บทที่4
"ต้นน้ำ ทานข้าวสักหน่อยเถอะนะลูก"น้ำเสียงอ่อนโยนของผู้เป็นแม่เอ่ยเกลี้ยกล่อมลูกสาวให้ยอมทานข้าว ด้วยอาการแพ้ท้องอย่างรุนแรงได้กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็พานจะทำให้อาเจียนออกมา แม้แต่ข้าวปลาอาหารตกถึงท้องได้เพียงไม่กี่คำก็ต้องอาเจียนออกมาจนหมด
"หนูกินไม่ลงค่ะแม่ แม่เอาไปเก็บเถอะ"
"แต่หนูไม่ได้ทานอะไรมานานแล้วนะลูก ฝืนใจทานข้าวสักหน่อยเถอะนะ"ผู้เป็นแม่คะยั้นคะยอแต่ก็ได้รับคำปฏิเสธอยู่ร่ำไป จริยารู้สึกเป็นห่วงลูกสาวเรื่องอาการแพ้ท้องจนไม่สามารถทานอะไรได้และไหนจะโดนเพื่อนที่โรงเรียนสร้างเพจล้อเลียนเรื่องการลา
'ประธานนักเรียนหญิงเรียนดีของโรงเรียนเอกชนชื่อดังท้องไม่มีพ่อ'
แค่หัวข้อพาดข่าวก็ทำเอาโลกในกระแสโซเชียลต่างให้ความสนใจและพากันมาออกความคิดเป็นไปในทางลบ ส่งผลกระทบต่อจิตใจของว่าที่คุณแม่อย่างต้นน้ำ ยิ่งเธอได้อ่านคอมเมนต์ของแต่ละคนความสร้างยิ่งดำดิ่งลงลึกสู่ก้นเหว
เป็นถึงประธานนักเรียนหญิงดีเด่นของโรงเรียนแต่กลับมีข่าวเสียหายให้ใครต่อใครได้วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างสนุกปากยิ่งสร้างความอับอายให้ครอบครัวไปทั่วจนผู้เป็นพ่อถึงกับเครียดหนักพนักงานในบริษัทนินทากันสนุกปากไม่สนว่าเป็นเรื่องของลูกสาวเจ้านาย และไม่ว่าจริยาจะเดินไปทางไหนก็ได้พบเห็นต่อสายตาของคนรอบข้างต่างพากับพูดดูถูกลูกสาว
"ต้นกล้า ทำไมกลับมาสภาพถึงได้เป็นแบบนี้"ผู้เป็นแม่ร้องถามเมื่อเห็นสภาพลูกชายหลังจากที่กลับมาจากโรงเรียน มุมปากมีรอยฟกช้ำคิ้วแตกจนมีเลือดไหล ชุดนักเรียนยับเต็มไปด้วยเศษฝุ่นและหยดเลือดที่แห้งเกรอะ
"ไปมีเรื่องกับใครมาอีกแล้วใช่ไหม ต้นกล้า"
"ครับ"
"กล้า แม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปมีเรื่องกับใคร แม่สอนกี่ครั้งไม่เคยจำแล้วนี่ดูสภาพของลูกสิ ถ้าหากทางโรงเรียนรู้เข้า ลูกอาจจะถูกถอนออกจากนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนได้เลยนะ"ผู้เป็นแม่บ่นร่ายยาวเพราะไม่อยากให้ลูกไปมีเรื่องชกตีกับใคร แต่ผู้ชายเลือดร้อนในวัยคึกคะนองมีหรือจะทนได้เมื่อคนในโรงเรียนมาต่อว่าให้ร้ายพี่สาวฝาแฝด
"อยากจะถอนก็ให้ถอนไปเลยสิแม่ ผมไม่แคร์หรอกกะไอ้แค่นักกีฬาของโรงเรียน"
