ข้าคือไป๋ฟางหรง (จีนโบราณ)

142.0K · จบแล้ว
ภัคจิรา,แม่ลูกหมี,muli89
57
บท
69.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“วันนี้ข้าไป๋ฟางหรง ขอหย่าขาดจากตระกูลจ้าว ด้วยความผิดอิจฉาริษยา อับอายต่อบรรพชนตระกูลจ้าว จึงขอหย่าร้างด้วยตนเอง หลังจากนี้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลจ้าวอีก” เรื่องย่อ เพราะเป็นคู่หมั้นกับเขามาตั้งแต่เยาว์วัย นางมีเขาเป็นส่วนหนึ่งเสมอ ตลอดระยะเวลาที่นางกับเขาหมั้นหมายกัน สุดท้ายแล้วเขาก็ยังคิดว่าทุกอย่างเป็นแผนของนางที่คิดจะจับเขาหลอกลวงกอบโกยผลประโยชน์ เมื่อถึงวันแต่งงาน เขาเข้าหอตามทำเนียม ยิ่งถูกยาปลุกกำหนัดเล่นงาน ก็ยิ่งคิดว่านางเป็นคนลงมือ สุดท้ายแล้ว หลังจากเข้าหอหลับนอนกับนาง รุ่งเช้าอีกวันก็เดินทางกลับไปยังชายแดนทันที เขาทอดทิ้งนางเอาไว้ในเมืองหลวง ระยะเวลาห้าปีมานี้ นางรอคอยให้เขากลับมาด้วยหัวใจอันมีรักอยู่เปี่ยมล้น สุดท้ายก่อนขึ้นเดือนเอ้อร์เยว่เข้าสู่ปีที่หก เขาเดินทางกลับเมืองหลวงพร้อมสตรีนางหนึ่ง เขาประกาศก้องออกมาว่า จะแต่งนางมาเป็นภรรยารอง ทำให้ไป๋ฟางหรงตัวแข็งทื่อราวกับถูกของแข็งกระแทกเข้าศีรษะอย่างจัง นางเห็นสามีตระกองกอดสตรีนางนั้นด้วยความอบอุ่นแววตาดูมีแต่ความรักใคร่เอื้อเอ็นดู เมื่อสายนั่นมองมาที่นาง มีแต่แววตาเย็นชาเยียบเย็นจนทำให้นางหนาวเหน็บสะท้านกาย จวนเจียนแทบจะล้มลงได้ทุกเมื่อแต่ก็ต้องฝืนยิ้มกลั้นน้ำตามิให้มันไหลออกมา ภายในอกนั้นปวดร้าวราวกับถูกหนามพิษทิ่มแทงทะลุทลวงเจียนตายอยู่รอมร่อ “สุดท้ายแล้วข้ากลายเป็นคนโง่ที่รักและยอมทุกอย่าง ต่อไปนี้ข้าควรจะหยุดเอาไว้ หยุดหัวใจเอาไว้เพียงเท่านี้ ข้าจะไม่ฝืนไม่รั้งเอาไว้อีกแล้ว”

นิยายจีนโบราณแม่ทัพพลิกชีวิตนอกใจดราม่าจีนโบราณ18+

ตอนที่ 1 การกลับมาของสามี

ตอนที่ 1 การกลับมาของสามี

เรือนเหมยกุย

เด็กน้อยคนหนึ่งอายุห้าหนาว ไม่เคยเห็นหน้าบิดาสักครั้ง ปกติจะพบเพียงแค่ท่านปู่และท่านย่า ร่วมด้วยท่านแม่ของเขา เขาคือลูกชายของแม่ทัพพิทักษ์แดนเหนือ จ้าวหย่งเล่อ

“ท่านแม่เร็ว ๆ สิขอรับ ข้าอยากพบท่านพ่อใจจะขาด” เด็กชายตัวน้อยสีหน้าตื่นเต้นนัก นางเองก็เช่นเดียวกัน

“วันนี้หิมะตก เล่อเอ๋อร์อยู่ในห้องเสียก่อน ประเดี๋ยวท่านพ่อมาแม่จะพาเจ้าไปเอง” ฟางหรงกล่าวขึ้นอย่างอ่อนโยน นางมีลูกชายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเอาไว้ ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นางต้องอยู่ที่เมืองหลวงด้วยหัวใจอันปวดร้าว

ยามนี้นางมีลูกหวังว่าจะให้เขาหันมามองนางบ้าง และเอ็นดูลูกชายของนางกับเขา ถึงแม้จะรู้อยู่แล้วว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เขาเย็นชาและเมินเฉยต่อนางเช่นไร

