บทที่ 14 ภายใต้อ้อมกอดองค์ชายรอง
“ลู่ฟาง เช่นนั้นเจ้าจะเลือกผู้ใด” เจี้ยนลู่ฟางค่อย ๆ เลื่อนสายตาตรงมายังเบื้องล่าง พบหนิงเอ๋อสบตาเขาอยู่ จึงตัดสินใจใช้พลังแห่งเทพดึงร่างของนางขึ้นไป ท่ามกลางสายตาของเหล่าเทพทั้งหลายที่พากันเบิกตากว้าง มองร่างเล็กลอยละลิ่วตรงไปยังอ้อมกอดของชายสูงศักดิ์ พร้อมเขาอ้าแขนรอรับนางด้วยความอ่อนโยน
“เช่นนั้น เสด็จพ่อได้โปรด ประทานเซียนน้อยผู้นี้ ขึ้นเป็นชายาแก่ข้า นับจากนี้ไปทุกอย่างจะได้จบสิ้น ในเมื่อฟางเหนียงไม่ต้องการขึ้นเป็นชายาของข้าแล้ว ข้าขอให้เป็นไปตามประสงค์ของนาง” ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ถึงความเจ็บปวด ที่เคล้าคลอในใจเขา คล้ายกับคนที่จมดิ่งลงใต้มหาสมุทร ไม่อาจแหวกว่ายสู่ด้านบน องค์ชายรองตรัสพร้อมสบตาฟางเหนียงเป็นครั้งสุดท้าย แล้วเบี่ยงหน้าออก
ร่างของหนิงเอ๋ออยู่ภายใต้อ้อมกอดขององค์ชายรองผู้สูงศักดิ์ นางทำได้เพียงมองตรงไปยังอิงอิง ที่ยืนตะลึงอยู่ไม่ต่างกัน
“หากเป็นเช่นนั้น ข้าขอให้เสด็จพ่อจัดงานอภิเษก แต่งตั้งเซียนน้อยผู้นี้ เป็นชายาแก่ข้าตามธรรมเนียม ทุกอย่างจะได้จบสิ้น” องค์หญิงฟางเหนียงแทบประคองตัวไม่อยู่ นางส่ายศีรษะไปมาช้า ๆ เมื่อเห็นองค์ชายรองตัดสินใจเช่นนั้น
“ฟางเหนียง ข้าถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าแน่ใจใช่ฤาไม่ ว่าจะปฏิเสธการขึ้นเป็นชายาของลู่ฟาง และเต็มใจที่จะอยู่รับใช้องค์รัชทายาทต่อไป” แม้ฟางเหนียงจะมุ่งมั่นเพื่อขึ้นเป็นชายาองค์รัชทายาทเพียงใด ทว่าความดีงามขององค์ชายรองกลับกลาย ว่าทำให้นางแสดงความสับสนออกมา พร้อมมือบางกำเบียดกันแน่น ดวงตาหวานสัดส่ายไปมาอย่างใช้ความคิด ก่อนหลับตาลงแล้วจำใจปล่อยมือองค์ชายรองไปในที่สุด
“ข้าฟางเหนียง ขอปฏิเสธการอภิเษกกับองค์ชายรองเพคะ” หนิงเอ๋อเงยหน้ามองพระพักตร์ขององค์ชายรองในทันที
“แม้เขาจะไม่แสดงความรู้สึกมากนัก แต่ข้าเชื่อว่าเขากำลังเจ็บปวดอย่างถึงที่สุด เพราะทุกครั้งสายตาขององค์ชายรองมองเพียงองค์หญิงฟางเหนียงเพียงผู้เดียวเท่านั้น การที่นางปฏิเสธเช่นนี้เขาต้องเจ็บปวดมากมายเพียงใดกัน” ความคิดของหนิงเอ๋อยังไม่ทันจางหาย สุรเสียงของราชาสวรรค์จึงเอ่ยเรียกนางเข้าไปหาในทันที
“เซียนน้อยผู้นั้น จงเดินเข้ามาหาข้า” องค์ชายรองค่อย ๆ ปล่อยร่างเล็กออกจากกาย พร้อมสองเท้าของหนิงเอ๋อ เดินออกมาตามคำบัญชา ขณะนี้เซียนน้อยหนิงเอ๋อกำลังยืนเคียงคู่กับองค์หญิงฟางเหนียง พลันน้อมกายลงอย่างอ่อนน้อม
