บทที่ 4 ตบมาตบกลับไม่โกง
บทที่ 4
ตบมาตบกลับไม่โกง
ไม่ใช่กระสอบทรายอีกต่อไป
ว่าแต่...
คุณหนูลั่วเจียวฝางเป็นนางเอกในนิยายแน่หรือ นางเอกที่อ่อนโยนอ่อนหวาน เปี่ยมไปด้วยเมตตา จนค่อยๆ ละลายหัวใจอันแข็งกระด้างของแม่ทัพอู่ให้หลอมละลาย
คุณหนูลั่วนะหรือ?
นับตั้งแต่ที่นางรู้จักคุณหนูลั่วมาจนบัดนี้ คุณหนูลั่วเป็นสตรีที่เจ้าอารมณ์ เอาแต่ใจ และชอบใช้กำลังทุบตีนางอยู่เสมอๆ
สตรีผู้นี้นะหรือที่จะปลอบโยนแม่ทัพอู่ผู้มีปมฝังใจจากการใช้ความรุนแรงของคนในครอบครัวมาตั้งแต่วัยเยาว์ ชายผู้ไม่รู้จักความรัก มองเป็นความโง่งมอ่อนแอ
เว่ยหลิงกวางถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ความรักที่นางมีต่อแม่ทัพอู่ยังคงมากล้นหัวใจ นางไม่ได้อยากให้เขาต้องพบกับจุดจบเฉกเช่นนิยายตับพังเรื่อง ‘แม่ทัพไร้ใจ’ นางอยากให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป เพราะอย่างน้อยๆ เขาก็เป็นแม่ทัพที่ได้รับความรักและความเคารพจากผู้ใต้บังคับบัญชา การมีอยู่ของเขาทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองไม่น้อย
แต่นางก็ไม่อาจฝืนอยู่เคียงข้างเขา เพราะรู้ดีว่าจุดจบจะเป็นเช่นไรนางไม่อยากตาย นางอยากให้ลูกน้อยในครรภ์ได้มีโอกาสลืมตาขึ้นมาดูโลกที่บ้างก็งดงามบ้างก็บิดเบี้ยวใบนี้เฉกเช่นที่นางได้เห็น
สาวใช้หลิงกวางตั้งใจว่าจะกลับไปเก็บข้าวของบางส่วนที่เรือนนอนสาวใช้เสียก่อนค่อยจะหลบหนีออกไปจากจวนอย่างเงียบๆ แต่ดูเหมือนว่านางจะไม่ได้รับโอกาสนั้นเสียแล้ว เพราะเวลานี้คุณหนูลั่วเจียวฝางและสาวใช้อีกสี่คนได้ยืนดักรอนางอยู่หน้าเรือนนอนของท่านแม่ทัพ
มองปราดเดียวก็รู้ว่ากลุ่มคนตรงหน้าตั้งใจจะมาตบตีนางด้วยความสนุกสนานเช่นเคย
หลิงกวางคิดคำนวณพลางมองหาทางหนีทีไล่เสียตั้งแต่เนิ่นๆ จากจุดนี้หากวิ่งไปทางทิศตะวันตกก็จะพบกับคอกม้า หากนางขโมยม้าก็จะสามารถหนีออกจากจวนได้โดยง่าย
แม้จะรู้สึกเสียดายที่ต้องทิ้งข้าวของเครื่องใช้ และสิ่งของอันเป็นคุณค่าทางใจไว้ที่นี่ แต่ก็ต้องยอมตัดใจเพราะชีวิตของลูกน้อยในครรภ์นั้นมีค่ายิ่งกว่าของนอกกายเหล่านั้น
“โผล่หัวออกมาเสียทีนะนังชั้นต่ำ!”
ชงไฉ่สาวใช้คนสนิทของคุณหนูลั่วเจียวฝางแค่นเสียงต่ำเหยียดเย้ย มองอีกฝ่ายด้วยความเกลียดชัง เพราะสาวใช้งดงามตรงหน้าคือศัตรูหัวใจของผู้เป็นนายเหนือหัวของนาง
ลั่วเจียวฝางปรายตามองเว่ยหลิงกวางตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า ยิ่งเห็นว่าที่ลำคอของสาวใช้มีรอยจูบแดงระเรื่อก็ยิ่งขุ่นเคืองใจ
นางคือคู่หมั้น คือว่าที่ภรรยา คือว่าที่ฮูหยินแห่งจวนสกุลอู่แห่งนี้ อีกทั้งยังเป็นผู้ช่วยชีวิตแม่ทัพหยางเถาเอาไว้ แต่นางกลับไม่เคยได้อยู่ในอ้อมกอดของเขาเลยสักครั้ง
ไม่สิ...
