ตอนที่ 6 งานเลี้ยง2
งานเลี้ยงเริ่มขึ้นและดำเนินไป ผู้คนต่างหลั่งไหลเดินทางเข้าร่วมอย่างคับคั่ง สกุลเว่ยยิ่งใหญ่ใช่ย่อยทีเดียว
เจ้าของงานที่อย่างเว่ยหนิงที่วันนี้แต่งหน้าแล้วแต่ก็ยังไม่งดงามเท่าที่ควรเดินต้อนรับแขกเหรื่ออย่างสง่าผ่าเผย โดยพาติงยวี่ถิงติดตามด้วย เพื่อคอยดูแลเสื้อผ้าหน้าผม ตามคำสั่งเว่ยฮูหยิน
ท่ามกลางผู้คนในงานเลี้ยงยามนี้สตรีที่โดดเด่นเพราะเป็นเจ้าของงานเลี้ยง มิใช่เพราะใบหน้าสะคราญโฉม แต่กลับมีตำหนิจนต้องแต่งหน้าจัดเพื่อกลบริ้วร้อยจนน่าขัน จึงเดินเคียงคู่สตรีที่งามพิลาสเฉิดฉัน ความแตกต่างปานนั้น ทำเอาสตรีผู้หนึ่งชวนมองอย่างยิ่ง
ติงยวี่ถิงแม้ลำบากใจแต่เพื่อเงินให้ทำอะไรก็ย่อมได้
ขณะที่สตรีสองคนหามุมหนึ่งหลบมาดูแลกันและกันตรงพุ่มดอกไม้ คุณชายเว่ยเดินเข้ามาพร้อมฮูหยินของเขา
“หนิงเอ๋อร์ คุณชายไป๋ยืนอยู่ทางนั้น เจ้าจะเข้าไปทักทายกับพี่ใหญ่หรือไม่?”
เว่ยหนิงเชิดหน้า “ไม่ไป ข้าเป็นสตรีนะ พี่ใหญ่จะให้ข้าเป็นฝ่ายเข้าไปทักทายบุรุษก่อนได้อย่างไรกัน?”
เว่ยเฉิงเลิกคิ้ว “แต่น้องรองเป็นเจ้าของงานวันนี้นะ”
“...”
หลังจากนิ่งครู่หนึ่งเว่ยหนิงค่อยเอ่ย “ประเดี๋ยวต้องถูกเรียกไปพบปะพูดคุยครอบครัวทั้งสองฝั่งอยู่ดีมิใช่หรือไร? มองจากตรงนี้ก็ได้เจ้าค่ะ คนไหนล่ะ?” นิสัยของนางก็เช่นนี้ เย่อหยิ่งถือตัวและไว้เชิงเป็นที่สุด
ช่วยมิได้ที่ยังไม่เจอบุรุษตรงใจนี่นา หากเจอขึ้นมา นางจะเป็นฝ่ายเข้าหาเองอย่างแน่นอน ไม่ต้องมีใครเสียเวลาเชื้อเชิญให้ยุ่งยาก!
“พี่ใหญ่แนะนำให้ข้ารู้จักตรงนี้ก็ได้” นางเชิดหน้า ท่าทางยโสเย็นชา มิแยแสแม้หางตา
พี่ชายอย่างเว่ยเฉิงย่อมรู้และคุ้นชินจึงไม่อยากถือสา เขาเพียงชี้เป้าด้วยสายตา “บุรุษชุดฟ้าครามที่กำลังยืนคุยอยู่กับบุรุษชุดขาวในศาลา คนนั้นล่ะที่บ้านเราหมายตาให้เจ้า ขอเพียงพวกเจ้ามีใจตรงกัน งานหมั้นย่อมถูกกำหนดเลย”
ต้องตาตรงใจหรือ? เฮอะ!
หญิงสาวแอบค่อนขอดในใจ มองตามคำบอกพี่ชาย ทว่านางกลับเห็นเพียงบุรุษชุดสีขาวที่หล่อเหลาอย่างยิ่ง
รูปลักษณ์โดดเด่นใบหน้าหมดจดสง่างามเช่นบัณฑิต อา...น่าหลงใหล สองตากลมของเว่ยหนิงจ้องมองแน่วนิ่ง สื่อนัยชัดเจน
พี่ชายสะกิดเสียงเข้ม “ชุดสีฟ้า!”
“อ้อ...”
เว่ยหนิงจึงมองชายหนุ่มชุดสีฟ้าครามอย่างพิจารณา พบว่าเป็นคุณชายไป๋ผู้นั้นคนตัวสูงผิวขาว ใบหน้าเรียวยาว ความหล่อเหลาให้ห้าในสิบเท่านั้น ผิดกับอีกคนที่ยืนด้วยกัน ช่างรูปงามเหลือเกิน คิ้วตาจมูกปากน่ามองไปหมดทุกจุด สัดส่วนสมบูรณ์แบบยิ่ง
มิใช่เพียงเว่ยหนิงแต่คุณหนูทุกคนที่มางานเลี้ยงวันนี้ล้วนมองบุรุษชุดขาวเป็นตาเดียวเช่นกัน
คนอะไร? ช่างดึงดูดสายตาเหลือเกิน
เห็นสายตาน้องสาวมิอาจถอนคืนเช่นนั้น เว่ยเฉิงจึงถอนใจเอ่ยอย่างรู้เท่าทัน “เจ้าอยากรู้จัก?”
