ตอนที่ 5 ทบทวนความจำ
ทบทวนความจำ
พัสกรอุ้มหญิงสาวมาวางลงที่นอนนุ่มอย่างเบามือ แล้วตามมาขึ้นคร่อมร่างบางเอาไว้อีกที มือหนาลูบแก้มนวลอย่างเบามือ พร้อมกับเชยคางมองสบตาหวานซึ้ง ร่างสูงก้มลงมาจูบปากของหญิงสาวอย่างชำชอง ลิ้นหนาตวาดฉกชิม คว้านหาน้ำหวานทั่วปากอยู่นานสองนาน จนหญิงสาวเริ่มขาดอากาศหายใจ ร่างสูงจึงยอมละออกอย่างน่าเสียดาย
“พี่พัด หยุดก่อนค่ะ” ร่างบางดันอกคนตรงหน้าไว้
“ทำไมล่ะ” พัสกรเอ่ยถามเสียงกระเส่า
“คือว่า...เอ่อ” หญิงสาวอึกอัก เพราะไม่รู้ว่าจะบอกยังไง
“คืออะไร?” พัสกรเลิกคิ้วมอง อย่างรอคำตอบ
“เอ่อ...เรื่องคืนนั้นมันไม่ได้มีอะไรค่ะ”
“นุ่นว่าอะไรน่ะ!” ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นมาทันที
“เรื่องมันมีอยู่ว่า...”
สองสัปดาห์ก่อนหน้านี้
(งานแต่งปุยเมฆ&ต้นข้าว)
“ทำไม ยังไม่ไปนอนอีกมานั่งดื่มอะไรตรงนี้คนเดียว” พัสกรเอ่ยถามหญิงสาวพร้อมกับถือแก้วเครื่องดื่มแล้วมานั่งลงข้างๆกับหญิงสาว
“พี่ก็ไม่ต่างอะไรจากนุ่นนักหรอก” หญิงสาวชำเรืองมองร่างสูงที่นั่งลงข้างๆ เธอแล้วเอ่ยแซวขึ้นมา
“พี่เป็นผู้ชายน่ะ แต่ว่านุ่นเป็นผู้หญิง ดึกๆ ดื่นๆ ไม่ควรออกมานั่งดื่มคนเดียวแบบนี้ มันไม่ค่อยปลอดภัยน่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นบอก พร้อมกับมองใบหน้าของหญิงสาวที่ ตอนนี้เริ่มเปลี่ยนสี เพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
“ไม่ปลอดภัยยังไงค่ะ ถึงยังไงพี่ก็มาอยู่เป็นเพื่อนนุ่นอยู่ดีแหล่ะ พี่คงไม่ยอมปล่อยให้นุ่นอยู่คนเดียวหรอก จริงไหมค่ะ” หญิงสาวพูดออกมาพร้อมกับส่งยิ้มหวานให้แก่คนข้างๆ
“คิดยังไง ถึงออกมานั่งคนเดียว” เสียงนุ่มถามขึ้นมา
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ก็แค่อยากดื่ม ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอค่ะ?”
