บทที่ 14 การเชิญชวนของคณบดีสาวสวย
เจียงเฉิงเข้าใจในทันที ที่แท้ก่อนหน้านี้เจียงเฉิงแยกกันนอนกับสวี่ฉิง เจียงเฉิงจึงทำได้แค่นอนบนพื้น
เช้าวันรุ่งขึ้น สวี่ฉิงทานอาหารเช้าและไปทำงานที่โรงพยาบาลกับเจียงเฉิง
“หืม นี่มันไอ้เจียงไร้ประโยชน์ของโรงพยาบาลเราไม่ใช่หรอ?ทำไมถึงพึ่งออกจากโรงพยาบาลก็มาทำงานเลยล่ะ รักในงานเกาะผู้หญิงกินมากสินะ?”
เจียงเฉิงพึ่งเปลี่ยนชุดคลุมสีขาว เมื่อได้ยินคำพูดเสียดแทงลอดเข้ามาในหูของตัวเอง
เจียงเฉิงก็หันกลับไป แล้วมองไปที่ฉินหลานหัวหน้าพยาบาลร่างท้วมกำลังมองมาที่เขาอย่างเย้ยหยัน
เจียงเฉิงรู้จักฉินหลานคนนี้ เพราะครอบครัวของตัวเองไม่อบอุ่น จึงมักจะมาพร้อมกับอารมณ์ที่ทำงานด้วย การระบายที่ดีที่สุดของเธอก็คือ เจียงเฉิงก่อนหน้านี้
เห็นฉินหลานมีท่าทีเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าชีวิตในครอบครัวไม่อบอุ่น จึงระบายใส่ตนแบบนี้
เจียงเฉิงมองไปที่ฉินหลานด้วยสายตาเรียบเฉย พลางกล่าวว่า“หัวหน้าพยาบาลฉินครับ ดูท่าคุณแล้ว สามีคงจะออกไปสร้างปัญหาข้างนอกใช่ไหม?”
ฉินหลานได้ยินคำพูดตรงไปตรงมาของเจียงเฉิงก็ถึงกับตกตะลึง เมื่อก่อนเธอเอาแต่หาเรื่องระบายกับเจียงเฉิง ถึงอย่างไรเสียเจียงเฉิงก็ทำได้แค่ยิ้มส่งให้เธอ คิดไม่ถึงว่าวันนี้เจียงเฉิงจะตอบโต้ตัวเองแบบนี้
ทันใดนั้นแก้มอ้วนๆของฉินหลานก็แดงก่ำทันที เธอเกลียดที่คนอื่นเอาเรื่องในครอบครัวของเธอมาพูด เธอจึงถลึงตาและตะคอกเสียงดังว่า“เจียงเฉิง วันนี้สมองของนายเสียไปแล้วใช่ไหม?นายมันก็แค่สวะแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง มีสิทธิ์อะไรมาพูดถึงเรื่องในครอบครัวของฉันห้ะ?”
เมื่อวานฉินหลานลา ดังนั้นจึงไม่รู้ว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้นกับเจียงเฉิงที่โรงพยาบาล คิดว่าเจียงเฉิงยังเป็นเจียงเฉิงคนเดียวกันกับเมื่อก่อน จึงเยาะเย้ยเขาอย่างเกรงกลัว
เจียงเฉิงไม่อยากสนใจเธอ จึงเมินใส่เธอทันที เตรียมจะเข้าไปมาคณบดีเสิ่นที่ห้องทำงาน เนื่องจากหัวหน้าแผนกเฉินไปหาเขาด้วยตัวเอง ถ้าไม่ไปก็คงจะไม่ดี
แต่ฉินหลานกลับขวางทางของเจียงเฉิง แล้วกล่าวว่า“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!วันนี้ถ้านายไม่อธิบายให้รู้เรื่อง อย่าคิดจะออกไปเลย”
เจียงเฉิงพูดอย่างหน่ายใจ“คณบดีเสิ่นจะพบผม ถ้าผมไม่ไป คณบดีจะโกรธเอานะครับ คุณรับผิดชอบไหวหรอ?”
เมื่อฉินหลานได้ยินคำพูดของเจียงเฉิง ก็เหมือนกับได้ยินเรื่องตลก จึงหัวเราะไปด้วยพูดไปด้วยว่า“ฉันว่าวันนี้สมองของนายคงไม่ปกติจริงๆด้วย คณบดีเสิ่นเป็นใคร?เธอจะขอพบกับบุรุษพยาบาลอย่างนายเนี่ยนะ?นายไม่ตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองหน่อยล่ะ!”