เคยครั้งหนึ่ง นั่นเพราะนางแกล้งล้มเขาจึงต้องปราดเข้ามาประคองนางเอาไว้อย่างเสียไม่ได้ นั่นจึงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่นางได้รู้ว่าแผงอกของว่าที่สามีนั้นกว้างและแข็งแกร่งเพียงใด
ที่ผ่านมาแม่ทัพอู่สุภาพและปฏิบัติต่อนางอย่างให้เกียรติ แต่นางไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านั้น นางต้องการให้เขารักและปรารถนาในตัวนางอย่างที่บุรุษพึงสิเน่หาในตัวหญิงสาวมากกว่า
ยิ่งเมื่อเจียวฝางเอาตนเองไปเปรียบเทียบกับนังโสโครกชั้นต่ำ ก็ยิ่งเห็นชัดว่านางไม่อาจเทียบรูปร่างหน้าตาของอีกฝ่ายได้เลย แม้นางจะขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงงามแต่นังสาวใช้บัวขาวกลับงามยิ่งกว่า แม้นางจะขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงมีรูปร่างผอมบางพิมพ์นิยมแต่รูปร่างของนังสาวใช้บัวขาวกลับเย้ายวนใจชายนยิ่งกว่า โดยเฉพาะหน้าอกที่ใหญ่อวบอิ่มกระแทกตา สิ่งเดียวที่นางเหนือกว่ามันก็คือชาติตระกูลเท่านั้น
‘ข้าอยากใช้มีดกรีดหน้ามัน อยากให้มันอัปลักษณ์น่าขยะแขยง!’
ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้นใจ หากไม่มีนังหลิงกวางสักคน บางทีแม่ทัพหยางเถาอาจจะหันมาสนใจนางมากกว่านี้ก็เป็นได้
“นังสารเลวไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง! รีบคุกเข่าลงเดี๋ยวนี้”
สาวใช้ของจวนสกุลอู่ตวาดแหวเมื่อเห็นว่าเว่ยหลิงกวางเอาแต่ยืนนิ่ง ทั้งที่โดยปกติแล้วหากสาวใช้ชั้นต่ำผู้นี้เผชิญหน้ากับคุณหนูลั่ว นางจะรีบคุกเข่าลง หรือไม่ก็ก้มหน้ามองปลายเท้า แต่วันนี้มันช่างกำแหงนักจึงกล้ายืนสบตากับคุณหนูลั่วตรงๆ เช่นนี้
“อย่ามัวแต่ไปพูดดีกับมันอยู่เลย ข้าจะทำให้มันนั่งลงเองเจ้าค่ะ”
เนี่ยนเจินสาวใช้ของจวนสกุลอู่ผู้มีใบหน้าสะสวยและสาวใช้ผู้นี้เองที่พยายามจะปีนเตียงแม่ทัพอู่หลายครั้งหลายคราแต่ไม่สำเร็จ อีกทั้งยังถูกตะเพิดออกมาจากเรือนนอนดั่งสุนัขตัวหนึ่ง นางจึงสั่งสมความคั่งแค้นมาลงที่เว่ยหลิงกวาง
เนี่ยนเจินก้าวเท้ายาวๆ หมายจะตบหลิงกวางให้ล้มคว่ำลงไปกองกับพื้น เฉกเช่นที่เคยทำมาโดยตลอด
ทว่า...
ทันทีที่เนี่ยนเจินสืบเท้าก้าวเข้าไปยังไม่ทันได้เงื้อมือขึ้นกลางอากาศ หมัดหนักๆ ก็อัดเข้าที่ใบหน้าเต็มแรง
ผลัวะ!
เว่ยหลิงกวางกระแทกหมัดเข้าไปที่สันจมูกของอีกฝ่าย คล้ายได้ยินเสียง ก๊อก! ดังลั่น สันจมูกหักบู้บี้จนใบหน้าดูผิดรูป เลือดกำเดาสีแดงชาดไหลออกมาเป็นสายเปรอะเปื้อนช่วงอกจนเปียกชุ่ม เนี่ยนเจินปวดร้าวไปทั้งใบหน้าและศีรษะ โซซัดโซเซถอยหลังก่อนจะล้มคว่ำลงไปกับพื้น