“เป็นอะไรไป หืม น้องสาวพี่” มือหนายกขึ้นมาลูบศรีษะทุยของหญิงเบาๆ
“เปล่าค่ะ” หญิงสาวเอ่ยตอบ พร้อมกับยกแก้วเครื่องขึ้นมา พร้อมที่กระดกทันที
“พอแล้วครับ นุ่นดื่มไปเยอะแล้ว ดึกมาแล้ว เดี๋ยวพี่ไปส่งที่ห้องน่ะ” พัสกรรีบห้าม แล้วแย่งแก้วออกมาขากมือของหญิงสาว
“ไม่เอา นุ่นขอดื่มอีกน่ะ” หญิงสาวเริ่มงอแงขึ้นมา พร้อมกับลุกขึ้น และพยายามจแย่งแก้วเครื่องดื่มของเธอคืนมา
“ถ้าอย่างนั้น เราไปดื่มต่อที่ห้องกันดีกว่าน่ะครับ ป่ะ” ชายหนุ่มพูดขึ้น พร้อมกับคว้าแขนของหญิงสาวไว้
“พี่ชายน่ารักที่สุดเลย” หญิงสาวเอ่ยชมอย่างออดอ้อน แล้วควงแขนชายหนุ่มเอาไว้ เพื่อช่วยทรงตัว
“ปล่อยพี่ก่อนครับ แล้วก็ช่วยยืนดีๆ” เสียงนุ่มเอ่ยบอก แล้วจับให้หญิงสาวทรงตัวยืนดีๆ
“อุ้มหน่อย” เสียงหวานเอ่ยขึ้นอ้อน พร้อมกับยกแขนขึ้นอ้ารอให้ชายหนุ่มอุ้มเหมือนเด็ก
“เมาแล้ว มาอ้อนพี่เป็นเด็กเลยน่ะ ตัวแสบ” พัสกรเอ่ยแซวขึ้นมา
“ใครเมา ไม่ได้เมาสักหน่อย ตกลงจะอุ้มน้องไหมค่ะ” หญิงสาวเริ่มโวยวายขึ้นมาอีก
“คร้าบบบ” ร่างสูงจำยอม ย่อตัวลงอุ้มหญิงสาวขึ้นทันที ในท่าเจ้าสาว
“น่ารักที่สุดเลย จุ๊บ” ปุยนุ่นเอาแขนคล้องคอชายหนุ่มไว้ แล้วเอ่ยชมพร้อมกับหอมแก้มชายหนุ่มไปทันที
“นุ่น ทำอะไร” พัสกรตาลุกวาวขึ้นมา เพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะทำอะไรแบบนี้
“ให้รางวัลพี่ชายยังไงค่ะ” เสียงหวานเอ่ยตอบพร้อมกับซบหน้าลงที่อกแกร่งของชายหนุ่มทันที
พัสกรอุ้มหญิงสาวเข้ามาที่ห้องพักของเธอที่ทางโรงแรมได้จัดเตรียมไว้ให้ เมื่อเข้ามาภายในห้อง ชายหนุ่มว่างหญิงสาวลงที่โชฟากลางห้อง แต่หญิงสาวไม่ยอมปล่อยแขนออกจากคอของชายหนุ่มจึงทำให้ร่างสูงทรงตัวไม่อยู่ล้มลงไปทับร่างบางของหญิงสาวไว้
“นุ่นปล่อยพี่ก่อนครับ” พัสกรเอ่ยบอกพร้อมกับแกะมือของหญิงสาวออก แล้วลุกขึ้นมานั่ง พร้้อมกับจับร่างบางขึ้นมานั่งด้วย
“อยู่เป็นเพื่อนนุ่นก่อนสิค่ะ” เสียงหวานเอ่ยบอก
“ครับ ถ้าอย่างนั้นพี่รอให้นุ่นหลับก่อนน่ะ”
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับ พร้อมกับซบหน้าลงพิงไหล่กว้างของชายหนุ่ม และหลับตาลงอย่างช้าๆ แบบเบามือที่สุด
เมื่อเห็นว่าหญิงสาวหลับไปแล้วนั้น ร่างสูงจึงอุ้มหญิงสาวมานอนที่เตียงแทน แต่แขนเรียวที่กอดคอชายหนุ่มไว้ไม่ยอมปล่อย แถมงอแงเหมือนเด็กเมื่อร่างสูงพยายามจะแกะมือออก แถมยังรัดแน่นขึ้นกว่าเดิมอีก
“นุ่น ปล่อยแขนออกก่อน พี่ขยับไม่ได้” ร่างเอ่ยบอก และเมื่อทำอะไรไม่ได้ ชายหนุ่มจึงจำใจต้องทิ้งตัวลงนอนข้างกับหญิงสาว แล้วก็เผลอหลับไปตามกัน
รุ่งเช้า