“อื้ม...” นางพยักหน้าถี่ๆ “คุณชายคนนั้นเป็นใคร ข้าไม่เคยเห็นเลยนะ รูปงามปานนี้หากเป็นคนเมืองหลวงต้องเคยเห็นสิ ไม่มีทางพลาดสายตาดุจเหยี่ยวของข้าหรอก”
“เขาผู้นี้คือคุณชายที่ร่ำรวยเป็นอันดับหนึ่งในจินโจว เขามาที่นี่เพื่อเปิดเส้นทางการค้าใหม่ ขยายเส้นทางเดิม”
ดวงตาที่เผยความชื่นชมอยู่แล้วยิ่งเปล่งประกาย “อา...ข้าอยากทำความรู้จักเหลือเกิน”
“อย่าแม้แต่จะคิดเชียว เขาไม่ชอบให้ใครเข้าใกล้ เย่อหยิ่งถือตัวเป็นที่สุด ขนาดฮูหยินที่ถูกบังคับแต่งให้เขา ยังไม่เคยได้รับอนุญาตให้เข้าใกล้ ถูกรังเกียจเสียจนต้องหย่า หากเจ้าเผลอทำให้เขาไม่พอใจขึ้นมา โอกาสที่สกุลเว่ยจะได้เป็นหนึ่งที่ร่วมกลุ่มการค้ากับสกุลที่ยิ่งใหญ่ของเขาผ่านทางสกุลของคุณชายไป๋ อาจล่มไม่เป็นท่า”
เว่ยหนิงได้ฟังพลันชะงัก เว่ยเฉิงยังกล่าวต่ออีกว่า “และที่สำคัญ เขามีคู่หมายตามติดชิดกายมาด้วยไม่เคยห่าง ยืนอยู่ข้างๆ กันนั่นปะไร ความคิดไม่ซื่อก่อนหน้าปัดทิ้งซะ”
“...!?” เว่ยหนิงตาโต มีคู่หมายเสียแล้ว เฮ้อ...แรกเริ่มก็แค่เสียดายแต่ข้อสุดท้ายเนี่ย น่าช้ำใจ!
ฮึ! สนใจคุณชายไป๋ก็ได้ เว่ยหนิงจึงมองบุรุษชุดฟ้า
“คุณชายไป๋กำลังมองมาทางนี้” เว่ยเฉิงหยอกเอิน “เขากำลังมองเจ้ากระมัง? พี่รีบเดินไปหาเขาดีกว่า” ว่าแล้วก็พาฮูหยินของตนเดินไปเลย
เว่ยหนิงหรี่ตามองตามพี่ชาย กระทั่งอีกฝ่ายเดินเข้าไปทักทายคุณชายไป๋ผู้นั้น นางจึงมองเขาอีกครั้งอย่างจริงจัง เห็นพี่ชายบุ้ยใบ้บอกอะไรบางอย่าง
แล้วนางก็ได้เห็นว่าคุณชายไป๋มองมาทางนี้เช่นกัน ที่สำคัญ เขาไม่ได้มองนาง แต่มอง...
สาวน้อยหรี่ตาเพ่งพิศและมองตามสายตาคุณชายไป๋ พบว่าอีกฝ่ายกำลังมองสาวงามชุดแดงข้างกายอย่างชัดเจน
สาวงามชุดแดงจะเป็นใครไปได้ ติงยวี่ถิงนั่นเอง
เมื่อสังเกตจนแน่ใจ เว่ยหนิงจึงหันมากระแอมกระซิบกระซาบ“อะแฮ่ม แม่นางติงคนงาม เหมือนแผนข้าจะได้ผลดียิ่งนัก คุณชายไป๋กำลังมองเจ้าตาไม่กะพริบ”
ติงยวี่ถิงที่ยืนอยู่ด้านข้างพยายามก้มหน้าหลุบตาอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตนพลันหางคิ้วกระตุกทันที
นางเงยหน้าขึ้นมอง “ไม่ใช่กระมัง? ข้าไม่เห็นใครมองมาทางข้าเลย คุณหนูเว่ยเข้าใจผิดแล้ว”
“ใช่สิ!” เว่ยหนิงจับไหล่ติงยวี่ถิงให้มายืนด้านหน้า พยักเพยิดทางสายตา “เจ้าดู คุณชายชุดสีฟ้าทางนั้น เขาหันมามองข้าแค่เสี้ยวเวลาแล้วก็ไม่สนใจอีก แต่มองเลยมาที่เจ้าด้วยสายตาเหมือนรักแรกพบเลยทีเดียว” เว่ยหนิงยิ้มกว้าง นางปลอดภัยแล้ว
ติงยวี่ถิงจึงมองไปทางคุณชายไป๋ผู้นั้นอย่างเสียมิได้ ครั้นเห็นใครอีกคนที่ยืนอยู่ด้วย นางพลันรู้สึกขนหัวลุกชัน
นั่นมิใช่อดีตสามีของนางหรอกหรือ?
หญิงสาวสูดลมหายใจลึกยาว เขาก็มาด้วยรึ!
นอกจากเซียวหงเย่ยังมีสาวน้อยอีกคนยืนอยู่ด้วยกัน ท่าทางน่ารักสดใส ท่าทีใกล้ชิดสนิทสนมอย่างยิ่ง
สาวน้อยคนนั้นย่อมเป็นเหวินฟาง
ติงยวี่ถิงหรี่ตา
พบเซียวหงเย่ที่ใด ย่อมเห็นเหวินฟางที่นั่นตลอด น่าหมั่นไส้เกินไปแล้ว...