ตอนที่ 19 เจ้ามีคนรักแล้วหรือไม่
ป๊อก! ป๊อก! ป๊อก!
เสียงเคาะโต๊ะไม้ดังเป็นจังหวะต่อเนื่องออกมาจากกระโจมใหญ่ อี้หนิงหลงยืนอยู่หน้าโต๊ะตำราไม้ในมือถือรายงานที่ถูกขีดเขียนด้วยลายมืองดงาม ดูเป็นระเบียบ ใบหน้าของชายหนุ่มพยักขึ้นลงอย่างพอใจเมื่อได้อ่านมัน เยี่ยนฝางที่กลับจากเรือนรับรองในตัวอำเภอก็ตรงดิ่งกลับมาทำงานที่ค้างคาให้เสร็จตามคำสั่งของท่านแม่ทัพ แต่เมื่อเดินมาถึงหน้ากระโจมกลับได้ยินเสียงเคาะดังออกมา ใบหน้าของนางรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย กระโจมแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้า หรือด้านในจะเป็นคนไม่ดีกันนะ มือเรียวค่อยๆเอื้อมไปเปิดผ้าบังกระโจม ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปเพื่อดูคนที่อยู่ด้านใน
"ดูจากอาภรณ์แล้ว คนผู้นี้มิน่าจะเป็นโจรหรือคนมิดีได้นะ"
เยี่ยนฝางเอ่ยกับตนเองเบาๆก่อนที่จะเดินเข้าไป เพราะป้ายที่ห้อยข้างเอวเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของขุนนาง เพียงแค่ว่านางไม่เคยเห็นรูปแบบเช่นนี้มาก่อน เสียงของผู้มาใหม่ทำให้อี้หนิงหลงรู้สึกตัว กลิ่นหอมอ่อนๆที่เขาได้กลิ่นเมื่อไม่นานมานี้ ลอยตามสายลมที่พัดมาเมื่อนางเปิดกระโจม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏที่มุมปากหนา แต่ไม่ได้หันมาสนใจหญิงสาว เส้นผมดกดำยาวสลวยของร่างใหญ่พัดตามแรงลม เยี่ยนฝางมองภาพชายหนุ่มตรงหน้า และเกิดคำถามในใจ
"คุณชาย เอ่อหรือว่าแม่นาง....ไม่สิ! มิทราบว่าท่านคือผู้ใดหรือเจ้าคะ ท่านมาพบท่านแม่ทัพใช่หรือไม่"
เยี่ยนฝางไม่รู้จะเอ่ยกับเขาเช่นไร นางเห็นเขาจากด้านหลัง ร่างกายคนผู้นี้ดูบางมิเหมือนบุรุษ แต่ก็สูงเกินกว่าที่จะเป็นสตรีได้ อี้หนิงหลงค่อยๆปิดรายงานในมือ ก่อนที่จะหันหน้ามาหาหญิงสาว เยี่ยนฟางที่ได้เห็นใบหน้าของเขาถึงกลับอ้าปากค้างอยู่กับที่ มือเรียวยกขึ้นปิดปากยากที่จะควบคุม จ้องมาทางชายหนุ่มที่ค่อยๆเดินเข้ามาหาตน
"จ้องข้าขนาดนี้ เก็บเงินค่ามองดีหรือไม่"
"เอ่อ....ขออภัยเจ้าค่ะ เสียมารยาทแล้ว"
เยี่ยนฝางที่พึ่งรู้สึกตัวรีบเอ่ยขอโทษทันที อี้หนิงหลงเดินเข้ามาหาหญิงสาว ใบหน้าของเขามองนางอย่างสำรวจ น้ำเสียงเอ่ย กลิ่นหอมที่ออกมาจากตัวนางไม่ผิดแน่ นางคือคนที่เอ่ยวาจาต่อกรกับเสด็จพี่ในเรือนรับรอง ถึงเขาจะไม่ได้ปรากฏตัวที่นั้น แต่ก็ได้แอบยืนฟังที่มุมมืด นับว่านางเป็นสตรีที่ใจกล้ามิเบา ช่างถูกใจเขายิ่งนัก
"เจ้ามีนามว่าอันใด"
"....."
