บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 พระชายาท่านอ๋อง

“ข้ายังไม่รู้แน่ชัด เจ้ารีบให้คนของเราไปสืบดู ได้เรื่องแล้วรีบมารายงานข้า”

“เอ่อ…แล้วเรื่องอีกสามเดือนจากนี้…”

“รอสืบเรื่องนี้ให้กระจ่างก่อนแล้วค่อยคิดกันต่อ ไปได้แล้ว”

“แล้วพระองค์..”

“ในตัวข้ายังหลงเหลือพิษอยู่ ข้าจะไปใช้ปราณขับออก ห้ามผู้ใดรบกวน”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“อ้อ จางจื่อ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

“ไปบอกแม่นมว่า…หาสาวใช้มาคอยรับใช้นางด้วย”

“พ่ะย่ะค่ะท่านอ๋อง”

ลั่วหมิงจ้านเดินกลับไปยังห้องบรรทมของตนเองทิ้งให้องครักษ์หนุ่มยืนยิ้มอย่างนึกพอใจ ในที่สุดภูเขาน้ำแข็งเช่นลั่วอ๋องก็เริ่มละลายแล้วสินะ

ก่อนหน้านี้แม้ว่าจะเคยรับสนมเข้ามาหลายคน แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่เขาจะสั่งให้คนเอาใจใส่ดั่งที่ทำกับพระชายา

วันถัดมา

ชิงเยี่ยนขยับตัวด้วยความเมื่อยล้าเต็มที เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาและพบว่าชุดที่สวมอยู่ไม่ใช่ชุดเจ้าสาว

“นี่มัน!!….หรือว่า…”

นางเริ่มลูบๆคลำๆตามตัวพร้อมกับรู้สึกว่ามิได้เจ็บปวดตรงที่ใด มีเพียงรอยจูบสองสามรอยที่เกิดขึ้นแต่รู้ทันทีว่าเมื่อคืนนี้ไม่ได้มีสิ่งใดเกิดขึ้น แล้ว…

“ท่านอ๋องโลหิตนั่น….หน้าตาเป็นเช่นไรแล้วนะ”

นางจำหน้าตาเขาไม่ได้เพราะเพียงเห็นแค่แวบเดียวและรู้สึกว่าจะทำเครื่องประดับติดกับเข็มกลัดที่อกของเขาจนเสียเวลาดึงออกเสียนาน และ………..

ความทรงจำเมื่อคืนนี้เริ่มผุดขึ้นมา ทั้งเรื่องที่นางจู่โจม ผลักเขาลงบนเตียง จูบเขาและมัดเขาเอาไว้ และยัง....

“กรี๊ด!!……….”

“พระชายาเพคะ!! เกิดสิ่งใดขึ้นเพคะ”

สาวใช้สองคนรีบวิ่งเข้ามาในห้องของนางทันทีเมื่อได้ยินเสียงชิงเยี่ยนกรีดร้อง เสียงนางดังไปถึงห้องทรงงานท่านอ๋องจนเขาต้องเงยหน้าขึ้นพร้อมกับจางจื่อที่หันออกไปมองด้านนอก

“นางคงตื่นแล้วกระมัง”

“ให้กระหม่อมไปดูหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”

“ไม่ต้อง คนของเรายังไม่กลับจากสกุลฟ่างอีกงั้นหรือ”

“ยังเลยพ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วจดหมายจากฟ่างจื่อหนานเล่า มาหรือยัง”

“ยังเช่นกันพ่ะย่ะค่ะ”

“ข้าให้เวลาอีกสามวันต้องได้จดหมายจากจื่อหนานและภายในครึ่งเช้านี้ต้องรู้ความคืบหน้าของสกุลฟ่าง มิเช่นนั้นข้าไม่เก็บคนไม่มีประโยชน์เอาไว้ เข้าใจหรือไม่”

“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ”

“อืม”

ห้องพระชายา

“พระชายาเพคะ เกิดอะไรขึ้นเพคะ”

ชิงเยี่ยนตกใจเมื่อสาวใช้สองคนวิ่งพรวดพราดเข้ามา นางจึงหันไปมองหน้าทั้งสองด้วยความตกใจเล็กน้อย

“คือว่า…เอ่อ ไม่มีอะไร พวกเจ้า…”

“ทูลพระชายา หม่อมฉันชื่อว่าจงลี่เพคะ ส่วนนางคือน้องสาวชื่ออู่ผิง พวกเรามีหน้าที่คอยรับใช้พระชายาตามคำสั่งท่านอ๋องเพคะ”