“นับจากนี้ไป เจ้าคือว่าที่ชายาขององค์ชายรองลู่ฟาง” เซียนน้อยหนิงเอ๋อรีบยกมือขึ้นปัดไปมา พยายามปฏิเสธด้วยท่าทางเงอะงะ ก่อนที่องค์หญิงฟางเหนียงจะจับมือของนางลงช้า ๆ ด้วยสายตาอ่อนโยน
“ขอพระราชทานอภัยเพคะ เซียนน้อยผู้นี้เพิ่งขึ้นมารับใช้ข้าได้ไม่นาน นางยังไม่รู้ธรรมเนียมสวรรค์มากนัก กิริยาเมื่อครู่ข้ายังไม่ทันได้อบรมนาง ขอราชาสวรรค์โปรดอภัย” หนิงเอ๋อได้ยินดังนั้น จึงเลื่อนสายตามายังหญิงสาวสูงศักดิ์ แล้วรีบสำรวมกิริยาทันที
“ทูลราชาสวรรค์” น้ำเสียงอ่อนหวานของหนิงเอ๋อเอ่ยขึ้นอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
“หนิงเอ๋อเป็นเซียนน้อย เพิ่งขึ้นมายังแดนสวรรค์ การอภิเษกถือเป็นเรื่องใหญ่ ข้าน้อยต่ำต้อยเกินกว่าจะเป็นชายาขององค์ชายรองได้เพคะ”
“เจ้าพูดเช่นนี้ หมายความว่าต้องการปฏิเสธองค์ชายรองเช่นข้า อีกคนงั้นฤา” สุรเสียงราบเรียบเอ่ยขึ้น พร้อมกับหนิงเอ๋อหันมองสายพระเนตรขององค์ชายรอง พลันรีบก้มหน้าลงแล้วเม้มปากแน่นด้วยความเกรงกลัว ก่อนราชาสวรรค์จะเอ่ยบางอย่างขึ้นมา
“เจ้าเป็นเพียงเซียนน้อยที่เพิ่งขึ้นมาทำหน้าที่ คงยังไม่รู้ว่าฐานะเช่นเจ้า ไม่อาจปฏิเสธความต้องการขององค์ชายรองได้” หนิงเอ๋อก้มหน้าลง ก่อนราชาสวรรค์จะเมตตาอธิบายบางอย่างให้นางเข้าใจ
“ไม่เพียงแต่เจ้า แต่ไม่ว่าผู้ใดบนแดนสวรรค์ ก็ไม่อาจปฏิเสธองค์ชายรองได้เช่นกัน การที่องค์หญิงฟางเหนียงปฏิเสธองค์ชายรองนั้น หากลู่ฟางไม่ยินยอมก็มิสามารถทำได้ เจ้าเข้าใจฤาไม่”
“เข้าใจเพคะ” หนิงเอ๋อจำใจรับคำ
“ทูลฝ่าบาท หนิงเอ๋อยังต้องได้รับการอบรมอีกมาก ได้โปรดอย่าถือสาคำพูดของนางเลยเพคะ นับจากนี้ ข้าจะเป็นผู้อบรมสั่งสอนนางให้รู้ธรรมเนียมบนสวรรค์ และเมื่อถึงเวลาแต่งตั้งนางเป็นพระชายาขององค์ชายรอง ข้ารับรองว่านางจะเข้าใจธรรมเนียมแดนสวรรค์มากขึ้นเพคะ”
“เช่นนั้นข้าฝากเจ้าด้วย” ราชาสวรรค์กล่าวพร้อมรอยยิ้มเมตตา ก่อนสายตาสุดท้ายของฟางเหนียงจะเลื่อนมององค์ชายรองเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความรู้สึกผิด
หลังจากการชุมนุมต้อนรับองค์รัชทายาทสิ้นสุดลง หนิงเอ๋อได้เห็นความยิ่งใหญ่ของเหล่าเทพทั้งหลาย จับพลัดจับผลูถูกเชิญไปยืนหน้าพระพักตร์ของราชาสวรรค์ที่เปี่ยมด้วยเมตตา หนิงเอ๋อเดินทิ้งตัวอย่างเหม่อลอย ภายในใจทบทวนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ก่อนจะนึกบางอย่างได้จึงยกมือหยิกแขนตัวเองหนึ่งครั้ง
“ข้ายังมีความรู้สึก นั่นหมายความว่าข้าไม่ได้ฝันไป” หญิงสาวงึมงำกับตัวเอง ขณะที่อิงอิงเดินเคียงข้าง สังเกตกิริยาของศิษย์น้อง พร้อมความคิดมากมายหลั่งไหลเข้ามา
