ตอนที่ 12 เข้าหอกันเถอะ
วังหมิงอ๋อง
หลินลู่หยุนเดินตามเซียวรุ่ยเข้าไปในจวนนางมองซ้ายมองขวาอย่างอยากรู้อยากเห็นภายในจวนของหมิงอ๋องนั้นมีพื้นที่กว้างขวางเป็นอย่างมาก นางเดินเข้าไปในจวนตรงด้านหน้าเป็นลานกว้างทางด้านซ้ายนั้นเป็นสวนดอกไม้มีศาลาและน้ำตกจำลองไหลลงดังจ๊อกๆให้บรรยากาศในการดื่มด่ำหากมานั่งจิบชาในยามบ่าย
ทางด้านขวามือเป็นเป็นห้องโถงใหญ่ที่ดูโล่งรับลม คาดว่าน่าจะเป็นห้องโถงรับรอง เซียวรุ่ยเดินนำหน้าหลินลู่หยุนเข้าไปด้านในผ่านสวนดอกไม้มีต้นดอกหมู่ตาน หวงหลาน ไป๋หลานมากมายด้านข้างยังมีภูเขาจำลองลูกใหญ่มีน้ำตกใสไหลผ่านเอื่อยๆบรรยากาศไม่เลวเลยทีเดียว
เซียวรุ่ยเดินนำหลินลู่หยุนไปยังตำหนักใหญ่ในจวนอ๋องหลินลู่หยุนมองดูป้ายตำหนักที่มีตัวหนังสือสีเงินเขียนเอาไว้อย่างหนักแน่นว่าตำหนักเซวียนหยวน
เมื่อเดินเข้าไปข้างในหลินลู่หยุนก็รู้สึกราวกับเดินเข้าไปในห้องแอร์ที่เย็นฉ่ำทั้งตัวรู้สึกสดชื่นจนทำให้คนง่วงนอน
"คุณหนูหลินท่านนั่งรอสักครู่ข้าน้อยจะไปเรียนท่านอ๋อง"
"ได้!" หลินลู่หยุนนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องโถงอย่างหมดสภาพด้วยท่วงท่าที่สบายสุดๆแต่ดูไม่ค่อยเรียบร้อยในสายตาของคนอื่นนัก
ไม่นานมู่หรงหมิงที่สวมใส่ชุดสีฟ้าขาวใบหน้าเรียบนิ่งก็เดินเข้ามาตามมาด้วยคนรับใช้ที่ยกน้ำชาขนมเข้ามา มู่หรงหมิงยังไม่ทันได้นั่งลง หลินลู่หยุนก็ยื่นมือมายกขนมถาดนั้นที่สาวใช้เพิ่งวางลงมาไว้หน้าตนเอง และหยิบเข้าปากคำโต
เซียวรุ่ยมุมปากกระตุก คุณหนูหลินผู้นี้ช่างไม่เห็นตนเองเป็นคนนอกเลยสักนิด
“สองวันนี้ข้านั่งบดยาสมุนไพรทั้งวันคืนช่างเหนื่อยนัก นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าทุ่มเทเพื่อผู้อื่นอย่างเต็มใจเช่นนี้”
ครั้งแรก? มู่หรงหมิงหรุบตาลงต่ำ "เช่นนั้นที่ผ่านมาเจ้าทุ่มเทให้องค์รัชทายาทล้วนถูกบังคับหรือ?"