เยี่ยนฝางยังคงนิ่งเงียบ เพราะไม่รู้ว่าคนผู้นี้จะอยากรู้จักนางไปทำไม อีกทั้งยังไม่รู้ว่าเขามาดีหรือไม่
"เอ่อ....ท่านคือ...."
"อ่อ ข้าลืมแนะนำตัวเองไป ข้ามีนามว่าอี้หนิงหลง เป็นสหายกับแม่ทัพจ้าว"
ชายหนุ่มดูปฏิกิริยาของหญิงสาวเมื่อได้ยินชื่อของตน แต่ปรากฏว่านางไม่มีท่าทีแปลกไปกว่าเดิม เห็นทีว่าคนผู้นี้จะมิใช่คนของวังหลวง แต่จะไม่รู้จักเขาที่เป็นถึงองค์ชายสี่ก็ดูจะเกินไปหรือไม่
"ที่แท้คือสหายของท่านแม่ทัพ เสียมารยาทแล้ว ข้ามีนามว่าเยี่ยนฝางเจ้าค่ะ"
"เป็นคนรักของเขาเช่นนั้นหรือ"
อี้หนิงหลงเอ่ยถามออกไปตามตรง เขาเป็นคนเช่นนี้หากอยากรู้อันใดก็ไม่ต้องอ้อมค้อม
"มิใช่เจ้าค่ะ ข้าเป็นเพียงเด็กในจวนจ้าวเท่านั้น"
"เด็กในจวน....."
"เรื่องมันยาวเจ้าค่ะ"
"ข้ายินดีและมีเวลามากพอที่จะฟัง"
"......"
หญิงสาวมีสีหน้าเหม่อลอยเมื่อได้ยินคำพูดของชายหนุ่ม เหตุใดเขาทำท่าทีเหมือนว่าตนรู้จักกันมานานเสียอย่างนั้น บอกว่าอยากรู้ต้องรู้ให้ได้เช่นนั้นหรือ มิใช่ว่าเรื่องของนางพูดไม่ได้ ผู้คนต่างรู้ว่านางมาอยู่ที่จวนจ้าวได้เช่นไร แต่ไม่คิดว่าคนที่พึ่งเจอกันคราแรก ก็อยากให้เล่าเรื่องของตนให้ฟังเช่นนี้
"ฮ่าๆ ข้าหยอกเจ้าเล่นหน่ะ"
"ท่านมาพบท่านแม่ทัพใช่หรือไม่เจ้าคะ ท่านแม่ทัพไปหมู่บ้านเซิงหยูเจ้าค่ะ เกรงว่าท่านจะมาเสียเที่ยวแล้ว"
หญิงสาวไม่เอ่ยเปล่าเดินไปที่โต๊ะเขียนตำราของตน ส่วนอี้หนิงหลงเองก็เดินไปนั่งที่โต๊ะน้ำชา พร้อมรินชาขึ้นดื่มด้วยท่าทีสบายใจ ท่าทางของบุรุษผู้นี้ ดูเหมือนว่าจะสนิทสนมกับท่านแม่ทัพไม่น้อย เพราะนางไม่ค่อยเห็นสหายของท่านแม่ทัพมากเท่าใด ที่แวะเวียนมาที่จวนก็มีแค่นับนิ้วได้
"ข้ารู้แล้วล่ะ เจ้าทำงานของเจ้าไปเถิด ข้าจะรอเขาที่นี่เงียบๆ"
"เช่นนั้นเชิญท่านตามสบาย"
เยี่ยนฝางเอ่ยจบก็ก้มหน้าทำงานที่เหลือให้เสร็จ เนื่องจากตอนนี้เขื่อนกั้นน้ำซ่อมแซมจนเสร็จแล้ว เหตุการณ์น้ำท่วงก็คลี่คลายแล้ว แต่เช่นนั้นก็ต้องอยู่ที่นี่อีกกว่าครึ่งเดือน เพราะสร้างแนวป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วงอีกในปีต่อๆไป
"เจ้ามีคนรักแล้วหรือไม่"
เยี่ยนฝางที่นั่งทำงานเงียบๆไปกว่า 1 ชั่วยาม จู่ๆเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น คราแรกนางเกือบลืมไปแล้วว่าในกระโจมแห่งนี้ยังมีผู้อื่นอยู่ด้วย
"....."
