บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 คนเก่าไม่มีสิทธิ์

ตอนที่ 7

คนเก่าไม่มีสิทธิ์

18.00 น.

หลังเลิกงานเป็นประจำทุกวัน หนึ่งอย่างที่แฟนท์ต้องทำก่อนกลับบ้านคือการซื้อวัตถุดิบที่ใช้ขายของในวันถัดไปก่อน

ร่างบางเดินเลือกของในตลาดพร้อมกับถุงมากมายที่ถือมาเต็มไม้เต็มมือ ที่ต้องเลือกมาจ่ายตลาดคนเดียวแบบนี้ก็เพราะเพื่อนสนิทอย่างผิงทำหน้าที่เก็บร้านให้ อีกอย่างบ้านของผิงเองก็อยู่ห่างไกล ไม่เหมือนกับแฟนท์ที่ขับรถจักรยานยนต์ไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงบ้านแล้ว

“ป้าสวยจ๊ะ หมูยอวันนี้ทำไมมันดูมีกลิ่นแล้ว” ระหว่างกำลังยืนเลือกของอยู่ ร่างบางก็ต้องรีบถามแม่ค้าเจ้าประจำขึ้น

ขณะที่ถือขึ้นมาแล้วได้กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ หากเธอซื้อไปทำขายมีหวังลูกค้าอาจจะท้องเสาะขึ้นมาก็เป็นได้

“ไหน... อันไหนมาให้ป้าดูซิ”

“อันนี้จ้ะป้า” ร่างบางยื่นของไปให้แม่ค้าได้ดู

“อ่า... จริงสินะ ลุงหมายแกคงลืมเก็บให้ป้าอีกแล้วน่ะสิ ขอบใจเอ็งมากนะที่ช่วยดูให้ เกือบซื้อไปขายแล้วไหมล่ะ ไอ้หมายนะไอ้หมาย... บอกแล้วไม่เคยจำ”

“ช่างเถอะป้า ยังไงก็ดูดีๆ หน่อยละกันนะ”

“จ้า เอานี่ เอาแพ็คใหม่ไปเลย” ป้าสวยแกรีบหาหมูยอแพ็คใหม่มาแทนของเดิม ก่อนจะยื่นส่งให้ลูกค้าเจ้าประจำ

“ขอบคุณจ้ะป้า อ่ะนี่เงิน” แฟนยื่นเงินให้จากนั้นก็รับเงินทอน

ร่างบางกำลังจะออกมาจากร้านป้าสวยได้แล้ว ทว่ากลับโดนป้าแกเรียกเอาไว้ก่อน

“เออ... นี่เอ็งผ่านออฟฟิศเจ้าของตลาดเค้าใช่ไหม? งั้นป้าฝากของนี่ไปให้ลูกเถ้าแก่ชาติหน่อยสิ พอดีว่าเมื่อเช้าแม่เค้าโทรมาสั่งไว้”

“ให้ฉัน... เอาไปให้น่ะเหรอป้า?” อุตส่าห์พยายามที่จะให้ตัวเองเจอเขาน้อยที่สุด ทว่าก็ยังไม่วายโดนคนอื่นใช้อีก

“ใช่... ป้าวานหน่อยได้ไหม? นี่ก็ไม่มีใครอยู่เฝ้าร้านให้ป้าเลยนะ”

“อ่า งั้นก็ได้จ้ะ”

แฟนท์รับถุงหมูยอใบใหญ่มาจากป้าแม่ค้า จากนั้นก็เดินไปทางออฟฟิศของซานในเวลาต่อมา

ร่างบางเดินมาหยุดที่หน้าประตูได้แล้ว ทว่าก็ยังไม่กล้าเคาะหรือเข้าไปอยู่ดี ปกติแล้วลูกน้องของเฮียซานมักจะสุมหัวกันนั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าห้อง แต่แล้ววันนี้กลับไม่มีใครเลย

“เอาแขวนไว้ตรงนี้ก็ได้มั้ง” ว่าแล้วก็หยิบหมูยอถุงใหญ่แขวนมันเอาไว้กับลูกบิดประตูห้อง จากนั้นก็รีบหมุนตัวเดินกลับทันที

ร่างบางเดินถือของพลุงพลังมาจนถึงลานจอดรถ จากนั้นจึงรีบจัดแจงข้าวของใส่ในรถจักรยานยนต์คันคู่ใจ เมื่อทุกอย่างดูท่าเรียบร้อยดีแล้ว คนตัวเล็กก็เตรียมจะสตาร์ทรถขับออกไป

แต่ก่อนที่จะได้บิดลูกกุญแจรถนั้น กลับมีมือปริศนามาดึงกุญแจรถออกไปต่อหน้าต่อตาเธอ

ใบหน้าสวยรีบหันไปตามมือปริศนานั้นอย่างไว ก่อนจะได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วคือใครที่กล้าทำแบบนี้

“เฮียอรรถ...”

