ตอนที่ 5
ทนายประภาษทอดสายตาไปทางสวนดอกไม้สะพรั่งที่ข้างคฤหาสน์ มองไปล่เลยไปที่ริ้วเมฆอาบแสงอาทิตย์ขลิบทองเมื่อใกล้ค่ำอย่างครุ่นคิดเช่นกัน
ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับเด็กสาวที่ไรอันอยากรู้
“ เด็กผู้หญิงคนนี้ชื่อว่า ‘ทอรุ้ง’ ครับ”
ทนายประภาษเริ่มเผยความลับที่เก็บเอาไว้นาน เป็นความลับที่ไรอันรอฟังอย่างตั้งใจ
เด็กสาวคนนี้ชื่อว่า ‘ทอรุ้ง’ ตอนนี้เธออายุได้ 18 ปี กำลังจะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หกในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เธอเป็นลูกสาวเพื่อนของคุณคีรี
“เป็นลูกสาวของเพื่อนคุณพ่อ?” หัวคิ้วเข้มของไรอันขมวดมุ่นเข้าหากันด้วยความสงสัย
ไรอันทวนคำเหมือนไม่เชื่อ เมื่อคำตอบต่างไปจากที่ตนคาดเดาเอาไว้
“ใช่ครับ...ทีแรกผมเองก็คิดว่าทอรุ้งเป็นลูกสาวของคุณท่านที่เกิดกับผู้หญิงอื่น...เอ่อ” ทนายประภาษอึกอักเล็กน้อย
“ต่อครับ” ไรอันเอ่ย
สีหน้าเปิดทางให้ทนายประภาษเล่าได้เต็มที่
แววตาของคุณประภาษผ่อนคลายขึ้นมาก ภายหลังจากไวน์แก้วที่สามและสี่ละเลียดลงลำคอ จึงเริ่มเล่าต่อจนสิ้นสงสัยแก่ไรอัน
ทอรุ้งเป็นลูกสาวของผู้หญิงที่ชื่อ รำเพย ที่เกิดกับพ่อที่ชื่อ วศิน ซึ่งมีฟาร์มเล็กๆอยู่ที่ปากช่อง ฟาร์มที่เป็นมรดกของครอบครัวที่ตกทอดมาถึงวศิน ซึ่งวศินเองก็จำต้องรับเอาไว้ทั้งมรดกและหนี้สินก้อนใหญ่ไปพร้อมๆกันในฐานะทายาทคนเดียวของครอบครัว
แต่ด้วยจำนวนหนี้สินที่มากเกินกว่ามูลค่าของทรัพย์สินและผลผลิตที่ไม่แน่นอนของฟาร์ม ทำให้วศินและรำเพยต้องเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาอย่างยากลำบาก ทั้งคู่ทนแบกภาระหนี้สินกันมาอย่างไม่ย่อท้อ ท่ามกลางผืนดินที่แล้งระแหงเกินกว่าจะเพาะปลูกพืชใดๆได้
และสุดท้ายเมื่อไม่มีรายได้พอจะชดใช้ภาระหนี้สินที่ไล่หลังอยู่ทุกวี่วันอย่างไม่ปราณี
วศินถึงขั้นเครียดจัดจนเกิดอาการเส้นเลือดในสมองแตก ทิ้งให้รำเพยและลูกสาวต้องอยู่กันเพียงลำพังด้วยชีวิตที่แทบจะอดมื้อกินมื้อ
“น่าสงสารนะครับ” ไรอันน้ำเสียงเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ส่งสายตาเป็นสัญญาณให้สาวใช้ เติมไวน์ลงในแก้วที่เพิ่งว่างลงของคุณประภาษ เมื่อเห็นคุณประภาษนิ่งนานไปชั่วขณะหนึ่ง
ไรอันเห็นอาการกลืนน้ำลายลงคอเหมือนคนคอแห้งของทนายประภาษ เพราะเกิดความสะท้อนสะเทือนใจในเรื่องที่ตัวเองกำลังเป็นคนเล่าอยู่นั้น
“แล้วจากนั้น…เรื่องราวดำเนินไปอย่างไรครับ” ไรอันอยากรู้ต่อ
“วันหนึ่ง!...ข่าวการตายของวศินก็ถึงหูคุณพ่อของคุณไรอัน คุณพ่อของคุณไรอันได้ยื่นมือเข้าช่วยสองแม่ลูกในทันทีที่รู้ข่าว คุณคีรีมีโอกาสพบเจอกับรำเพยเพียงช่วงเวลาสั้นๆของชีวิตก่อนที่จะเสียชีวิตลงไม่กี่วัน แต่ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาอันแสนสั้น…ที่แสนสุข จากที่ทั้งคู่แอบไปมาหาสู่กันโดยที่คุณแม่ของคุณไรอันไม่เคยล่วงรู้ความจริงในข้อนี้”
“คุณพ่อกับแม่ของเด็กสาวคนนี้คบหากันแบบชู้สาวใช่ไหมครับ?”
