บทที่ 5
"หลานสะใภ้ เจ้าจะทำอะไร"
เสียงจากด้านหลังทำให้ชุนหลี่เวยหยุดชะงัก นางลืมตาขึ้นก่อนจะหันไปมองทางต้นเสียงพบว่าเป็นท่านผู้เฒ่าลั่วกำลังยืนมองนางอยู่ด้านหลังมีชิงถงที่กำลังร้องไห้
"ท่านผู้เฒ่าลั่วข้า....."
"เด็กดี วางมืดลงเถอะ"
ท่านผู้เฒ่าลั่วพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม แม้ในใจของเขาตอนนี้รู้สึกตกใจไม่คิดว่าสตรีที่งดงามเช่นนางจะยอมตายดีกว่ามีหลานชายทั้งสามของเขาเป็นสามี
ไอ้หลานเวร!!
"ข้า...."
"คุณหนู อย่าทิ้งข้าไปเลยนะเจ้าคะ"
ชิงถงพูดออกมาทั้งน้ำตา นางไม่คิดว่าคุณหนูของนางจะทำเช่นนี้หากไม่ใช่เพราะท่านผู้เฒ่าอยากมาดูหลานชายของตน ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ข้าอาจสูญเสียคุณหนูไปแล้ว...
"ที่พวกเขาเป็นเช่นนี้ก็เพราะข้า ข้าตามใจพวกเขามากเกินไปหลังจากลูกชายและลูกสะใภ้ของข้าตายไป ข้าก็เหลือเพียงพวกเขา ไม่ว่าจะดื้อรั้นแค่ไหนข้าก็ไม่เคยดุด่าจนพวกเขาเสียคนเช่นนี้ ข้าเพียงคิดว่าอยากแต่งสตรีเข้ามาดูแลให้พวกเขาเป็นผู้เป็นคนมากกว่านี้ ยามข้าจากไปก็คงหมดห่วง ไม่คิดว่าจะเป็นการบังคับเจ้าเช่นนี้.."
ชุนหลี่เวยที่กำลังคิดจะปลิดชีพตัวเองมองดูชายชราตรงหน้าด้วยสายตาสับสน น้ำเสียงที่เขาเอ่ยออกมาล้วนเต็มไปด้วยความจริงทั้งสิ้น ต้องทนทุกข์มานานแค่ไหนกันถึงได้ดูหนักใจถึงเพียงนั้น หากจำไม่ผิดหลังจากท่านผู้เฒ่าลั่วจากไปตระกูลลั่วที่เคยเป็นพ่อค้ามากล้นด้วยอำนาจและเงินทองก็ล่มจมเพราะหลานตัวดีทั้งสามเอาแต่ทำตัวเสเพล คนที่ดีเช่นนี้เหตุใดถึงมีหลานแบบนี้ได้..
"หลานสะใภ้ ชื่อของเจ้ายังไม่ถูกใส่มาอยู่ในตระกูลลั่วหากเจ้าไม่อยากอยู่ที่นี่เช่นนั้นก็ไปเถอะ เดี๋ยวข้าจะให้เงินเจ้าไปตั้งตัว"
"......."
"เด็กดี ตาแก่คนนี้ขอร้องเจ้าวางมีดลงเถอะนะ"
ชุนหลี่เวยมองชายชราตรงหน้าที่กำลังกล่าวออกมาสายตาของเขาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่มีใครมองข้าด้วยความเป็นห่วงเช่นนี้ ชุนหลี่เวยมองไปที่ชิงถงที่กำลังร้องไห้เสียใจร้องอ้อนวอนให้นางอย่าทำเช่นนี้
"เด็กดีบนโลกนี้ยังมีคนที่ต้องการเจ้าอยู่นะ อย่าทำอะไรโง่ ๆ เลย"
ชุนหลี่เวยเม้มปากแน่นคำพูดของชายชราทำให้นางน้ำตาคลอก่อนจะค่อย ๆ ลดมีดลงจากลำคอ
"คุณหนู คุณหนูของข้าเลือดออกหมดแล้วเจ้าค่ะ"
ชิงถงรีบวิ่งเข้ามาหาชุนหลี่เวยทันที นางจับมีดออกจากมือชุนหลี่เว่ยก่อนจะโยนลงไปบนพื้นเพราะกลัวว่าคุณหนูของนางจะคิดสั้นอีก ท่านผู้เฒ่าลั่วแม้จะรู้สึกเสียดายชุนหลี่เวยแต่เพราะเขาไม่อยากบังคับนาง
"เห้อ เด็กดีรู้หรือไม่เจ้าทำตาแก่เช่นข้าตกใจแค่ไหน ชีวิตของคนเรานั้นมีสิ่งให้ทำอีกมากเจ้าอย่าได้คิดทำเช่นนี้อีกเล่า อย่างน้อยก็สงสารนางเถอะดูนางจะห่วงเจ้ามาก"