ชายหนุ่มตื่นขึ้นมากลับพบเพียงความว่างเปล่า แถมหญิงสาวข้างกาย ที่นอนด้วยกันตลอดทั้งคืน ก็ไม่ได้อยู่ที่ห้องนี้ด้วยแล้ว และก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าร่างกายของตัวเองไม่มีเสื้อผ้าติดตัวแม้แต่ชิ้นเดียว
“นุ่น!” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกชื่อหญิงสาวขึ้นมาทันที
“นุ่น...อยู่ห้องน้ำหรือเปล่า” ร่างสูงรีบลุกขึ้นจากที่นอน คว้าผ้ามาพันรอบเอวไว้ แล้ว รีบเดินหาหญิงสาวทั่วทุกบริเวร และรอบๆห้องก็พบแต่ความว่างเปล่า เพราะหญิงสาวไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว
“นี้เราทำอะไรลงไปว่ะ” พัสกรเอ่ยออกมา พร้อมกับนึกอะไรอยู่คนเดียวนานมองนา เพราะไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ครั้นเมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา และต่อสายหาหญิงสาว ก็ติดต่อไม่ได้อีกแล้ว แถมหญิงสาวยังบล็อกเขาไว้ทุกช่องทางอีก
ปัจจุบัน
“แล้วทำไมพี่ถึงตื่นมา ไม่มีเสื้อผ้าสักชิ้นเลยล่ะ แถมพี่พยายามโทรหานุ่นตลอด เพื่อที่จะถามเหตุการณ์วันนั้น พี่พร้อมจะรับผิดชอบนุ่นทุกอย่าง แต่พี่หานุ่นไม่เจอแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยถาม เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ของวันนั้น
“รับผิดชอบอะไรค่ะ ก็นุ่นบอกแล้วไงว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นแหล่ะ และที่พี่ตื่นขึ้นมาไม่มีเสื้อผ้า ก็ฝีมือนุ่นเองแหล่ะ” ปุยนุ่นเอ่ยถาม
“ฝีมือนุ่น!”
“ค่ะ” หญิงสาวตอบรับ อย่างรู้สึกอาย
“คือว่า...นุ่นก็ไม่รู้ว่านุ่นทำอะไรลงไป นุ่นละเมอแล้ว เผลอถอดเสื้อผ้าพี่ออก เเต่พอนึกได้ นุ่นตั้งใจจะใส่คืนให้พี่ แต่ว่าก็ใส่ให้ไม่ได้ เพราะพี่ตัวหนัก นุ่นอายไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี เลยตัดสินใจ หนีออกมาก่อน” หญิงสาวอธิบายออกมาอย่างรู้สึกผิด และไม่กล้ามองหน้าร่างสูง เอาแต่หลบสายตาคมคู่นั้น ที่จ้องมองแค่เธอ
“แล้วทำไม ถึงบล็อกพี่”
“ก็บอกว่านุ่นอายไงค่ะ นุ่นไม่กล้าจะสู้หน้าพี่ยังไง งั้นเดี๋ยวรุ่นปลดบล็อคให้ แต่พี่ช่วยปล่อยนุ่นก่อน แล้วลุกขึ้นจากตัวนุ่นได้แล้วค่ะ นุ่นหนัก” ปุยนุ่นพยายามจะดิ้นหนี และดันตันชายหนุ่มออก
“หึ ง่ายไปไหมนุ่น ทำให้พี่เข้าใจผิด คิดเองเออเองมาขนาดนี้แล้ว งั้นก็มาพิสูจน์ก่อนสิ ว่ามีหรือไม่มี” พัสกรเค้นหัวเราะในลำคอทันที ที่หญิงสาวบอก
“พิ พิสูจน์อะไร?”
“พิสูจน์ว่านุ่นพูดจริง หรือโกหกยังไงล่ะ" เอ่ยจบร่างสูงก้มลงมาซุกไซร้ซอกคอขาวของหญิงสาวทันที โดยที่เธอไม่ทันที่จะได้ปฏิเสธเลย