“ฮูหยินขอรับขบวนเดินทางมาถึงแล้ว” บ่าวรับใช้รีบร้อนกล่าวขึ้นมา ทำให้ดวงหน้าของฮูหยินนั้นดูเบิกบานทันใด จากเมื่อครู่ที่คล้ายกับว่ากำลังเหม่อลอยไปไกล

นางกำชับลูกชายว่า “รอแม่อยู่ในนี้ก่อนนะ” นางกระชับเสื้อคลุมขนจิ้งจอกขาวของลูกชายให้เข้าที่ ลูบไล้ดวงหน้าของลูกชายก่อนเดินออกไปต้อนรับสามี

นางรีบก้าวเท้าฉับ ๆ ชะเง้อมองถนนที่เต็มไปด้วยเกล็ดหิมะทับถม แต่ก็ไม่ได้ยากลำบากต่อการเดินทางแม้แต่น้อยนิด นางยังไม่ลืมกำชับพ่อบ้านให้เตรียมน้ำชาและขนม และยังกำชับอีกว่าให้จัดเตรียมอาหารสำหรับเหล่าทหารทั้งหลายที่จะพักอยู่ในจวนของท่านแม่ทัพอีกด้วย

ไม่นานก็มองเห็นขบวนของเขาเดินทางมาถึง เสียงเกือกม้าย่ำดังกึกก้องนัก หัวใจนางเต้นระรัว การรอคอยอันเนิ่นนานในที่สุดก็จบลงแล้ว

จ้าวหย่งคังเห็นภรรยายืนรอต้อนรับ เขาปลายสายตามองนางเพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น ไป๋ฟางหรงรีบเดินเข้าไป หวังว่าจะได้โอบกอดเขาสักเล็กน้อย นางกล่าวขึ้นมาว่า “ท่านพี่เดินทางมาเหนื่อย ๆ ข้าเตรียมน้ำชาเอาไว้ให้แล้วเจ้าค่ะ”

คำตอบที่นางได้ยินนั้นปวดร้าวนัก “ทีหลังไม่ต้องยุ่งยากอันใด เจ้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเช่นนี้อีก” คำพูดที่แสนจะเย็นชาไร้ความรู้สึกนั่น เขาไม่แม้แต่จะมองนางเสียด้วยซ้ำไป “ข้ามีคนจะแนะนำให้เจ้ารู้จัก” ว่าแล้วเขาเดินไปยังรถม้าคันหนึ่ง

มือหนาเปิดม่านประตู อุ้มสตรีนางหนึ่งลงมา รูปโฉมดูงดงามน่ารักยิ่งนัก ไป๋ฟางหรงเจ็บใจจนพูดไม่ออก มองสามีตระกองกอดสตรีอื่นต่อหน้าต่อตา

นางฝืนก้อนหินที่จุกอยู่ตรงลำคอเอาไว้ สตรีนางนั้นยิ้มแย้มน่ารักสดใส เห็นสามีแย้มยิ้มหยอกเย้า พลันหัวใจดวงนี้คล้ายกับว่าถูกเข็มพิษทิ่มแทงเสียดสีหัวใจของนางจนแทบกระอักเลือดออกมา

“ถังม่านชิงจะมาเป็นภรรยาของข้าอีกคน หลังจากเดือนเอ้อร์เยว่ไปแล้ว ข้าจะแต่งงานกับนาง” เขาไม่แม้แต่จะมองดวงหน้าของนางเสียด้วยซ้ำ มัวแต่มองสตรีข้างกาย

ไป๋ฟางหรงคล้ายว่าวันนี้นางทำสิ่งใดเอาไว้หลงลืมสิ้น จนแทบจะควานหาน้ำเสียงของตนไม่เจอ นางฝืนยิ้มด้วยความเจ็บปวดอัดแน่นอยู่ในอก รับคำเพียงแค่สั้น ๆ เท่านั้น “เจ้าค่ะ” นางพูดได้เพียงเท่านี้

“พี่สาว ข้าขอฝากตัวด้วยนะเจ้าคะ” ถังม่านชิงแย้มยิ้มมาให้ มองเห็นใบหน้าที่ขาวซีดของอีกฝ่ายก็นึกสะใจนัก คงจะเป็นดังข่าวลือที่ว่า ท่านแม่ทัพพิทักษ์แดนเหนือมิเคยเหลียวแลภรรยาเอกของตนสักนิด

“เชิญเข้าข้างในก่อนขอรับนายน้อย” พ่อบ้านฝูอดเห็นใจฮูหยินเอกไม่ได้ รูปร่างของนางก็เพียงแค่ตัวเล็ก ๆ เพียงเท่านี้ ล้มป่วยกระเสาะกระแสะหลังจากให้กำเนิดคุณชายน้อย ช่วยดูแลแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งของจวนได้อีก