ร่างสูงโปรงถือกุญแจรถของแฟนท์เอาไว้ พลางทำท่าแกว่งมันไปมา

เขาอุตส่าห์มาดักรอเจอตั้งนาน โชคดีที่ไม่มาเสียเที่ยว

“เอากุญแจรถแฟนท์มานะ!”

“หึ ...ไม่ได้เจอกันตั้งนาน จะไม่ถามไถ่กันหน่อยเหรอ? แบบนี้เฮียก็น้อยใจนะ”

“ทำไมจะต้องถามด้วย?” พูดจบก็ปลายตาไปทางอื่น

เอาจริงๆ แฟนท์ไม่สบอารมณ์กับคนคนนี้แล้ว ต่อให้จะไม่ได้เจอกันนานแค่ไหน แต่คนอย่างเฮียอรรถนั้นยังนิสัยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยสักนิด

“ปกติกลับบ้านเวลานี้หรอ?” เขาไม่ได้สะทกสะท้านกับคำพูดของแฟนท์เมื่อครู่นี้เลย แถมยังอยากหาเรื่องชวนคุยต่ออีก

“รีบเอากุญแจของแฟนท์มา! ก่อนที่จะโทรบอกเฮียเฟย” ที่ต้องพูดไปแบบนี้ก็เพราะรู้ว่าคนตรงหน้าคงไม่อยากเจอะเจอพี่ชายของเธอนัก

ในอดีตพี่ชายของเธอเคยเป็นเพื่อนสนิทของเฮียอรรถกับเฮียฉี แต่ที่ต้องทำให้ทั้งสามคนทะเลาะกันจนถึงขั้นมองหน้ากันไม่ติด สาเหตุที่แท้จริงแล้วมันคือเรื่องอะไร เธอเองก็ยังไม่รู้เลย รู้แค่เพียงอย่างเดียวว่านอกจากเฮียอรรถจะเป็นคนที่พี่ชายเธอเลิกคบแล้ว ยังเป็นคนที่อันตรายสำหรับเธออีกด้วย

“ยังไม่หายโกรธเรื่องนั้นอีกหรอ?”

“….” คนตัวเล็กไม่ตอบ แถมยังกลอกตามองบนใส่เขาอีก

“ไม่ได้ตั้งใจไง ก็ขอโทษไปแล้ว”

หึ... ขอโทษแล้วงั้นเหรอ ทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็กได้ด้วยการบอกขอโทษแค่คำเดียว มันไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยเหรอ

“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก คืนกุญแจรถมา”

“มาบอกว่าไม่ล่ะ” ว่าพลางกำชับกุญแจในมือแน่น

“เฮีย... อย่าเล่น”

แฟนท์ไม่รู้หรอกนะว่าวันนี้ที่เขามาหา เขากำลังมีจุดประสงค์อะไรกับเธออีก ก็ในเมื่อเรื่องราวในอดีตมันก็จบลงแล้ว เธอไม่อยากจะกลับไปคิดถึงมันอีก

โดยเฉพาะกับคนโลเลอย่างเฮียอรรถ

ใช่... เธอเคยชอบเขา แล้วตอนนั้นก็ดูเหมือนว่าเขาจะชอบเธอตอบ เขาเข้ามาทำดีด้วย มาคอยดูแล เป็นที่ปรึกษาที่ดี และเป็นกำลังใจในเด็กน้อยอย่างเธอมาโดยตลอด แต่แล้วก็เป็นเขาเองที่เข้ามาให้ความหวังแล้วก็จากไป จากไปเพื่อไปประกาศคบกับรุ่นพี่ดาวโรงเรียนคนนั้นไง

