Intro หลวมตัวเข้ามาแล้ว
Intro
หลวมตัวเข้ามาแล้ว
ซ่าส์!!!
เสียงสายฝนที่เทกระหน่ำลงมาอย่างหนักหน่วง พร้อมกับลมกระโชกแรงที่พักปลิวเศษไม้ใบหญ้าไปมาร่อนกลางฝน เสียงเอียดอ๊าดของต้นไม้ใหญ่ที่ลำต้นมันยืนเสียดสีกันไปมาจนเกิดเสียงดังชัดเจน ทำเอาใจของคนที่ยืนหลบอยู่ใต้หลังคาโรงจอดรถหน้าตลาดถึงกับหวั่นกลัวว่ามันจะหักลงมาทับตนเองได้ไม่ช้าก็นาน
เป็นเวลาหกโมงเย็นเศษๆ ที่แฟนท์ยืนหลบฝนอยู่ใต้หลังคาโรงจอดรถนี้ บอกตามตรงว่าเธอเริ่มท้อใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าตนเองจะได้กลับบ้านตามเวลา ก็ในเมื่อฝนยังคงตกหนักหน่วงอยู่เช่นเดิม คงต้องติดอยู่ที่นี่จนมืดค่ำอย่างแน่นอน
“รู้งี้ยอมให้ป๊ากับม๊าซื้อรถให้ดีกว่า” ร่างบางยืนพึมพำตัดพ้อถึงการตัดสินใจที่ผิดพลาดไปของตนเองท่ามกลางเสียงฝนกระทบหลังคาสังกะสีโรงจอดรถอย่างต่อเนื่อง
ที่ต้องบ่นเช่นนั้นก็เป็นเพราะว่า เธอมาขายของที่ตลาดในแต่ละวันได้ เพราะใช้รถจักรยานยนต์คันเก่งของตัวเองมาทุกวัน เนื่องจากเธอขับรถยนต์ไม่เป็นอย่างใครอื่นในวัยไล่เลี่ยกัน
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวเอ่ยปากว่าจะซื้อรถคันใหม่ให้เพื่อจะได้มีความสะดวกสบายมากกว่าที่เป็นอยู่ ทว่าเธอกลับไม่อยากได้มัน
แต่ตอนนี้แฟนท์ต้องคิดใหม่อีกครั้งแล้ว
ครึ่มมม!!
เปรี่ยงงง!!
“กรี๊ดดด!!”
ขณะที่กำลังยืนคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยในระหว่างที่รอให้ฝนซาลงก่อน ทว่าจู่ๆ กลับมีเสียงคำรามบนผืนฟ้าอันมืดมนดังขึ้นมา จนคนที่ยืนอยู่ตกใจทั้งยังสั่นกลัว ด้วยความที่เป็นกลัวฟ้ากลัวฝนอยู่แล้ว เวลาแบบนี้หากเธอไม่หาที่หลบอยู่ภายในบ้าน ถ้าติดอยู่ข้างนอกก็ต้องมีเพื่อนหรือใครสักคนที่คอยอยู่ด้วย ไม่เช่นนั้นก็ต้องขวัญกระเจิงเฉกเช่นนี้
“ฮึกก! กลัวๆ ...” ขาเรียวเล็กรีบวิ่งแจ้งพาตัวเองไปหาที่หลบสักที่ในบริเวณโรงรถอย่างฉุกระหุก และไม่ทันนึกคิดอย่างอื่นได้ ด้วยเหตุที่ยังขาดสติและหวาดกลัวอยู่ไม่หาย
เรียวขาเล็กวิ่งหมอบกระเจิงลงไปตามช่องว่างระหว่างรถตามจุดต่างๆ ขณะที่เสียงฟ้าก็ยังคำรามไม่มีหยุดพัก แค่เสียงที่ดังกระหึ่มยังทำเอาใจของคนตัวเล็กหวาดหวั่นอยู่แล้ว และยังจะมีแสงโผล่แวบไปแวบมาให้เธอได้ตกใจกันเข้าไปใหญ่อีก แฟนท์นึกเสียดายว่าตนเองน่าจะกลับบ้านพร้อมเพื่อนไปตั้งแต่เก็บร้านเสร็จแล้ว ไม่น่าอยู่เดินหาของกินเล่นในตลาดต่อเลย
เพล้งงง!!
ติ๊ด!!
“กรี๊ดดดด”
ท้องฟ้าคำรามเสียงดังลงมาอีกรอบ พร้อมๆ กันกับเสียงปลดล็อกประตูรถยนต์ที่จอดอยู่บริเวณใกล้ๆ กับแฟนท์
ทันทีที่เห็นว่าไฟรถมาเซราติที่จอดอยู่ข้างๆ ตัวเองกะพริบขึ้นครั้งสองครั้งเป็นสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่าประตูรถถูกปลดล็อกจากใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นฝีเท้าของคนตัวเล็กจึงไวกว่าความคิด ก่อนที่จะรีบหมุนตัวไปจับเปิดประตูรถพร้อมกันกับที่แทรกตัวเข้าไปนั่งด้านในนั้นด้วยความหวาดกลัวฝนฟ้าข้างนอก
ปลอดภัยแล้ว ...เธอปลอดภัยแล้วนะแฟนท์
แกร่ก!
ปึกก!!
“ปลอดภัยแล้ว ฮึกก... ฮืออ”
“เห๊ยยย!! 0_0!”
ทันทีที่แทรกตัวเข้ามาด้านในรถได้แล้ว ร่างสูงของเจ้าของมาเซราติคันหรูก็ต้องตกใจจนเกือบจะคว้ากุญแจรถเอาไว้ไม่ทัน
อยู่ดีๆ ข้างๆ เบาะของเขาก็มีสาวน้อยตกน้ำตัวสั่นนั่งขดตัวกอดตัวเองอยู่ราวกับเป็นเจ้าเข้าทรง
ในหัวของชลากรตอนนี้มีแต่คำถามเต็มไปหมด “นี่! ใครน่ะ? เข้ามาได้ไงเนี๊ย!?”
เพราะไม่รู้ว่าผู้หญิงที่นั่งตัวสั่นอยู่เบาะข้างๆ นั้นคือใคร เนื่องจากเธอเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอยู่แบบนั้น
“ฮึกก... กลัววว... ขออยู่ด้วยนะ”
เชรดดด!!
ผีป้ะวะ?
เพิ่งจะหัวค่ำเองไหม?
โอ๊ยย... อะไรกันวะเนี๊ย?