บทที่ 2
เขาเลี้ยวรถเข้าห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนในย่านธุรกิจเมื่อขับผ่าน เขาเร่งทำงานจนลืมซื้อของมาฝากเธอ เลยจะชดเชยเธอด้วยของแบรนด์ที่เธอน่าจะพอใจ จริงที่เอรินเป็นคนติดหรูไปบ้าง...แต่ผู้หญิงมีใครจะไม่ชอบของแบบนี้กัน ในเมื่อฐานะของเธอก็พอจะซื้อหามันได้อย่างไม่ลำบากอะไร พ่อกับแม่ของเธอเป็นนักธุรกิจทำทัวร์ต่างประเทศ เรียกได้ว่ามีฐานะพอสมควร แต่นั่นมันก็ไม่ได้ทำให้มารดาของเขาพอใจสักเท่าไหร่นัก ชอบว่ากระทบกระเทียบเกี่ยวกับคนรักของเขามาบ่อยๆ จะมีใครทำให้ท่านพอใจได้อีกล่ะ เพราะคุณชุดาภาไม่เคยพอใจในอะไรง่ายๆ แม้กระทั่งลูกชายของเธอเองอย่างเขา
อ้อ...เห็นจะมีแต่คนรักของบุรินทร์ ลูกพี่ลูกน้องของเขากระมัง ที่ท่านมาชมให้ฟังผ่านหู นิราอร...คชสีห์ราช ลูกสาวของผู้ดีเก่า เขาเคยเห็นหล่อนเพียงหนสองคน ก็ยังคิดในใจขำๆ ว่าทำไมบุรินทร์ถึงได้ไปสนใจผู้หญิงท่าทางเรียบร้อยดูจืดชืดคนนั้นได้ลงกัน หล่อนเรียบร้อยจนเขาเกร็งไปหมดเวลาเข้าใกล้
หยุดคิดเรื่องมารดาไว้ก่อนชั่วคราว เขาจะเลือกอะไรให้กับคนรักดี แล้วก็ตัดสินใจไลน์ไปหาเพื่อนที่จะช่วยเขาได้
“เฮ้...ไอเฟล กลับมาแล้วเหรอยะ”
“อืม...บรีน่า ช่วยคิดหน่อยสิ ผมควรจะซื้ออะไรง้อเอรินดี”
“งอนกันอีกแล้วเหรอ?”
ทางนั้นทำเสียงขึ้นจมูก พรพราวไม่เคยชอบเอรินเลย เขารู้ดี แต่เขาก็แยกออกระหว่างเพื่อนกับแฟน แยกที่จะให้ความสำคัญตามสถานะของคนทั้งคู่ เขาสนิทกับพรพราวมาก จนใครต่อใครแอบจับคู่ให้ แต่ทั้งเขาและหล่อนรู้ดีว่า ระหว่างกันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน
“ก็...น่าจะงอนล่ะ ผมลืมซื้อของมาฝากเค้าน่ะ”
“เอาตัวไปฝากสิยะพ่อคุณ”
พรพราวทำเสียงสูง อะไรบางอย่างที่เธอบังเอิญไปเห็นไปรู้เข้า มันทำให้เธอคันปากยิบๆ แต่...บางเรื่องก็เข้าใจอย่างดีเลยล่ะว่าไม่ควรเอาตัวไปสอด
“ยังไง” เขาหัวเราะ “ผมเอาตัวไปฝากอยู่แล้วล่ะ แต่ต้องมีของติดมือไปด้วยน่ะสิ เอ่อ...บรีน่าแต่ผมซื้อแผ่นเสียงที่คุณอยากได้มาด้วยนะ เจอมันในร้านของเก่าทางโน้น โคตรแจ๊คพอตเลย”
“ว้าว...”
พรพราวอุทาน เธอเป็นนักสะสมของเก่า แผ่นเสียงเพลงของนักร้องสากล ก็เป็นหนึ่งในของสะสมแสนรักของเธอ เพื่อนที่รู้ใจอย่างกฤชพล อุตสาห์หอบหิ้วมาฝากเธอ จนลืมของฝากของแฟนหรือนี่
พ่อคุณเอ๊ย...น่ารักกับเพื่อน แต่...เฮ้อ...กับแม่นั่นจริงๆ
มิน่า...
อาการคันปากยิบๆ มาเยือนอีกหน แต่ก็ต้องยั้งปากไว้
“น้องเอรินยอดดวงใจของนายน่ะ ชอบน้ำหอม กระเป๋า เครื่องประดับแบรนด์ หายากตรงไหน ของที่จะทำให้ขวัญใจของนายหายงอนน่ะ”
“ผมนึกไม่ออก” กฤชพลตอบ
“เอาล่ะ เห็นความดีที่ซื้อแผ่นเสียงมาให้ ตอนนี้อยู่ที่ไหนล่ะจ๊ะ เดี๋ยวเพื่อนจะรีบปรี่ไปหา ไปช่วยเลือก รับรองว่าถูกใจเด็กนั่นแน่นอน”
“อยู่ที่...”
เขาบอกชื่อห้างสรรพสินค้าไป พรพราวการันตรีว่ารอไม่ถึงสามสิบนาทีเธอจะไปอยู่ตรงหน้าเขาแน่นอน เพราะออฟฟิศเธออยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า นั่งรถไปแค่สถานีเดียวก็ถึงห้างสรรพสินค้านั้นแล้ว
กฤชพลหาที่จอดรถ ก่อนจะเดินเอื่อยเข้าไปในห้างสรรพสินค้า เขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะซื้ออะไรให้กับเอริน อาจจะเพราะความเครียดนิดๆ จากงานกระมัง หรือเพราะหลังๆ เขาไม่เคยทำอะไรถูกใจคนรักเลย หล่อนงอนเขาบ่อยครั้ง และบางทีไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า มันเหมือนว่าเอรินหาเรื่องเขา...หาเรื่องที่จะทะเลาะกัน
เขานั่งรอในร้านกาแฟร้านหนึ่ง ตามองไปเรื่อยๆ แต่สมองกำลังคิดขบเรื่องโปรเจคงานที่จะต้องนำไปเข้าที่ประชุม สายตาของเขาสะดุดเข้ากับหญิงชายในชุดนักศึกษาที่เดินหัวเราะต่อกระซิกโอบประคองกันมาราวกับคู่รัก
ใจของเขาหายวาบ
มือของกฤชพลสั่นระริกขณะที่วางแก้วกาแฟลง เขาลุกขึ้นแล้วเดินไปจ่ายเงิน
ก่อนจะค่อยๆ เดินตามหญิงชายคู่นั้นไป…จนถึงหน้าโรงภาพยนตร์ ที่พวกเขาพากันไปซื้อตั๋ว มือของฝ่ายชายลูบไล้สะโพกของฝ่ายหญิง ทำให้เจ้าหล่อนตีมือเขาเบาๆ สีหน้าของเธอช่าง...ดูมีความสุขเหลือเกิน แถมจะความสนิทสนมขนาดนี้อีก...
“อยู่ไหนน่ะไอเฟล” เขาสะดุ้งเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น ตอนนี้กฤชพลกลับมาที่รถ และนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ในนั้น
“กลับก่อนนะบรีน่า ไว้พรุ่งนี้ผมจะเอาแผ่นเสียงไปให้ที่ออฟฟิศ”
ตอบแค่นั้นก็กดวางสาย และกดปิดเครื่องไปเลยเพราะไม่อยากติดต่อหรือคุยกับใครอีก
ใจของเขายังคงสั่นกับภาพที่เห็น
เอริน...บุรินทร์
คนรักและน้องชายของเขา