หมั่บ

“นี่ปล่อยนะ!” จู่ๆ เขาก็มาจับแขนเธอเอาไว้ หนำซ้ำยังดึงรั้งเพื่อให้เธอลงมาจากรถอีก แฟนท์เองก็พยายามยื้อแขนตัวเองแล้วแต่ไม่เป็นผล และตอนนี้เลยกลายเป็นว่าตัวเองยืนแนบชิดร่างหนาของเขาอยู่

“คุยกันดีๆ ไม่ได้หรอ” น้ำเสียงของเขาดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด

“เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีก พูดแค่นี้เฮียยังไม่เข้าใจอีกเหรอ” มันเป็นเรื่องตั้งแต่สมัยยังเรียนมัธยมกันอยู่ นานมากแล้วแทนที่เขาจะลืม

“พูดแบบนี้แปลมีคนอื่นแล้วงั้นหรอ?”

“ม่ะ.... // ใช่ ...ตอนนี้เธอมีคนอื่นแล้ว และนายก็ไม่ควรมายุ่งกับเธออีก” ยังไม่ทันที่แฟนท์จะได้พูดจบก็มีเสียงใครบางคนที่เพิ่งมาใหม่พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

“ฮ... เฮียซาน!?”

ขณะที่แขนเล็กกำลังถูกกุมเอาไว้แน่นหนาอยู่ เพียงแค่เสี้ยววินาทีที่คนมาใหม่พูดจบ เขาก็เดินเข้าไปคว้าแขนเล็กนั่นมากุมเอาไว้แทน

อรรถพลทำสีหน้าไม่พอใจใส่ ขณะที่ซานเองก็ยกยิ้มขึ้นอย่างคนเหนือกว่า แม้ว่าจะไม่ค่อยรู้จักกับชายหนุ่มรุ่นน้องนัก ทว่าก็พอรู้ว่านี่คือเพื่อนสนิทของน้องชาย

“เฮียมายุ่งอะไรด้วย?” พออรรถพลตั้งสติได้เขาก็รีบถามขึ้นมาทันที

คนอย่างเฮียซาน ไม่เคยสนใจเรื่องของใคร แล้วทำไมต้องมาพูดจาแบบนี้ด้วย เขาไม่เข้าใจ

“ก็เพิ่งบอกไปไง ว่าผู้หญิงคนนี้มีแฟนแล้ว”

“เฮีย...?”

ร่างบางรีบเขย่าแขนแกร่งให้หยุดพูดในสิ่งที่มันไม่ใช่ความจริง แต่แล้วก็กลับโดนมองค้อนทางสายตาใส่ จนต้องปล่อยให้เขาเป็นคนพูดแทน

“หึ... จะบอกว่าคบกันอยู่งั้นหรอ คนอย่างเฮียเนี่ยนะ จะรักใครเป็น?” แม้ว่าอรรถจะไม่ได้สนิทหรือรู้จักเฮียซานดีพอ ทว่าตราบเท่าทั้งชีวิตนี้ที่เป็นเพื่อนกับฉีมา เขาก็พอจะรู้มาบ้างว่าพี่ชายของเพื่อนสนิทนั้นเป็นคนอย่างไร

“เฮียอรรถ กลับไปเถอะนะ”

ร่างบางเริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดีเข้าแล้ว เมื่อมองสายตาของทั้งคู่สลับกัน หากทั้งสองคนยังยืนปะทะกันอยู่แบบนี้ต่อไป มีหวังสิ่งที่เธอไม่อยากให้เกิดขึ้นอาจจะเป็นจริง

“งั้นแฟนท์กกลับกับเฮียสิ”

“เธอจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”

ร่างบางรีบพาตัวเองไปหลบอยู่หลังเฮียซาน ก่อนที่ใครอีกคนจะโดนมือของเขาผลักออกไป เมื่อกำลังย่างกรายเข้ามา เพื่อหวังจะดึงตัวเธอกลับ

“เหอะ... ตลกหน่าเฮีย มายุ่งอะไรด้วย” อรรถยอมถอยออกมาหนึ่งก้าว แต่กระนั้นเขาก็ยังไม่ถอดใจ ยังไงซะวันนี้เขาก็จะพาแฟนท์ไปด้วยให้ได้

ชลากรแสยะยิ้มขึ้น ก่อนจะคว้ามือเรียวบางมากุมไว้ “หึ คนเก่าไม่มีสิทธิ์ ตราบใดที่คนใหม่ยังยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้”

“0_0! ฮ... เฮีย!!!?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel