1 ไม่ได้ดังใจ
กาน้ำร้อนที่กำลังเดือดจัดถูกมือเรียวบางของสตรีผู้หนึ่งยกออกจากเตา ร่างเล็กเดินถือกาต้มน้ำใบนั้นที่กำลังเดือดพล่าน เข้าไปยังจุดที่สตรีตัวเล็กแบบบางถูกควบคุมอยู่ โดยมีนางกำนัลร่างใหญ่ สามถึงสี่คนจับแขนจับขานางเอาไว้ไม่ให้ดิ้นหลุดไปไหน เพราะในอดีตสตรีที่มีใบหน้างดงามที่ถูกนางกำราบอยู่เบื้องหน้า เป็นถึงคุณหนูใหญ่แห่งจวนแม่ทัพ มีวรยุทธเป็นเลิศ จำเป็นต้องใช้นางกำนัลหลายคนจับกุมตัวเอาไว้เพื่อไม่ให้นางหนีรอด
ก่อนแม่ทัพฉี บิดาบุญธรรมของฉีเยว่อี้จะถึงแก่กรรมในสนามรบ ได้กำชับไหว้วานให้ซูชินอ๋องซึ่งเป็นบิดาของนางรับตัวฉีเยว่อี้เอาไว้เป็นบุตร ใบหน้างดงามมีความละม้ายคล้ายกับพระชายาเอกที่ล่วงลับ แข็งแกร่ง อ่อนโยนและเป็นวรยุทธ ล้วนแล้วแต่โดดเด่นประดุจแสงตะวันฉาย พร้อมกับมารู้ทีหลังว่าความจริงแล้ว ฉีเยว่อี้คือบุตรสาวที่พลัดพรากกันไปตั้งแต่ยังเด็ก และได้แม่ทัพฉีเป็นผู้ดูแลเลี้ยงดู
ส่วนซูจื่อถิงคือเด็กที่ถูกแม่นมชั่วสลับตัวกันกับเด็กที่คลอด ในขบวนการค้าทาสในอดีต ใคร ๆ ก็ล้วนแล้วแต่พูดว่านางนั้นไม่เหมือนกับพระมารดาที่ตายจากไป ตอนนี้ถึงได้รู้ความจริงว่าเพราะอะไรใบหน้าถึงมิได้เหมือนกัน เป็นเพราะนางคือเด็กที่ถูกสลับตัว มิได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ทั้งสิ้นกับจวนอ๋อง
การมีอยู่ของนางทำให้ซูจื่อถิงคิดอิจฉาริษยา จนมิอาจข่มใจให้สงบสุขได้
“พี่จื่อถิง อย่าทำร้ายข้าเลย” สตรีตัวเล็กแบบบางอ้อนวอนร้องขอ นางเป็นวรยุทธ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็สลัดตัวออกจากการควบคุมของนางกำนัลร่างใหญ่พวกนี้มิได้ สายตาก็หันไปมองนอกประตูคาดหวังให้มีใครสักคนโผล่มาช่วยเหลือนาง
“ใครเป็นพี่สาวของเจ้ากัน ข้าเป็นบุตรสาวเพียงผู้เดียวของชินอ๋อง ไม่เคยมีพี่น้อง เสด็จแม่ของข้าไม่ได้คลอดเจ้าออกมาเสียหน่อย” ซูจื่อถิงยังคงมิอาจยอมรับความจริงได้ว่าตนนั้นเป็นเพียงเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง มือเรียวบางจับหูของกาน้ำชาเอาไว้แน่น ถ้าหากว่าใบหน้างดงามนั่นกลับกลายเป็นสตรีอัปลักษณ์ บุรุษในหล้านี้จะยังหมายปองนางอีกหรือไม่
ในขณะที่กำลังลังเลตัดสินใน มีดสั้นคมกริบก็ทะยานแหวกอากาศเฉือนหลังมือแบบบางของซูจื่อถิง พลันในมือที่ถือกาน้ำร้อนเดือด ๆ ก็ถูกปล่อยให้ร่วงหล่นลงกับพื้น น้ำร้อนกระเซ็นโดนสตรีตัวเล็กที่นั่งอยู่กับพื้นเล็กน้อย ส่วนที่เหลืออยู่ในกากระเซ็นโดนร่างกายแถบขวาของซูจื่อถิงไปทั้งร่าง
โชคดีที่กัวเหยียนเฟิงมาถึงได้ทันเวลา จึงสามารถช่วยสตรีที่น่าสงสารอย่างฉีเยว่อี้ได้ทันเวลา
“เยว่เอ๋อเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” ร่างสูงใช้เสื้อคลุมทหารของตนเองห่อหุ้มร่างเล็กแบบบางเอาไว้ สายตาและน้ำเสียงอ่อนโยนดังเช่นทุกครั้ง
“พี่เหยียนเฟิง” ซูจื่อถิงลืมความเจ็บปวดทางกายไปหมดสิ้น เหตุใดเขาจึงมิเคยใช้น้ำเสียงและแววตาเช่นนั้นกับนางบ้าง
“ซูจื่อถิงข้ายินยอมแต่งงานกับเจ้าแล้ว ขอแค่เพียง แค่เพียงเจ้าละเว้นนางก็เท่านั้น แต่เหตุใดเจ้าจึงไม่รักษาคำพูด” กัวเหยียนเฟิงขึ้นเสียงใส่ผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมั้น เขาเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันในอดีตจึงมิได้ล้มเลิกการแต่งงาน
“แล้วอย่างไร ก็นางคิดจะปีนเตียงว่าที่สามีของข้า จะให้ข้าปล่อยนางเอาไว้งั้นหรือ”
“พี่เหยียนเฟิง ข้ามิได้คิดเช่นนั้น” พูดไปฉีเยว่อี้ก็หลั่งน้ำตาไป “แต่ไหนแต่ไรมาท่านก็รู้ว่าเราสนิทกันประดุจพี่น้อง ข้าจำได้ว่าท่านมีขี้ผึ้งรักษาแผลชั้นดี เลยคิดจะเข้าไปหยิบยืมจากห้องนอนของท่านเท่านั้น แต่ว่าที่ฮูหยินของท่านมาเจอเสียก่อน ข้าพยายามอธิบายเหตุผลให้นางรับฟังไปหมดแล้ว แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่ฟัง”
ได้ยินสิ่งที่ฉีเยว่อี้โป้ปดออกมา ซูจื่อถิงก็โกรธจนหน้าดำหน้าแดง สิ่งที่นางพูดออกมานั้นล้วนแล้วแต่เป็นคำปลิ้นปล้อนทั้งสิ้น
“เจ้าโกหก...นางตั้งใจ.....” ยังไม่ทันที่ซูจื่อถิงจะได้เอยคำใด กระบี่ก็มาจ่ออยู่ที่หัวใจของนางเสียแล้ว “พี่เหยียนเฟิง นางโกหกท่านต้องเชื่อข้านะ สิ่งที่นางกล่าวออกมาไม่เป็นความจริงเลยสักนิด” ซูจื่อถิงพยายามอธิบาย แต่น่าเสียดายที่น้ำตาของนางไร้ความหมายและไม่มีค่าเพียงพอจะเรียกร้องความสงสารจากชายที่เป็นคู่หมั้น
“ยังคิดจะโกหกอีกงั้นหรือ ได้!!! ซูจื่อถิงเจ้ากระทำความชั่วมาตลอดทั้งชีวิต วันนี้ข้าในฐานะแม่ทัพใหญ่แห่งแผ่นดินนี้ขอเอาเลือดของเจ้าล้างแผ่นดิน”
ทันทีที่เขากล่าวจบ แค่เพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้นปลายกระบี่ก็ทิ่มแทงเข้ามาที่หัวใจของนาง ใบหน้าของบุรุษผู้นั้นไม่หลงเหลือความอ่อนโยนใด ๆ ทั้งสิ้น
ก่อนที่สุดท้ายพระเอกและนางเอกจะครองรักกันอย่างมีความสุข พวกเขาสังหารบุตรสาวจอมปลอมของซูชินอ๋องที่มีนิสัยเอาแต่ใจและเป็นนางร้ายของเรื่องด้วยกระบี่เดียว
--------------------------------------------
ซูจื่อถิงอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วจึงได้แต่ขมวดคิ้ว ไม่มีเหตุผลที่ดีเลยสักนิด ทั้ง ๆ ที่นักเขียนบรรยายเอาไว้ว่าฉีเยว่อี้เป็นสตรีที่เป็นวรยุทธเป็นบุตรสาวบุญธรรมที่ได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดี ของอดีตแม่ทัพใหญ่ที่ล่วงลับ ฝึกยุทธมาตั้งแต่อายุน้อย ๆ ร่างกายแข็งแรง