“รับใช้…ข้างั้นหรือ”

“เพคะ ท่านจำเป็นต้องมีสาวใช้เพื่อรับใช้อย่างน้อยสี่คนเพคะ แต่ว่าอีกสองคนคอยดูแลเรื่องซักล้างและเตรียมอาหาร พวกข้าดูแลเรื่องเครื่องแต่งกายและเป็นสาวใช้ส่วนพระองค์เพคะ”

“เหตุใดคนคนเดียวจึงมีสาวใช้มากมายถึงเพียงนี้เชียว”

นางรำพึงกับตัวเองเพราะนึกถึงตัวเองก่อนหน้านั้นที่ไม่มีแม้แต่สาวใช้ประจำกายเลยสักคนทั้งๆที่พี่รองของนางก็มีสาวใช้ข้างกายถึงสองคนเช่นกัน ไม่นึกว่าพอแต่งงานนางก็จะมีสาวใช้กับเขาบ้างแล้ว

“บางที การแต่งงานกับเจ้าอ๋องบ้าเลือดนั่นก็ไม่ขาดทุนละนะ”

“พระชายาเพคะ ตรัสเบาๆเพคะ หากมีผู้ใดได้ยินเข้า…”

“ข้าพูดสิ่งใดผิดงั้นหรือ เอาเถอะๆ ดูจากสีหน้าพวกเจ้าก็พอจะรู้แล้ว เช่นนั้นข้าต้องทำสิ่งใดบ้างเล่าในตอนนี้”

“อาบน้ำ ขัดตัวก่อนนะเพคะ หม่อมฉันให้คนเตรียมน้ำร้อนเอาไว้แล้ว อีกเดี๋ยวมาทำผมผัดหน้าและสวมฉลองพระองค์เพื่อรอเสวยอาหารเช้ากับท่านอ๋องเพคะ”

“เรื่องพวกนี้ข้าทำเองก็ได้”

""ไม่ได้เพคะ""

พวกนางพูดขึ้นพร้อมกัน สีหน้าที่แสดงถึงความกลัวนั้นออกมาอย่างชัดเจน ท่านอ๋องผู้นี่จะโหดเหี้ยมและน่ากลัวถึงขนาดไหนกันนะถึงทำให้พวกนางเกรงกลัวจนไม่กล้าขัดคำสั่งถึงเพียงนี้

“ก็ได้ๆ เช่นนั้นรบกวนพวกเจ้าด้วยเช่นกัน”

“เพคะ”

ฟ่างชิงเยี่ยนปล่อยให้พวกนางจัดการกับร่างกายของนางตามที่ได้รับคำสั่งมา นางพบว่าทั้งสองมิได้ฝืนใจอีกทั้งยังเป็นคนคุยง่ายและทำให้นางรู้สึกว่ามีเพื่อนคุย

“พระชายาเพคะ จริงหรือเพคะที่จะสอนหม่อมฉันปักผ้า”

“จริงสิ หากว่าเจ้าหาเครื่องมือให้ข้าได้นะ”

“ได้แน่นอนเพคะ หม่อมฉันจะได้มีถุงหอมงามๆกับเขาบ้าง”

“เรื่องนี้ไม่ยาก ข้ามีผ้าลายสวยๆมากมายเอาไว้เรามานั่งทำกัน ว่าแต่ท่านอ๋องของพวกเจ้า โหดเหี้ยมถึงขนาดนั้นเลยงั้นหรือ เรื่องข่าวลือนั่น…”

“เรื่องนั้น พวกหม่อมฉันอยู่เรือนหลังนี้มานาน เคยพบท่านอ๋องน้อยมากเพคะ พระองค์จะเสด็จก็ต่อเมื่อ….”

“ต่อเมื่ออะไร รีบบอกมา”

“เอ่อ…ต่อเมื่อพระสนม…สิ้นพระชนม์เพคะ ท่านอ๋องจะมาดูก่อนจะส่ง…ร่างของพระสนมออกจากตำหนักด้านหลังเพื่อส่งกลับสกุลเดิมของพวกนางเพคะ”

“เช่นนั้น พวกเราก็สามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างอิสระ โดยที่เขาไม่ต้องแวะมาบ่อยๆ เช่นนั้นใช่หรือไม่”

“เพคะ เป็นเช่นนั้นเพคะ”