หลินลู่หยุนที่เคี้ยวขนมเต็มปาก โบกไม้โบกมือ นางรีบกลืนขนมลงไปอย่างยากลำบากจริงเอ่ยขึ้นมา "ใช่เสียที่ไหน ตอนนั้นข้าโดนวางยาพิษสมองเลอะเลือนเหมือนหมูต่างหากเล่า ไม่ใช่เพียงแค่สมองเหมือนหมูนะ รูปร่างก็ยังเหมือนหมูอีกต่างหาก"
"เจ้าถูกวางยาพิษ?" มู่หรงหมิงขมวดคิ้วเอ่ยถาม
หลินลู่หยุนกัดขนมพลางพยักหน้า "ใช่สิ ทุกวันนี้ยานั่นยังถูกส่งมาที่เรือนของหม่อมฉันทุกวันเลย"
กล่าวจบนางยกน้ำชาขึ้นมา "เห้อ..ค่อยยังชั่ว ขนมจวนท่านอ๋องนี่ช่างอร่อยมากจริงๆ"
มู่หรงหมิงมองจานขนมสองจานที่ว่างเปล่า "เจ้าจะห่อกลับด้วยก็ได้ข้าจะสั่งให้พ่อบ้านไปสั่งคนครัวให้"
หลินลู่หยุนโบกมือ วันนี้ทานไปเยอะแล้ว เอาไว้ค่อยมาทานใหม่ในวันถัดไปเถอะเพคะ..นี่ก็ไม่เช้าแล้ว ท่านอ๋องท่านพร้อมเข้าแล้วหรือยัง?"
มู่หรงหมิงหน้าตึงเล็กน้อย แก้มแดงเรื่อขึ้นมาฉับพลันก็ไอค่อกแค่กออกมาอย่างแรง
หลินลู่หยุนรีบพุ่งขึ้นจากเก้าอี้ ยื่นมือมาช่วยตบหลังให้มู่หรงหมิงอีกมือจับชีพจรของเขา
“ท่านอ๋องเหตุใดจู่ๆชีพจรของท่านถึงดูสับสน ลมปราณปั่นป่วนได้เล่า ทำไมจู่ๆถึงได้ตื่นเต้นขึ้นมา ข้าเพียงพูดเกินไปตัวนึงแค่นั้นเอง เป็นคำว่าเข้าหอหรือว่าท่านคิดจะเข้าหอกับข้าจริงๆ?” หลินลู่หยุนเอ่ยถาม
“อย่าพูดซี้ซั้ว” มู่หรงหมิงแย้งขึ้นมา ใบหน้าของเขาเรียบตึง สตรีผู้นี้พูดแต่ละคำไม่มีคำใดจริงจังเลย ก่อนนี้ยังดูเรียบร้อยนิดหน่อยแต่วันนี้...
“เห้อ..ได้ๆได้ ข้าไม่พูดแล้วท่านนอนลงสักครู่เดี๋ยวข้าจะรักษาอาการให้ท่านสงบ” หลินลู่หยุนบอก
จากนั้นนางก็เปิดกระเป๋าสะพายยาออกหยิบเข็มเงินออกมา นางไม่ได้กล่าวสิ่งใดกับเขาอีกนางลงเข็มใส่เขาอย่างรวดเร็วและเชี่ยวชาญ
ทำเอาเซียวรุ่ยแทบกลั้นหายใจ พูดอย่างเป็นห่วงว่า “คุณหนูหลินท่านไม่ต้องดูจุดชีพจรให้ดีก่อนหน่อยหรือถึงค่อยปักเข็มลง เหตุใดท่านปักไปมั่วๆ อย่างนี้ท่านแน่ใจหรือว่านั่นจะช่วยท่านอ๋องได้?”
