แม่งาม
“งามเป็นหนึ่ง เกรงว่าคืนนี้ พี่จะห่างคุณหญิงไม่ได้แล้วไม่อย่างนั้นหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่คงจะต้องเข้ามาตีสนิท”
“ใครก็รู้ว่าน้องเป็นเมียคุณพี่แล้ว”
“สมัยนี้ไม่ใช่แต่ก่อนมาที่พวกผู้ชายจะเกรงกันว่ามีผัวแล้วเรารับวัฒนธรรมตะวันตกมา มองว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาพี่ก็แค่หวังว่า คุณหญิงจะไม่ทำแบบคนอื่นเขา”โอบร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน
“จิกเอ็งไปร่ำเรียนวิชาการแต่งหน้าทำผมมาจากที่ใดกัน ข้าและแปลกใจริงๆ เอ็งทำอะไรก็ดูดีไปเสียหมด แบบนี้เอ็งเอ๊ยเหนื่อยตาย”
“ทำไมต้องเหนื่อย”
“ก็คุณหญิงเล็กแกมีเพื่อนที่ ชอบเข้าสมาคมอีกเป็นกุรุสแต่งหน้าแต่งตัวออกหาผัวรวยๆ ตามแบบอย่างที่สตรีควรทำยิ่งสวยเท่าไหร่ยิ่งดี เอ็งทำให้คุณหญิงเล็กสวยสะดุดตาแบบนี้ รับรองเอ็งต้องถูกใช้ให้แต่งหน้าคนคนนู้นทีคนนี้ที”มุจรินทร์ยิ้มแห้งๆ
“ฉันดัดผมไม่เป็น”หอมตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน
“หรือว่าเอ็งตายแล้วฟื้นหรือว่าวิญญาณคนอื่นเข้าสิงเอ็งว๊ะจิก หรือๆๆๆ ว่าพี่สาวฝาแฝดเอ็งนางเจิมที่เพิ่งตายไปจะมาเข้าสิงเอ็งกันแน่วะ”
มุจรินทร์ขมวดคิ้วยังมี แฝดได้อีก
“เอ้อ ๆๆ ใกล้มืดแล้วเขาไม่ให้พูดถึงผีสางฉันไปก่อนล่ะเอ็งก็ไป๔หยิบหนังสือเตรียมไปอ่านให้คุณหญิงท่าน คุณหลวงแกคงบอกคุณหญิงเล็กแล้วล่ะว่าเอ็งจะต้องอ่านนิยายให้คุณหญิงท่านก่อนนอน คุณหญิงเล็กคงไม่เอาเอ็งไปด้วยแล้วล่ะ ฉันจะรีบไปช่วยป้าผิวทำกับข้าวก่อนเดี๋ยวไม่ทันเวลาอาหารค่ำ”
อยู่ๆ หอมก็ตัดบทแล้วรีบเดินหายไปทางเรือนคนใช้ มุจรินทร์ถอนหายใจรีบไปจังยังไม่ทันได้ถามว่าห้องของคุณหลวงนั่นไปทางไหน ช่างเถอะไปถาม คนอื่นก็ได้เจอใครก็ถามคนนั้น
หันหลังเดินกลับไปยังเรือนหลังใหญ่ที่บัดนี้บรรยากาศรอบตัวเริ่มสลัว
แต่สะดุดตากับดอกกุหลาบมอญสีม่วงอมชมพูที่เรียงร้อยกันเป็นเถายาวเหมือนใครจับมาพันเกลียว กลิ่นหอมขจรขจายเขย่งเท้าขึ้นตั้งใจจะดอมดมกลิ่นหอมของดอกกุหลาบให้ชื่นใจ ไม่เสียเวลาหรอกแค่แป๊บเดียวเอง นึกเข้าข้างตัวเอง
“เกิดมาเตี้ยทำใจเหอะ เฮ้อย่อตัวลงเอื้อมมือคว้าดอกที่ใกล้ที่สุด
“อุ๊ย”
หนามแหลมทิ่มเข้าไปที่ปลายนิ้วนาง ใครบางคนที่มาทางด้านหลังคว้ามือเล็กที่กำลังจะบีบเอาเลือดออกมากุมไว้แล้วค่อยๆ หยิบผ้าเช็ดหน้าหอมกรุ่นจากกางเกงขายาวสีขาวสะอาดตา รีดเรียบแปล้มาพันที่นิ้วมือให้
“เจ็บไหม”
มุจรินทร์เงยหน้าขึ้นมองคนที่สูงกว่ามุจรินทร์เกือบยี่สิบเซนติเมตรคนนั้น
คนอะไรหล่อเป็นบ้า ใบหน้าคมทว่าสะอาดสะอ้านดวงตากลมโตคิ้วดกเข้มแต่ก็หวานราวกับผู้หญิงสาว ริมฝีปากหยักได้รูปผมดำขลับหยักศกตามสมัยนั้นนิยม แล้วยังหุ่นที่มาดแมน กล้ามเป็นมัดที่ดันเสื้อออกมาออกมานั่นอีก
“นายเป็นใคร”
“หืมมมม ไปเรียนเมืองนอกเมืองนาเสียนานจนคนในบ้านจำกันไม่ได้ ฉันธราดลอย่างไรเล่าทำไมถึงจำกันไม่ได้ เอาเป็นว่าฉันจำเธอได้เธอคือเจิม เด็กรับใช้ที่คุณแม่เอามาเลี้ยงตั้งแต่เด็กๆ ใช่ไหม”
ลมเย็นพัดวูบปะทะใบหน้าของมุจรินทร์อย่างจัง
“ไม่นะฉันไม่รู้จักคนชื่อนั้น ฉันชื่อมุจรินทร์”
มุจินทร์เพิ่งจะได้ตระหนักในตอนนี้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในโลกของตัวเองแล้วหากแต่ที่นี่คืออีกโลกหนึ่งที่ต่างออกไป จะบอกว่ารู้จักหรือไม่รู้จักคนหนึ่งคนใดคงไม่ได้
คิ้วคมเลิกสูงขึ้นเล็กน้อย ยิ่งน่ามองยิ่งนัก คนอะไรทำอะไรก็ดูดีไปเสียหมด
“ไม่ใช่ดอกหรือ ฉันก็คิดว่าเธอคือมณฑาฉันจำใบหน้าหล่อนได้รางเลือน ขอโทษบางทีฉันอาจจะเข้าใจผิดว่าแต่เธอเป็นใครเล่าถึงมาอยู่ที่นี่ได้ เราเคยพบกันหรือไม่”มุจรินทร์ส่ายหน้า
“ฉัน ไม่สิดิฉันเพิ่งมาอยู่ที่นี่ตอนที่….ตอนที่คุณหญิงเล็กภรรยาคุณหลวงท่านแต่งงานกัน ติดสอยห้อยตามมารับใช้คุณหญิงเมื่อตอนแต่งเข้าบ้านหลังนี้”พูดหลังจากที่ได้ยินป้าผิวพูดไม่กล้าพูดมากไปกว่านั้นก็ผิดพลาด ธราดลพยักหน้าขึ้นลง
“แต่เธอมีใบหน้าละม้ายเจิมมากทีเดียว ครานั้นที่ฉันต้องจากเมืองไทยไปเรียนต่อที่อังกฤษเมื่อห้าปีก่อน เจิมตอนนี้เพิ่งจะสิบสี่ร้องไห้จนน่าสงสารบอกว่าถ้าฉันไม่อยู่เจิมจะต้องถูกคุณแม่เข้มงวดกว่านี้”