ชุนหลี่เวยก้มลงมองชิงถงที่กำลังคุกเข่าอยู่ตรงหน้านางทั้งน้ำตา มือบางลูบศีรษะของคนตรงหน้าก่อนจะยิ้มออกมา นางเงยหน้ามองท่านผู้เฒ่าลั่วที่กำลังจะเดินออกไปสีหน้าของเขาตอนนี้น่าสงสารจนชุนหลี่เวยรู้สึกไม่ดี
"ท่านผู้เฒ่าลั่วเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ"
ชุนหลี่เวยเอ่ยเรียก นางปรายตามองไปที่บุรุษสามคนที่นอนอยู่ใกล้ ๆ เหมือนกำลังคิดบางอย่างก่อนจะถอนหายใจออกมา
"ข้าจะช่วยท่านเองเจ้าค่ะ"
"เจ้าพูดจริงหรือ"
"เจ้าค่ะ แต่วิธีของข้านั้นอาจจะทำให้ท่านผู้เฒ่าลั่วลำบากใจ"
ชุนหลี่เวยเอ่ยออกมาไม่เต็มเสียงนัก ในอดีตหลังจากตระกูลลั่วล่มจมไม่เหลือเงินพวกเขาจากคนที่เคยเสเพลก็กลายมาเป็นบุรุษที่ขยันทำงานเอาชีวิตรอดเพื่อหาเลี้ยงตัวเองเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน นางจึงคิดว่าหากให้พวกเขาได้รับความลำบากบ้างอาจจะช่วยทำให้พวกเขาคิดได้
"ไหนลองเล่าแผนการของเจ้ามา"
ชุนหลี่เวยยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยเล่าแผนการทั้งหมดของนางให้แก่ท่านผู้เฒ่าลั่วฟังอย่างละเอียด ชายชราที่ได้ฟังเช่นนั้นก็ยิ้มพอใจเพราะนี่อาจจะเป็นแผนการที่ไม่เลว หลานสะใภ้คนนี้ช่างถูกใจข้าจริง ๆ
เวลาผ่านไปหลายชั่วยามเป็นยามเช้าที่สดใส ลั่วกงเฉินคุณชายใหญ่จอมเสเพลลืมตาขึ้นเขายันกายลุกขึ้นนั่งมองไปที่น้องชายทั้งสองคนที่หลับอยู่ข้าง ๆ ก็ขมวดคิ้วทันที
"หมิงเฉิง หลี่หยวน ตื่น"
ลั่วกงเฉินเรียกน้องชาย ก่อนจะกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องพบว่าเป็นห้องหอที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา
"พาข้ามาจนได้สินะ"
"ท่านพี่ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ"
เสียงหวานเอ่ยออกมา ลั่วกงเฉินหันไปทางต้นเสียงพบว่าเป็นสตรีหน้าตางดงามสวมชุดสีฟ้ากำลังยืนยิ้มให้เขาอยู่ข้างเตียง ลั่วกงเฉินเป็นคนฉลาดจึงรู้ทันทีว่าคนตรงหน้าคือเจ้าสาวที่แต่งเข้ามาเมื่อวาน
"เจ้าชื่ออะไร"
"ข้าชื่อลั่วหลี่เวย บ้านเดิมตระกูลชุนเจ้าค่ะ"
"ตระกูลชุนละโมบถึงเพียงนี้เชียว"
ลั่วกงเฉินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงดูถูก เขาลุกขึ้นไปเผชิญหน้ากับลั่วหลี่เวยมือหนาจับปลายคางของนางให้เงยขึ้น ก่อนจะมองสำรวจใบหน้านาง
"ใบหน้าเนียนละเอียดดุจหยกขาว งดงามยิ่งกว่านางโลมที่ข้าเคยพบ"
ลั่วกงเฉินพูดออกมาด้วยรอยยิ้มเขารู้สึกถูกใจคนตรงหน้ายิ่งนัก ถือว่าการแต่งงานครั้งนี้ท่านตาหาเจ้าสาวมาได้ไม่เลว แต่ภายใต้อาภรณ์นี้จะงดงามแค่ไหนกันนะ
"เช่นนั้นขอข้าดูหน่อยว่าเจ้าจะทำให้ข้าพอใจเช่นนางโลมได้หรือไม่ ถอดชุดของเจ้าออกได้แล้ว"