“ปักเข็มมั่วซั่วที่ไหนกัน ถ้าข้าปักเข็มมั่วซั่วท่านอ๋องของเจ้าตอนนี้คงนอนพะงาบไปแล้ว หาจุดชีพจรอะไรนั่นน่ะเป็นเรื่องของหมอธรรมดาเขาทำกัน
ข้านั้นไม่ต้องหรอก วางใจเถอะ ท่านอ๋องของเจ้าน่ะไม่เป็นอะไรหรอก เขาดูตื่นเต้นไปหน่อย หากไม่ระงับไว้น่ากลัวจะเป็นการกระตุ้นพิษในตัว
เหตุผลในการช่วยยืดอายุให้ท่านอ๋องของข้านั้น เจ้าก็รู้อยู่แล้ว ท่านอ๋องนั้นเป็นบุรุษที่รูปงามดุจเทพเซียนขนาดนี้ และข้าไม่อยากให้เขาเป็นอะไรไป ข้ายังหวังให้เขามีอายุยืนยาวอยู่ให้ข้ายลโฉมที่หล่อเหลานี้ไปนานๆ” หลินลู่หยุนตอบ เข็มเงินในมือกลับไม่หยุดเลย
เซียวรุ่ยสีหน้าตื่นเต้น คุณหนูหลินผู้นี้วิชาแพทย์ดีขนาดนั้นเลยหรือ ทางที่ดีนางสามารถรักษาท่านอ๋องได้ ไม่เช่นนั้นหากท่านอ๋องเป็นอะไรขึ้นมา เขาจะไม่ปล่อยนางไปแน่นอน
“เจ้าไปเตรียมน้ำเอาไว้ แล้วก็เตรียมน้ำร้อนมาด้วยเอาแบบที่ร้อนมากๆเดือดปุดๆได้ยิ่งดี ในตอนที่ข้าลงยาต้องคอยเติมน้ำร้อนรักษาอุณหภูมิของน้ำเอาไว้จะทำให้การรักษาได้ผลดี” หลินลู่หยุนสั่งการ
เซียวรุ่ยหันไปหาพ่อบ้านพ่อบ้านรีบออกไปจัดการ มู่หรงหมิงตวัดสายตาขึ้นมองหลินลู่หยุนที่ใกล้แค่ปลายเอื้อม สีหน้าของนางดูเข้มงวดและจริงจังยิ่งนัก ฝีมือลงเข็มชำนาญและแม่นยำ การลงเข็มนั้นรวดเร็วในจุดชีพจรใหญ่ของร่างกายตน เร็วจนเขามองไม่ชัด แต่กลับรู้สึกดีขึ้นมาก
มันทำให้มู่หรงหมิงยิ่งแปลกใจ โดยเฉพาะวิธีลงเข็ม ถ้าไม่มีเวลาหลายสิบปีดูท่าจะฝึกไม่ได้ถึงขั้นนี้ ต่อให้เป็นหมอเทวดาก็ไม่เคยลงเข็มเช่นนี้ นางยังมีความลับอีกมากแค่ไหนที่ตนไม่รู้กันนะ
สตรีนางนี้เหมือนเป็นเขาวงกต ยิ่งอยู่ด้วยยิ่งค้นพบเรื่องน่าสนใจ นางใจกล้า ละเอียด พูดจาตรงไปตรงมาน่าสนใจยิ่งนัก
"ก่อนนี้เจ้าบอกว่าเจ้าโดนพิษ เจ้ารู้ได้อย่างไร?"