แต่กลับไม่สามารถต่อสู้กับซูจื่อถิงที่เป็นคุณหนูอ่อนแอได้ ซ้ำยังแสดงละครเรียกคะแนนความสงสารจากพระเอกพระรอง และเหล่าตัวร้ายด้วยการบีบน้ำตา ทันทีที่นางหลั่งน้ำตาคนทั้งหล้าก็พร้อมจะมอบทุกอย่างให้
คนที่น่าสงสารที่สุดคือนางร้ายของเรื่องต่างหาก ‘ซูจื่อถิง’ งดงาม ฉลาดเฉลียว เพียบพร้อมไปเสียทุกอย่าง ถึงจะไม่ใช่บุตรสาวแท้ ๆ ของท่านอ๋อง แต่ก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องไปอิจฉาริษยานางเอกของเรื่องเลยสักนิด ไม่ว่าอย่างไร ซูจื่อถิงก็ไม่เข้าใจ ทำไมกันนะ พวกนักเขียนถึงได้แต่งให้เหล่านางร้ายน่าสงสารขนาดนั้น ทั้ง ๆ ที่สาเหตุทั้งหมดเกิดจากนางเอกและพระเอกที่เปลี่ยนไปต่างหาก
ซูจื่อถิงได้พบกับกัวเหยียนเฟิงก่อนพวกเขาสองคนเป็นคู่หมายกันและก่อนที่จะมีฉีเยว่อี้เสียอีก และตั้งแต่นั้นนางร้ายแสนสวยของเรื่องก็ปักใจรักแต่พระเอกใจร้ายแต่เพียงผู้เดียว ไม่เคยชายตาแลผู้ใด
มือเรียวบางปัดหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่ออ่านคอมเมนต์ ถ้าจะแต่งให้ตัวละครที่เธอปักเมนกลายเป็นตัวร้าย เธอคงไม่อ่านนิยายเรื่องนี้ให้เสียเวลา ซูจื่อถิงอุตส่าห์ชื่นชอบตัวละครที่มีชื่อเดียวกันกับตัวเอง และคาดหวังให้เป็นนางร้ายกลับใจที่จะได้เปลี่ยนไปเป็นนางเอก แต่กลายเป็นว่าคุณนักเขียนดันหักหลังนักอ่านอย่างเธอด้วยการสร้างตัวละครที่เป็นนางเอกขึ้นมาใหม่
เพียงเพราะคอมเมนต์ของนักอ่าน ที่เต็มไปด้วยกระแสต่อต้าน ซูจื่อถิงนั้นมีนิสัยร้ายกาจเกินไป ที่แม้แต่บทนางรองก็ยังให้ไม่ได้ สุดท้ายคุณนักเขียนก็ตัดสินใจกำจัด บุตรสาวชินอ๋องทิ้งอย่างไม่ลังเล พร้อมกับเนรมิตตัวละครแสนดีประดุจดอกบัวขาวขึ้นมาใหม่เป็นนางเอก
ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ยังรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับตัวละคร ซูจื่อถิงอยู่ดี แต่เพราะตัวละครนี้มีแฟนคลับน้อยนิด จะกำจัดทิ้งไปก็ไม่น่าเสียดาย และเมื่อนางหายไปก็แทบไม่มีใครพูดถึงอีกเลย
หญิงสาวปิดหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้วค่อย ๆ หลับตาลงอย่างเชื่องช้า ในหัวสมองคิดวนเวียนถึงเรื่องของซูจื่อถิง
ถ้าหาก...ถ้าหากเธอเป็นซูจื่อถิง เธอจะใช้ชีวิตแบบไหนดีนะ ทั้งรวยและสวยขนาดนั้น แถมยังมีอำนาจของบิดาและเป็นพระนัดดาสุดที่รักของเสด็จอาฮ่องเต้
ใช่แล้ว....ถ้าเป็นเธอ...เธอจะอยู่เฉย ๆ กินนอนสบาย ๆ ไม่สนใจบุรุษพวกนั้นและจะปล่อยให้พวกเขาไปตบตีแย่งชิงแม่นางเอกกันเอง โดยไม่มีเธอเข้าไปยุ่งเกี่ยว….