“อืม” เขาตอบสั้น ๆ ม่านชิงเกาะแขนของท่านแม่ทัพเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เมื่อเขาเดินเข้าไปแล้ว นางก็เดินขนาบข้าง สีหน้าดูดีมีความสุขนัก ผิดกับฟางหรงที่จวนเจียนจะล้มพับได้ทุกเมื่อ เห็นสีหน้าของสามีแล้ว มีหรือที่นางจะไม่รู้ สายตาเย็นชานั่นหนาวเหน็บเสียยิ่งกว่าฤดูหนาวเสียอีก

จ้าวหย่งเล่อถูกมารดาให้รอ เขาก็รอ แต่ระหว่างที่รอยคอยจะพบบิดานั้น เขาก็มักจะเคร่งเครียดการอ่านเขียนและท่องตำรา วาดหวังเอาไว้ว่าเติบโตขึ้นมาจะเจริญรอยตามบิดา อยากเป็นแม่ทัพใหญ่ปกป้องแคว้นอู๋

ท่านแม่ทัพเดินไปยังเรือนใหญ่ด้านหน้า เป็นที่พักของบิดาและมารดา ทันทีที่เห็นหน้าลูกชาย ฮูหยินผู้เฒ่ารีบกวักมือเรียก ดวงตาของหญิงชราอาบไปด้วยน้ำตาแห่งความดีใจ “ลูกแม่เจ้ามาแล้ว แม่ดีใจยิ่งนัก” น้ำเสียงของหลิวซื่อมีแต่ความดีอกดีใจ ร่างกายของนางไม่แข็งแรงสักเท่าไหร่ จึงไม่ได้ไปยืนรอลูกชายกลับบ้าน

“คารวะท่านแม่ขอรับ” จ้าวหย่งคังโค้งศีรษะลงสองมือประสาน “ข้ากลับมาครั้งนี้ก็มีข่าวดีจะแจ้งให้ท่านแม่ทราบ” จ้าวหย่งคังกล่าวขึ้นมาอีกครั้ง

สตรีนางนี้รู้จังหวะดีนัก นางเดินก้าวข้ามประตูเข้าไป ยอบกายลงอย่างงดงาม ยืนขนาบเคียงข้างกับแม่ทัพจ้าว ใบหน้าของนางประดับด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ จ้าวหย่งคังจึงได้กล่าวขึ้นมาอีกครั้ง “ถังม่านชิงจะมาเป็นภรรยารองของลูก และนางจะอยู่ที่แดนเหนือด้วยกันขอรับ”

พลันคล้ายว่ามีสิ่งใดตกลงพื้น จ้าวหย่งเล่อถือถาดน้ำชามา คิดจะมอบให้ผู้เป็นบิดา แม่ทัพจ้าวหันมองตามเสียงก็พบว่าเป็นเด็กชายน่ารักคนหนึ่ง เห็นสีหน้าบึ้งตึงของเด็กคนนี้เขาไม่เข้าใจนัก กำลังจะเอ่ยปากขึ้นถามว่าเด็กคนนี้เป็นลูกใครกัน

“นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะใจร้ายใจดำถึงเพียงนี้ นำสตรีอีกคนมาเหยียบหน้าฮูหยินถึงในจวน ดีเสียจริงลูกชายข้า” คราวนี้เป็นบิดาของจ้าวหย่งคังกล่าวขึ้นมา น้ำเสียงดูท่าไม่พอใจนักหนา ชายชราลูบหนวดเครายาวจนถึงลำคอ

“หย่งเล่อไม่ต้องคารวะไอ้คนสารเลวนั่นเป็นพ่อของเจ้า นับแต่นี้เจ้ามีเพียงแค่ปู่กับย่าและมารดาของเจ้า” ชายชราจับหลานชายเอาไว้แน่น

จ้าวหย่งคังอึ้งชะงักงัน เหตุใดไม่มีใครบอกเขาเล่า ว่าตนเองมีลูกแล้ว และยังเป็นเด็กผู้ชายอีกด้วย เมื่อครู่เห็นเขาตกใจ จนทำถาดน้ำชาหล่น เขายังเอะใจเสียด้วยซ้ำไปว่า ในจวนเลี้ยงเด็กลูกคนรับใช้เอาไว้ด้วยรึ