"หากตอบยากก็มิเป็นไร"
"คนรักหรือเจ้าคะ.....ข้ามิมีเจ้าค่ะ แต่ในใจข้ามีคนผู้หนึ่งอยู่ก่อนแล้ว"
"มิมีคนรักแต่มีคนผู้หนึ่งอยู่ในใจเช่นนั้นหรือ........"
"แล้วท่านล่ะเจ้าคะ คุณชายอี้มีคนรักแล้วหรือไม่"
เยี่ยนฝางเอ่ยถามทั้งที่ยังไม่ได้ละสายตาจากรายงาน มิรู้ว่าเหตุใดที่จู่ๆหญิงสาวก็ถามออกไป ก็ในเมื่อชายหนุ่มถามตนได้เหตุใดนางถึงจะถามเขากลับไม่ได้ อี้หนิงหลงยกยิ้มด้วยความพอใจ นางมิเหมือนผู้ใดจริงๆ หากเป็นสตรีอื่นแล้วเมื่อพบเขาก็คงมิมีปฏิกริยาเช่นนี้ นางนอกจากไม่เข้าหาเขาแล้วยังไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ
"ข้ามิมีคนรัก แต่ยามนี้รู้สึกว่ามีคนผู้หนึ่งที่น่าสนใจ"
"เช่นนั้นข้าขออวยพรให้ท่านสมหวัง"
เยี่ยนฝางเอ่ยอวยพรอย่างเป็นกันเอง อย่างที่ชอบทำเมื่อครั้งที่คุยกับสหาย
"เช่นนั้น เจ้าจะช่วยให้ข้าสมหวังหรือไม่"
"ข้าช่วยท่านได้หรือ"
"ช่วยข้าได้มากเลยล่ะ"
"มิมีปัญหาเจ้าค่ะ"
หญิงสาวเอ่ยตอบรับอย่างมิต้องคิดอะไร ชายผู้นี้มิได้เป็นคนไม่ดี อีกทั้งยังเป็นสหายของท่านแม่ทัพด้วย
"เช่นนั้น เจ้ากับข้าถือว่าเป็นสหายกันได้หรือไม่"
"มิเหมาะสมเจ้าค่ะ ท่านเป็นถึงสหายท่านแม่ทัพ"
"สนทนาอันใดกันอยู่หรือ"
เสียงคนผู้หนึ่งดังขึ้นแทรกทั้งคู่ที่กำลังสนทนา ตามด้วยร่างใหญ่ที่คุ้นเคย จ้าวเทียนหยางเดินเข้ามาในกระโจม และเดินไปนั่งที่โต๊ะตำราของตน คราแรกเขาต้องเดินทางไปที่หมู่บ้านเซิงหยู แต่เพียงเดินทางไปได้ไม่กี่ลี้ ฝนก็ตกหนักทำให้หากไปถึงก็ไม่สามารถทำอันใดได้อยู่ดี อีกอย่างไม่มีปัญหาน้ำท่วงแล้วหากไปวันหลังก็มิเป็นอันใดจึงได้หันกลับ อีกอย่างก่อนออกไปเขาเองลืมว่าองค์ชายสี่อยู่ที่กระโจมนี้เช่นกัน เกรงว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจึงได้รีบกลับมา
"มิมีอันใด เพียงแค่.....ข้าอยากเป็นสหายกับแม่นางเยี่ยนฝางก็เท่านั้น"
อี้หนิงหลงเอ่ยตอบแทนหญิงสาวไปตามตรง ขณะที่สายตามองไปทางหญิงสาวพร้อมรอยยิ้ม จ้าวเทียนหยางมองหญิงสาวที่ไม่ได้เอ่ยอันใดก็มีความรู้สึกหนึ่งในใจเกิดขึ้น
"องค์ชายสี่เอ่ยกับเจ้าอยู่"
จ้าวเทียนหยางเอ่ยกับหญิงสาวที่ยืนก้มหน้า แต่เมื่อได้ยินคำว่าองค์ชายสี่ ดวงตางามก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
"องค์ชายสี่"
เยี่ยนฝางอุทานออกมาเสียงดัง อี้หนิงหลงพยักหน้าเป็นการยืนยันคำตอบของจ้าวเทียนหยาง