ในเวลาปกติเจียงเฉิงก็เหมือนกับคนไร้ตัวตนในโรงพยาบาล ไม่มีใครให้ความสำคัญ คณบดีของโรงพยาบาลเมืองหลูหยางที่หนึ่ง จะขอพบกับคนแบบนี้เนี่ยนะ ฉินหลานคิดว่าเจียงเฉิงต้องฆ่าตัวตายจนสมองเสียไปแล้วแน่ๆ
เจียงเฉิงถูกมนุษย์ป้าอย่างฉินหลานเกาะแกะ จึงรู้สึกไม่พอใจ เขาจึงกลับไปนั่งประจำที่
ฉินหลานกำลังจะเยาะเย้ยถากถาง แต่ทันใดนั้นหัวหน้าแผนกเฉินก็เดินเข้ามา
“หัวหน้าแผนกเฉินคะ ทำไมคุณถึงมีเวลามาที่แผนกพยาบาลของเราล่ะคะ คิดถึงฉันใช่ไหมล่ะ”เมื่อฉินหลานเห็นหัวหน้าแผนกเฉิน จึงรีบเข้าไปพูดประจบประแจงทันที
ถ้าเป็นสาวสวยล่ะก็ นั่นคือการแซวจีบ แต่สำหรับยัยผู้หญิงขี้เหร่อย่างฉินหลานล่ะก็ หัวหน้าแผนกเฉินมีแต่จะรู้สึกกระอักกระอ่วน
หัวหน้าแผนกเฉินไม่ได้สนใจฉินหลาน เมื่อเห็นเจียงเฉิง เขาจึงรีบเข้าไปพูดอย่างยิ้มๆว่า“โอ้ยนี่ น้องเจียงเฉิง คณบดีเสิ่นรออยู่ที่ห้องทำงานแล้วนะ ทำไมยังมีกะจิตกะใจนั่งอยู่ตรงนี้อยู่ล่ะ”
เจียงเฉิงเหลือบมองหัวหน้าแผนกเฉินแวบหนึ่ง ไอ้หมอนี่เหมือนกับหนอนตามดมตดยังไงอย่างงั้น ติดตามเขาไปที่บ้าน วันนี้ยังมาตามเขาที่แผนกพยาบาลอีก
“ผมก็อยากไป แต่หัวหน้าพยาบาลฉินไม่ให้ผมไป”เจียงเฉิงพูดอย่างเรียบเฉย
หัวหน้าแผนกเฉินได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป ให้ตายสิ เขาจะทำงานที่โรงพยาบาลต่อไปได้หรือไม่ อยู่ในกำมือของเจียงเฉิงแล้ว ทำไมยัยพยาบาลสมองพิการถึงขวางเขาไว้ นี่มันคือการตัดทางทำมาหากินของตนเองไม่ใช่หรอ?
“ฉินหลาน หัวหน้าพยาบาลอย่างคุณทำงานกดดันมากใช่ไหม ถึงได้สมองเลอะเลือนแบบนี้?เจียงเฉิงเป็นแพทย์ประจำบ้านที่คณบดีเสิ่นเลื่อนขั้นให้ด้วยตัวเอง หัวหน้าพยาบาลอย่างคุณเป็นใคร ถึงกล้าขวางเขาไหวน่ะห้ะ?”หัวหน้าแผนกเฉินเอามือไขว้หลัง แล้วมองฉินหลานด้วยสายตาเย็นชา
เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้าแผนกเฉิน ฉินหลานก็ตกใจจนหน้าถอดสี ที่แท้ที่เจียงเฉิงพูดก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริง คณบดีเสิ่นขอพบเขาจริงๆ อีกทั้งยังให้เขาเป็นแพทย์ประจำบ้านอีกด้วย
ตนขวางคนที่คณบดีเสิ่นขอพบ นี่มันก็เท่ากับการนอนบนส้วมน่ะสิ ที่ที่ไม่ไกลจากอุจจาระ?
“หัวหน้าแผนกเฉิน ขอโทษนะคะ ขอโทษค่ะ ฉันไม่รู้จริงๆ ฉะ……”ฉินหลานพูดได้แค่ครึ่งเดียว ก็รีบพูดกับเจียงเฉิงว่า“น้องเจียงเฉิง ดูสิฉันโมโหไอ้ผัวเฮงซวยของฉันน่ะ ฉันสมควรตาย ฉันปากพล่อยเอง ขอโทษด้วยนะ”
ฉินหลานกลัวว่าเจียงเฉิงจะพูดใส่ไฟตนเองต่อหน้าคณบดี ถ้าพูดออกไปจริงๆ เธอก็จะต้องทิ้งตำแหน่งหัวหน้าพยาบาลที่เธอกว่าจะได้มาแน่ๆ
เจียงเฉิงไม่อยากใส่คนอย่างนี้ จึงเดินอ้อมฉินหลานออกไป หัวหน้าแผนกเฉินถลึงตาใส่ฉินหลานอย่างดุดัน
เมื่อเห็นเจียงเฉิงเดินจากไป ฉินหลานก็เสียใจมาก เธอไม่รู้ว่า ระหว่างที่เธอลาไปหนึ่งวัน ตกลงในโรงพยาบาลเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
หัวหน้าแผนกเฉินพาเจียงเฉิงมาที่ห้องทำงานของคณบดีเสิ่น แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม“น้องเจียงเฉิง นายจะต้องช่วยฉันพูดด้วยนะ”
เจียงเฉิงตอบรับอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเดินเข้าห้องทำงานของคณบดีเสิ่นไป