคนนั้นมันอยู่ทีมเดียวกับผม
"วันแข่งจริงมึงชู๊ตเข้าห่วงเป็นบุญตากูซักลูกเถอะ แม่งขี้โมชิบหาย" ผมว่าให้กับไอ้ริกแม่งอวด แค่ซ้อมไหม อยากจะบอกว่า
"วันนี้พวกกูแค่เบามือโว้ย"
"ไม่รู้แหละ แต่ที่รู้ๆ คืนนี้ พวกมึงสองตัว เลี้ยงเหล้ากูกับไอ้เรียว" ไอ้ริกเอ่ยกับพวกผมมา ไอ้อรัณถึงหลุดขำ แม่งไอ้ริกหาเรื่องแดกเหล้าได้ทุกสถานะการณ์จริงๆ ผมถึงกับสายหัวให้มัน
"เชี่ยรัณ มึงแม่งตกลงกับไอ้ริกมันตอนไหนวะ กูไม่เห็นรู้ว่าใครแพ้ต้องเลี้ยงเหล้า" ผมหันไปถามไอ้อรัณที่ยืนนิ่งอยู่ข้างผม
"มึงไม่รู้นิสัยพี่ชายมึงไง ไอ้ริกถ้ามันจะแดกมันก็หาเรื่องให้กูกับมึงเลี้ยงเหล้ามันเฉยๆ นี้แหละ" พอได้ยินไอ้อรัณเอ่ยมาเช่นนั้น ไอ้ริกถึงกับระเบิดเสียหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจที่ไอ้อรัณนั้นรู้ทันมัน อยากแดกให้เมาแต่ตังไม่ออก ให้ได้อย่างงี้ดิไอ้เชี่ยริก อย่าบอกใครนะว่ามันเป็นพี่ชายผม
"เหอะๆ สัส มึงแม่ง ขี้โกงชิบหาย เลือกอยู่ทีมเดียวกับไอ้เรียว ใน มอ.B นี้มีใครแข่งบาสแล้ว เอาชนะไอ้เรียวได้ กูยังไม่เห็นมีใครล้มมันได้ซักคน " ไอ้เรียวได้ยินเช่นนั้นถึงกับยกยิ้มให้ออกมาด้วยความภูมิใจ
"ฮ่า...แน่นอน" เรียวตะเอ่ยพร้อมกับยักคิ้วให้กับริวและอรัณ เป็นเชิงกูแน่ไหมละ
"ตกลงตามนี้นะไอ้ริว ไอ้เชี่ยรัณ เจอกันที่ร้านนะ เดะกูออกไปกับไอ้เรียว พวกมึงกับพวกไอ้ดีเอ็ม ตามไป" ไอ้ริกออกคำสั่งกับพวกผมเสร็จก็เดินออกจากสนามไปกับไอ้เรียวตะ
จากนั้นผมและไอ้อรัณรวมถึงรุ่นน้องในทีมอีกหลายคน ช่วยกันเก็บอุปกรณ์ แพ้แล้วต้องเลี้ยงเหล้าและเก็บอุปกรณ์อีกครับ จากนั้นผมและไอ้อรัณก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา เพราะใส่ชุดกีฬาเที่ยวผับก็ยังไงอยู่ ไม่ใช่ไรหรอกคับ เขินสาวๆ แต่ก่อนที่ผมจะเดินกลับคณะไปกับไอ้เชี่ยรัณนั้น ร่างสูงเหลือบมองนาฬิกา อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงหนึ่งทุ่ม
"เชี่ยรัณมึงขึ้นห้องไปก่อนเลยนะ แม่งกูร้อนชิบหาย อยากแดกโค๊กเย็นๆ วะ " ผมเอ่ยกับไอ้อรัณเสร็จ จากนั้นร่างสูงก็เดินมาที่ซุ้มขายตู้น้ำหน้าโรงอาหารของคณะนิเทศทันที
ร่างสูงในชุดนักศึกษาในมือถือกระป๋องโค๊กยืนกระดกอยู่ข้างตู้น้ำยอดเหรียญ
!! ฮื่อ...ฮือ!! เสียงร้องไห้ของผู้หญิงสะอื้น ดังขึ้นมา เป็นพักๆ ริวที่กระป๋องโค๊กอยู่นั้นถึงกับชะงัก และขนลุกขึ้นมา ภายในตึกนั้นเปิดไฟเพียงไม่กี่ดวง
"เย็นขนาดนี้แล้วเสียงร้องไห้มาจากไหนละวะ แม่ง! กูเริ่มขนลุกแหละ" ร่างสูงได้แต่พึมพำออกมา เพราะนี้ก็เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว
!! ฮือๆ ...!! เสียงสะอื้นดังพัดเข้ามากับสายลม ยังคงดังขึ้นมาเรื่อยๆ
"แม่ง...บรรยากาศ แบบนี้ แหละ ชวนขนลุกชิบหาย" ริวได้แต่สบถออกมา เขาไม่ชอบความเงียบและเสียงอะไรแบบนี้เลยซักนิด แต่ขานั้นกับก้าวเดินไปตามเสียงสะอื้น
ริกเดินมาที่ข้างถึงกับต้องชะงัก เมื่อสายตากับสะดุดเข้ากับร่างบางในชุดนักศึกษา ที่นั่งหันบนม้าหินอ่อน สะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กสีชมพูและมีพวงกุญแจเป็นรูปไอดอลเกาหลีนั้นติดเอาไว้ เธอนั้นฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ผมยาวสีบอนทองถูกปล่อยยาวม้วนลงกลางแผ่นหลัง เสียงสะอื้น...ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ยังดังขึ้นมาเรื่อยๆ
แต่ขณะที่ริวจะเดินเข้าไปดูให้แน่จัดนั้น เสียงเล็กยังคงสะอื้นและสั่นเครือแว่วเข้ามาในหูของเขา