“ไอ้คนสารเลว กลับมาก็สร้างเรื่อง คิดจะแต่งงานกับนางรึ ฝันไปเถอะ อย่างไรข้าก็ไม่รับนางเป็นสะใภ้” หลิวซื่อแผดเสียงใส่ ยังจะจับจอกน้ำชาปาหัวของคนโง่เข้าให้อีกด้วย

ถังม่านชิงถูกด่าจนหน้าชาไปหมด นางกำมือแน่นบนกระโปรงสีหวานสดใสนั่น นางฝืนยิ้มแต่ก็ดูไม่ถึงดวงตา แม่ทัพจ้าวรีบกอบกุมมือของนางเอาไว้ ประกาศออกไปทันใด “ถึงอย่างไรข้าก็จะแต่งงานกับนางคาดว่าน่าจะเป็นต้นเดือนซานเยว่ ไม่ต้องขอท่านพ่อท่านแม่ให้วุ่นวายจัดงานให้”

“ออกไป! ไสหัวออกไป” หลิวซื่ออดทนไม่ไหว สาดน้ำชาใส่หน้าของลูกชาย

ไป๋ฟางหรงทำได้แค่เพียงยืนนิ่ง ๆ มองลูกชายด้วยความสงสาร นางต้องทำให้ลูกชายได้เห็นภาพที่ไม่น่าจดจำแล้ว นางเจ็บปวดใจนักยิ่งกว่าครั้งไหน ๆ เขาเย็นชาไร้ใจ นางจะใช้ความจริงใจเข้าสู้ แต่ครั้งนี้หัวใจของเขามิใช่ของนางอีกแล้ว

เพียงแค่เขาเดินออกมา ฝ่ามือที่มันไม่เคยเป็นของนางมาก่อนได้กอบกุมสตรีอีกคนเอาไว้ เขากำลังปกป้องคนรัก แต่กำลังเหยียบย่ำหัวใจของนางใจจมสู่ผืนดิน “ถึงอย่างไรข้าก็จะแต่งงานกับนาง และอย่าเอาลูกของเจ้ามาบังหน้าเล่า”

จ้าวหย่งเล่อโตพอแล้ว เขาสะบัดมือออกจากท่านปู่ เดินตรงไปยังบิดาของตน “ใช่! ข้าเป็นลูกท่านแม่ ไม่ใช่ลูกของผู้ชายใจร้ายเช่นท่าน!” จ้าวหย่งเล่อตะเบ็งเสียงใส่บิดา ท่าทางแข็งกร้าวนักแววตาของเขาดุดันยิ่ง ชำเลืองมองสตรีอีกคนด้วยความไม่พอใจนักหนา

“สตรีดี ๆ ที่ไหนยังไม่แต่งงาน ก็มาอยู่บ้านผู้ชายเสียแล้ว ไร้ยางอายนัก!” จ้าวหย่งเล่อแค้นใจเป็นที่สุด จึงได้พ่นวาจาเหยียดหยันอีกฝ่ายเข้าให้

ฝ่ามือหนาของบิดาฟาดเข้าให้ที่ใบหน้าของจ้าวหย่งเล่อ แม้มันจะไม่รุนแรงนักแต่ก็ทำให้ทุกคนตาค้างด้วยความตื่นตระหนกตกใจ

ไป๋ฟางหรงนางไม่ยอมเป็นอันขาด “เจ้ากล้าตีลูกชายข้า!” นางไม่เคยลงมือหรือขึ้นเสียงกับใคร ๆ แต่นางยอมไม่ได้ จึงคว้าเอาแจกันฟาดลงที่ศีรษะของท่านแม่ทัพโดยที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัว ฟางหรงว่องไวนักพริบตาเดียวเท่านั้นเอง

เลือดไหลนองลงมาแม่ทัพจ้าวยังมึนงงอยู่ด้วยซ้ำยกมือขึ้นจับศีรษะของตน เศษแจกันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ การกระทำของนางที่โจ่งแจ้งนั่น ทำให้แม่สามีและพ่อสามี รวมถึงบ่าวไพร่ ต่างหวีดร้องกัน ในจวนอลหม่านขึ้นมาทันใด

ไป๋ฟางหรงเดือดดาลนัก นางยกนิ้วขึ้นมาชี้หน้าอีกฝ่าย “จำเอาไว้ ท่านไม่เคยเลี้ยงดูลูกข้า ไม่เคยสอนสั่งลูกข้า คราวหน้าอย่าได้ริอ่านมาทำร้ายเขา หากข้าเหลืออดขึ้นมาวันใด รับรองว่าชีวิตของท่านจะไม่มีอีกต่อไป จดจำใส่ใจของท่านเอาไว้ให้ดี ลูกข้าใครก็ห้ามแตะต้อง!”