หลินลู่หยุนไม่ได้มองเขา นางพูดด้วยใบหน้าที่ เหมือนกับคุยเรื่องทานข้าวเย็นกับอะไร " ก่อนนี้เมื่อสามปีก่อนจู่ๆเหยาซื่อก็มาทำดีกับหม่อมฉัน นางให้หม่อมฉันเลือกเรือนได้ตามใจ แก้วแหวนเงินทองนางมอบให้ตามฐานะบุตรสาวสายตรง
ผ่านไปสองวันนางให้คนส่งของบำรุงมาให้มากมาย เสื้อผ้า จากนั้นทุกเช้านางจะให้สาวใช้ของนางส่งอาหารและแกงบำรุงมาให้ทุกวัน
ผ่านไปสามสี่เดือนหม่อมฉันก็เริ่มเลอะเลือนแล้วจนเมื่อสามเดือนก่อนองค์รัชทายาทกับหลินเจียเสวี่ยมากลั่นแกล้งสลบไปสามวัน ภายในสามวันนี้คือน้ำแกงนั้นไม่ได้ดื่มเลย พอฟื้นขึ้นมาก็เหมือนมีสติขึ้นนิดหน่อยจึงได้ครุ่นคิดอะไรๆ
เลยเลิกดื่มน้ำแกงแล้วออกกำลังกายศึกษาตำราแพทย์ของท่านแม่ในหีบลับหาวิธีถอนพิษให้ตนเอง ส่วนเรื่องอื่นเป็นความลับเพคะ"
หญิงสาวผู้นี้มีไหวพริบ ฉลาดหลักแหลมยังรู้จักปกป้องตนเองอีก รู้ดีว่าควรทำเช่นไร สตรีธรรมดาเทียบเคียงนางไม่ได้เลย
ไม่นาน พ่อบ้านให้คนยกถังน้ำร้อนเข้าไปในห้องที่ได้จัดเตรียมเอาไว้จากนั้นเขาเข้ามารายงาน
หลินลู่หยุนถึงได้เก็บเข็มเงินขึ้นมาแล้วเอ่ยถาม “ท่านอ๋อง ท่านรู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง?”
มู่หรงหมิงสูดลมหายใจเข้าลึก “ดีขึ้นมากแล้วล่ะ”
"ท่านอ๋องในขั้นตอนถัดไปข้าจะลงยาในถังน้ำเพื่อให้ท่านแช่ตัว ตอนนั้นท่านพ่อบ้านท่านต้องคอยเติมน้ำร้อนอยู่เรื่อยๆไม่ให้น้ำในถังเย็น
อ้อในตอนที่ท่านแช่ตัวหม่อมฉันต้องอยู่เป็นเพื่อนแช่ตัวกับท่าน” หลินลู่หยุนวางเข็มเงินลงในกระเป๋ายาและหิ้วไปสีหน้าของมู่หรงหมิงแดงเรื่ออย่างกระอักกระอ่วน “ข้าแช่คนเดียวก็ได้”
"ท่านอ๋องจะเขินอายไปไย หม่อมฉันเป็นสตรีไม่เห็นเขินอายเลย แล้วท่านจะเขินอายไปทำไม?" กล่าวจบหลินลู่หยุนหัวเราะคิกคิก
"ไม่แกล้งท่านแล้วๆ ท่านอ๋องหม่อมฉันจะให้ท่านแช่ตัวคนเดียวได้อย่างไรกัน ในตอนที่ท่านแช่ตัวในถังยาน่ะ หม่อมฉันเองต้องคอยดูอุณหภูมิน้ำและเพิ่มยาอยู่ข้างๆ บางคราก็ยังต้องสลับกับการลงเข็ม แบบนี้ถึงจะช่วยท่านควบคุมพิษในตัวได้” หลินลู่หยุนอธิบาย
มู่หรงหมิง พ่อบ้านและเซียวรุ่ยต่างก็อึ้งตะลึง มีแววกระอักกระอ่วน มู่หรงหมิงขมวดคิ้วแล้วกล่าวขึ้นเบาๆ “เช่นนี้ ถ้าอย่างนั้น งั้นรบกวนคุณหนูหลินด้วย”
“ไม่เป็นไรเพคะ ในเมื่อหม่อมรับปากว่าจะช่วยท่านบำรุงร่างกาย ย่อมไม่คืนคำอยู่แล้ว เพียงแต่พิษในร่างกายท่านแรงนัก ดังนั้นขั้นตอนจึงค่อนข้างยุ่งยากมากแต่ท่านอ๋องวางใจได้อย่างน้อยท่านต้องอยู่ได้เกินสามปีแน่นอน” หลินลู่หยุนอธิบาย
“ลำบากแล้ว” มู่หรงหมิงเดินตรงออกไป หลินลู่หยุนตามหลังเขา เห็นหูแดงเรื่อของเขานางก็หัวเราะออกมา
.....