ไรอันถามออกไปตรงๆ
ทว่าสีหน้าก็ไม่ได้แสดงอาการตกใจ หากทนายประภาษจะตอบว่า “ใช่”
“ในความจริงก็ใช่!...ทว่าสองคนนี้เคยรักกันมาก่อน”
“รักกันมาก่อน?”
ไรอันขมวดคิ้ว กับคำตอบที่ยิ่งเพิ่มความสงสัย
“ครับ…สองคนนนี้เคยเป็นคนรักกันมาก่อน…ก่อนที่คุณคีรีจะมาแต่งงานกับคุณเดียน่าแม่ของคุณไรอันด้วยซ้ำ รำเพยที่เป็นแม่ของเด็กสาวที่ชื่อทอรุ้งเป็นคนรักคนแรกของคุณคีรี แต่ระหว่างที่คุณคีรีไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ ด้วยขาดการติดต่อกันนานจนกลายเป็นความเข้าใจผิดมากมายตามมา เมื่อคุณพ่อของคุณไรอันทำผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อกัน เราเพยจึงตัดสินใจแต่งงานกับวศินในที่สุด เมื่อรำเพยได้ใคร่ครวญอย่างถึงที่สุดแล้ว ประกอบกับคำทัดทานที่รุมเร้าและเสียดแทงมาจากทุกทิศทุกทางถึงฐานะของรำเพยที่ไม่คู่ควรกับคุณคีรีพ่อของคุณ มิหนำซ้ำในตอนนั้น คุณย่าของคุณก็ยืนกรานด้วยการประกาศออกมาว่าจะไม่มีวันยอมรับสะใภ้จนๆอย่างรำเพยเป็นอันขาด”
ทนายประภาษเล่าเรื่องราวความลับนี้อย่างคนที่รู้จริง เพราะคุณคีรีไว้วางใจทนายประภาษประหนึ่งว่าเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่สามารถระบายปัญหาหัวใจแบบลูกผู้ชายต่อกันได้อย่างหมดเปลือก
“เป็นอย่างนี้นี่เอง...แล้วตอนนี้ ผู้หญิงที่ชื่อรำเพย…ยังมีชีวิตอยู่ไหมครับ?” ไรอันอยากรู้
“รำเพยคือผู้หญิงที่นั่งเคียงข้างมาในรถกับคุณพ่อของคุณ ในวันที่ท่านประสพอุบัติเหตุขับรถชนต้นไม้ในที่คืนฝนตกเพราะถนนลื่นนั่นแหละครับ แต่เรื่องนี้ได้ถูกปกปิดเอาไว้โดยไม่มีใครล่วงรู้ กระทั่งมันกำลังถูกเปิดเผยจากปากของผมอยู่ในขณะนี้”
ทนายประภาษหยุดกลืนน้ำลาย
ก่อนจะกล่าวต่อ…..