"ทำไมต้นกล้าถึงได้พูดแบบนี้ นักกีฬาบาสเกตบอลมืออาชีพคือความฝันของลูกเชียวนะ และนี่ก็คือทางเดียวที่จะทำให้ลูกไปถึงจุดนั้นได้"
"ผมยอมเสียสละความฝันของตัวเองได้ครับแม่"ต้นกล้ามองหน้าผู้เป็นแม่สองมือกำหมัดแน่นเมื่อนึกถึงคำดูถูกเหยียดหยามของคนพวกนั้น
"แต่ผมยอมไม่ได้ และจะไม่มีวันยอมให้ใครมาต่อว่า หรือมาด่าพี่สาวของผม"
"ต้นกล้า นี่ลูก"
"พี่สาวของผม ผมรังแกได้คนเดียวคนอื่นไม่มีสิทธิ์ แม่จำเอาไว้นะครับผมยอมเสียสละให้พี่ต้นน้ำได้ ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกยัยขี้แยของผม"
"แม้ว่าผมจะไม่ได้เป็นนักกีฬาตามความฝันของตัวเองก็ตาม"ต้นน้ำที่ยืนฟังอยู่หน้าประตูห้องนอนน้ำตาไหลอาบหน้าเมื่อได้ยินบทสนทนาของน้องชายและแม่ เธอเป็นต้นเหตุทำให้เธอทุกอย่างมันเลวร้ายไปกันใหญ่ ผู้เป็นพ่อไม่แม้จะมองหน้าเวลาเธอท่านก็มักจะเดินหนีจะมีก็แต่แม่และน้องชายที่ยังรักและคอยดูแลเธอในยามอ่อนแอ
ตู้ด ตู้ด
'บริการฝากหมายเลขโทรกลับ'
ติ๊ด
เธอมักจะได้ยินประโยคนี้ซ้ำ ๆ หลังจากมีข่าวสะพัดเรื่องการตั้งท้องแพร่กระจายออกไป แม้ว่าจะติดต่อหาคนรักพี่วงตำแหน่งพ่อของลูกในท้องสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่สามารถติดต่อหาได้แถมพักหลังเขายังปิดเครื่องหนีหายเข้ากลีบเมฆไม่ติดต่อเธอมา
ริมฝีปากเรียวเล็กเม้มเข้าหาคิดไม่ตกว่าจะติดต่อพ่อของลูกอย่างไรดี เพราะตอนนี้เธอต้องการคนคอยอยู่เคียงข้าง ต้องการคนช่วยดูแลถึงแม้ว่าเขาจะเคยบอกและคอยย้ำเตือนไม่ให้เธอบอกกับใครเรื่องความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างทั้งสอง
สมองเริ่มคิดทำงานหนักไร้หนทางติดต่อหาชายคนรักจะออกจากบ้านไปหาก็ไร้ความหมายเมื่อผู้เป็นพ่อได้สั่งห้ามให้เธออยู่แต่ในบ้าน วันทั้งวันต้นน้ำได้แต่นั่งรอว่าเมื่อไหร่เขาจะติดต่อกลับมาหา แต่ทว่ากลับไร้วี่แวว จนเธอได้มาเจอกับข้าวสดใหม่ซึ่งเป็นข่าวใหญ่ติดท็อปในวันนี้
เสียงร้องไห้มาพร้อมกับน้ำตาความเสียใจรินไหลเมื่อได้เห็นผู้เป็นคนรักพ่วงตำแหน่งพ่อของลูกประกาศคบหาดูใจกับนางเอกดังแถมยังมีรูปที่ทั้งคู่พากันไปสวีทหวานที่ร้านอาหารสุดหรูระดับห้าดวงซึ่งเขาก็เคยพาเธอไปซึ่งเป็นเรื่องน่าอิจฉาสำหรับใครหลาย ๆ คน แต่ไม่ใช่เธอ
"คุณทำกับหนูแบบนี้ได้ยังไง ฮึก คุณทรยศหนูได้ยังไง ฮืออ"