“ยอดเยี่ยม เอาล่ะการเป็นพระชายาก็ไม่ได้แย่อย่างที่ข้าคิดขนาดนั้น แม้ว่าจะต้องนับถอยหลังชีวิตที่เหลืออยู่อีกไม่กี่เดือนก็เถอะ”

“พระชายาทรงตรัสเช่นนั้นหมายความว่าอย่างไรเพคะ”

“อ้าว ก็เรื่อง….พระสนมที่ผ่านมานั่น ล้วนตายเพราะ….ถูกท่านอ๋องโลหิตนั่นฆ่ามิใช่หรอกหรือ”

“ไม่นะเพคะ หาได้เป็นเช่นนั้นไม่เพคะ”

สาวใช้ทั้งสองหันมาบอกนางด้วยท่าทีตกใจ แต่ไม่แปลกเพราะคนด้านในตำหนักไม่เคยพูดออกไปด้านนอก พวกเขาถูกสั่งอย่างเคร่งครัด ไม่ให้ยุ่งเรื่องข่าวลือนั่น

“อ้าว แล้วที่พระสนมทั้งเจ็ดนั่นสิ้นใจในตำหนัก เพราะเรื่องใดกัน”

“ส่วนใหญ่สิ้นพระชนม์ด้วยยาพิษ หรือไม่ก็ ตายอย่างไม่ทราบสาเหตุเพคะ”

“เป็นไปได้เช่นไรกัน”

“พระชายาเพคะ รีบไปเถิิดเพคะท่านอ๋องคงรอเสวยแล้วเพคะ”

“ข้าต้องร่วมโต๊ะอาหารกับเขาด้วยงั้นหรือ”

“เพคะ”

“แล้วก่อนหน้านี้….”

“พวกนางเป็นพระสนม มิต้องเสวยร่วมโต๊ะกับท่านอ๋องได้ แต่พระองค์เป็นพระชายา ต้อง…”

“เข้าใจแล้วๆ เช่นนั้นก็รีบไปเถิด จะน่ากลัวสักแค่ไหนกันเชียว เมื่อคืนก็จัดการมาได้แล้วนี่”

""จัดการ""

สองสาวใช้หันหน้ามามองพระชายาด้วยความตกใจกึ่งเลื่อมใส ชิงเยี่ยนหันมามองหน้าพวกนางทั้งสองพร้อมกับยิ้มอย่างภูมิใจจนทำให้ทั้งคู่ยิ้มตามนางไปด้วย

โต๊ะเสวย

“โอ้โห เหตุใดอาหารจึงมากถึงเพียงนี้ นี่กินสองคนจริงๆหรือ”

ชิงเยี่ยนเอ่ยถามเมื่อเห็นอาหารที่เต็มโต๊ะ มีตั้งแต่หมั่นโถว ซาลาเปา โจ๊ก ข้าวต้มและผัดผักพร้อมกับกับข้าวอีกหลายอย่างที่นางนึกไม่ถึงว่านี่คืออาหารเช้างั้นหรือ

“พระชายาประทับตรงนี้เถิดเพคะ อีกสักครู่ท่านอ๋องจะเสด็จแล้วเพคะ”

ชิงเยี่ยนทำตามที่จงลี่และอู่ผิงแนะนำ นางตัดสินใจแล้วจากที่นึกย้อนไปเมื่อคืนนี้ ท่านอ๋องผู้นั้น แม้ว่านางจะไม่เห็นหน้าเขาชัดเจนนัก แต่นางก็จำได้ว่าเขามิใช่คนเลวร้ายถึงขนาดนั้น

หากนางทำตัวดีๆและเอาใจเขามากหน่อย นางคงจะรอดชีวิตและอาศัยอยู่ที่ตำหนักอ๋องแห่งนี้ได้อย่างปลอดภัยจนกว่าจะหาลู่ทางหนีออกไปได้

“ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ลองดูสักทีจะเป็นไรไป อย่างมากก็แค่ตายเอาดาบหน้า รอดพ้นจากสกุลฟ่างมาได้ แค่เขาคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้มากหรอก”

“พระชายาเพคะ ท่านอ๋องมาแล้วเพคะ”

ชิงเยี่ยนลอบมองออกไปด้านนอก เห็นเพียงชายชุดสีดำเดินมาแต่ไกล แม้นางจะจดจำใบหน้าของเขาไม่ได้เลย แต่นางก็จดจำสายตาดุจพยัคฆ์ที่โดดเดี่ยวนั้นได้เป็นอย่างดี เขาเดินเข้ามาถึงโต๊ะแล้ว

“ท่านอ๋องเสด็จ”
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel