14 ไม่อยากเป็นของเล่นของใคร
ลงจากนัมซานทาวเวอร์ ก็พากันเดินไปยังสถานีรถไฟใต้ดินเพื่อจะกลับไปยังโรงแรมแต่ขณะที่กำลังเดินอยู่นลินภัสร์ก็หยุดเดินจนทำให้คนที่เดินตามมาทีหลังอย่างศรุตชนกับเธอเข้าอย่างจังเขารีบรวบเอวคอดของเธอมากอดไว้เพราะกลัวแรงปะทะของตนเองจะทำให้หญิงสาวล้มลงไป
“เป็นอะไรหรือเปล่ามายด์ทำไมจู่ๆ ก็หยุดเดิน”
“เราไปทางอื่นกันดีไหม”
“ทำไมล่ะทางนี้เธอบอกเองนี่ว่ามันใกล้สถานีรถไฟใต้ดินที่สุด”
“แต่มายด์อยากเดินเล่นบริเวณนี้ก่อนนี่คะ นะคะคุณศรุต”หญิงสาวมองหน้าเขาและส่งสายตาอ้อน ถึงแม้ศรุตไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงเปลี่ยนใจแต่ชายหนุ่มจับมือของเธอไว้แล้วยิ้มก่อนจะพูดขึ้นมา
“เอาล่ะทีนี้เธอจะพาฉันไปทางไหนฉันจะตามเธอไปทุกที่ก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณค่ะคุณศรุต”
นลินภัสร์พาเขาเดินเลี่ยงออกมาจากทางเดินหลัก แต่เพราะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้เธอเดินได้ไม่เร็วเท่าไหร่หญิงสาวพยายามก้มหน้าและเดินให้เร็วที่สุดแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทันใจเอาเสียเลย
“จะรีบไปไหนละมายด์”เสี่ยงทักทายทำให้หญิงสาวต้องหยุดเดิน
“อ้าวพี่วินมาเที่ยวที่นี่เหมือนกันเหรอคะ” เมื่อเลี่ยงไม่ได้หญิงสาวก็ยิ้มทักทายเขาไปตามมารยาท
“พี่มาดูงานกับบริษัทน่ะ แล้วก็เลยมาเที่ยวมายด์ล่ะมาทำงานหรือมาเที่ยว”
“มายด์มาทำงานค่ะ”
“เดี๋ยวนี้รับงานเที่ยวถึงต่างประเทศเลยเหรอท่าทางจะได้เงินเยอะเหมือนกันนะ” ชายหนุ่มพูดแล้วมองหญิงสาวด้วยสายตาดูถูกทำให้ศรุตที่มองอยู่ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่แต่เขาก็เลือกที่จะเงียบเพราะอยากจะเห็นว่านลินภัสร์จะจัดการเรื่องนี้ยังไง
“ค่ะ ได้เงินเยอะมากๆ ถ้าไม่มีอะไรแล้วมายด์ขอตัวก่อนนะคะ”
“ในเมื่อเธอรับงานของคนอื่นได้ ถ้าว่างพี่จะเรียกใช้บริการเธอก็แล้วกันนะ หวังว่าเธอจะรับงานจากพี่บ้าง”
“เสียใจค่ะ มายด์จะรับงานจากผู้ชายคนไหนก็ได้แต่ต้องไม่ใช่พี่วินขอตัวก่อนนะคะไม่ต้องรีบไปจริงๆ”
“เธอจะโก่งค่าตัวเหรอ”
“แล้วแต่จะคิดค่ะ เราไปกันเถอะค่ะคุณศรุต” หญิงสาวหันมาบอกชายหนุ่มที่ยืนทำหน้างงอยู่จากนั้นก็รีบพาเขาเดินออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด
ศรุตไม่ได้ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้นเขารอกำลังจะเดินกลับโรงแรมด้วยกัน
“มีอะไรจะเล่าให้ฉันฟังหรือเปล่าละมายด์”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“แต่ฉันว่ามันต้องมีอะไรนะ ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใครแล้วเรื่องที่เขาพูดกับเธอมันคือเรื่องอะไร ฉันฟังแล้วไม่เข้าใจเลย”
“คุณศรุตไม่ต้องรู้หรอกค่ะ ว่าเขาพูดว่าอะไรเพราะเราคงไม่ได้เจอกับเขาอีกแล้ว”
“แต่ถ้าเธอไม่เล่าให้ฉันฟัง ฉันว่าเธอเองนั่นแหละที่จะอึดอัดนะมายด์ ลองเล่าให้ฉันฟังสิว่าเขาเป็นใครแล้วทำไมเขาถึงพูดกับเธอแบบนั้น เราไปนั่งร้านเหล้าตรงนั้นกันไหม ดื่มไปด้วยคุยไปด้วยเผื่อมันจะทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น” เขาชี้ไปยังร้านเหล้าที่กางเต็นท์อยู่บริเวณริมทางซึ่งเห็นทั่วไปในกรุงโซล
“ก็ได้ค่ะมายด์ก็อยากจะเมาเหมือนกัน”
เมื่อมาถึงก็สั่งมักกอลลีเครื่องดื่มแบบดั้งเดิมของเกาหลีและกับแกล้มอีกสองสามอย่างจากนั้นนลินภัสร์ก็เริ่มเล่าเรื่องของตัวเองให้กับศรุตฟัง
“ผู้ชายคนเมื่อกี้เขาชื่อพี่วินค่ะ เขาเป็นแฟนเก่าของมายด์”
“แฟนเก่าเหรอ ฉันว่าเธอกับเขาคงเลิกกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ใช่ไหม”
“ค่ะ เขาเข้าใจผิดคิดว่ามายด์ไปทำงานเป็นเด็กนั่งดริ๊งค์และออกไปนอนกับแขก มายด์พยายามอธิบายให้เขาฟังแล้วแต่เขาก็ไม่เชื่อสุดท้ายเราก็เลยต้องเลิกกันค่ะ มายด์ขอโทษนะคะที่ดึงคุณเข้ามาเกี่ยวด้วย”
“ฉันไปเกี่ยวข้องยังไงล่ะ”
“ก็เขาคิดว่าที่มายด์มาเที่ยวกับคุณเพราะคุณจ้างมายด์ให้เป็นผู้หญิงของคุณยังไงล่ะคะ มายด์ขอโทษนะคะ” หญิงสาวอธิบายด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้เขาถูกมองไม่ดีไปด้วย
“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษเธอที่ทำให้เขาต้องเข้าใจผิด”
“คุณศรุตไม่ต้องสนใจเขาหรอกค่ะ เขาจะคิดยังไงมันก็เรื่องของเขามายด์กับเขาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันแล้ว”
“แบบนี้เธอไม่กลัวว่าเขาจะเอาเธอไปนินทาหรือไปบอกคนอื่นเหรอว่าเธอมาต่างประเทศกับผู้ชาย”
“มายด์ไม่สนใจหรอกค่ะ ใครเขาจะพูดหรือจะคิดยังไงมายด์รู้ดีว่าตัวเองทำอะไรอยู่ คุณศรุตเป็นเจ้านายและมายด์ตามเจ้านายมาทำงานต่างประเทศมันก็ไม่เห็นแปลกอะไรเลย”
เมื่อนั่งดื่มไปได้สักพักศรุตข้อสังเกตว่านลินภัสร์เริ่มจะเมานิดนิดเขาเลยพาเธอกลับมาที่ห้องระหว่างทางก็จับมือเอาไว้ตลอด
“เธอเคยคิดจะรับงานอย่างที่เขาบอกไหม” ศรุตถามเมื่อประตูห้องพักปิดดลง
“มายด์ยอมรับค่ะว่าเคยมีความคิดแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าทำ มายด์กลัวว่าสิ่งที่มายด์ทำมันจะทำให้คนที่มายด์รักต้องเสียใจและมายด์แองก็จะต้องเสียใจมากๆ ถ้าหากวันหนึ่งได้เจอผู้ชายดีๆ และเขารับไม่ได้กับสิ่งที่มายด์ทำในอดีต”
“ถ้าเธอไม่บอกเขาก็รู้”
“แต่มายด์ไม่อยากโกหกนี่คะ”
“แล้วถ้าผู้ชายคนนั้นเขาให้เงินเธอมากๆ เธอจะยอมไหม”
“สำหรับมายด์ตอนนี้คิดว่าตนเองยังไม่จนตรอกถึงขนาดนั้นค่ะ มายด์ยังพอมีเงินอยู่ ยังมีเบี้ยเลี้ยงจากบริษัทและถ้าเรียนจบก็จะได้ทำงาน ถึงแม้เงินเดือนมันจะน้อยแต่ก็ยังดีกว่าจะไปทำงานแบบนั้น มายด์ไม่ได้ดูถูกอาชีพของผู้หญิงเหล่านั้นนะคะ บางทีพวกเธออาจจะทำไปเพราะไม่มีทางเลือกแต่สำหรับมายด์ตอนนี้คิดว่าตัวเองยังมีทางเลือกอยู่ค่ะ”
“ฉันรู้ว่าเธอมีทางเลือกนะ แต่ฉันอยากแต่ฉันก็อยากจะเสนอทางเลือกอีกทางหนึ่งให้เธอไม่รู้ว่าเธอจะสนใจหรือเปล่า”
“ทางเลือกอะไรคะ”
“ก็ทางเลือกที่จะทำให้เธอไม่ต้องใช้หนี้ฉันไงล่ะ”
“มายด์รู้ว่าคุณกำลังจะพูดอะไร”
“ไหนลองบอกสิว่าเธอคิดว่าฉันกำลังจะพูดอะไรกับเธอ”
“คุณก็คงเสนอเงินให้มายด์เพื่อให้มายด์นอนกับคุณใช่ไหมล่ะ”
คำพูดของหญิงสาวทำให้ศรุตนิ่งเพราะมันเป็นสิ่งที่เขากำลังจะพูดกับเธอจริงๆ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นพูดยังไง เขารู้สึกพอใจในตัวของนลินภัสร์มากและอยากให้เธอมาเป็นผู้หญิงของเขาแต่จะให้เขาคบเธออย่างออกหน้าออกตาหรือคบเป็นแฟนมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการเพราะเขาไม่เคยคิดจะมีครอบครัวในตอนนี้ แต่ก็ยอมรับว่านลินภัสร์เป็นผู้หญิงที่เขาถูกใจมาก
“แล้วเธอมีคำตอบสำหรับเรื่องนี้ยังไงล่ะ”
“มายด์ขอปฏิเสธค่ะ ถึงแม้มายด์จะชอบคุณศรุตมาก แต่มายด์ก็ไม่อยากเอาตัวเข้าแลก มายด์ไม่อยากเป็นของเล่นของใครคะ”
“เธอบอกว่าเธอชอบฉันแล้วจะปฏิเสธทำไม”
“เพราะมายด์ไม่อยากทำตัวเป็นผู้หญิงไร้ค่าแบบนั้นไงคะ”
“ฉันไม่ได้มองเธอแบบนั้น”
“ถึงไม่จะเป็นหนี้คุณอยู่มากแต่มายด์ก็ไม่เอาตัวเข้าแลกหรอกค่ะ ถ้ามายด์จะนอนกับผู้ชายสักคน มายด์ก็จะนอนกับเขาเพราะอยากจะนอนกับเขาไม่ใช่อยากจะได้เงินของเขา”
“แล้วเธอเคยมีความคิดอยากจะนอนกับฉันบ้างหรือเปล่าล่ะมายด์”
“มายด์ไม่กล้าคิดอะไรแบบนั้นกับคุณศรุตหรอกค่ะ คุณศรุตเป็นเจ้านายเป็นเจ้าหนี้”
“เลิกมองฉันว่าเป็นเจ้านายและเป็นเจ้าหนี้ได้ไหม ฉันอยากให้มองว่าฉันคือผู้ชายคนหนึ่งที่อยากมีความสุขกับเธอแบบนั้นได้ไหมล่ะ เรื่องนี้มันจะไม่มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องมันเกิดจาก ความเต็มใจของเราทั้งสองคน”
ศรุตพูดขณะที่รวบเอวเธอไว้ด้วยอ้อมกอดแข็งแรงก้มใบหน้าลงมาใกล้จนหญิงสาวรู้สึกถึงลมหายใจที่รินรดอยู่บริเวณใบหน้า
“คุณอยากนอนกับมายด์จริงๆ เหรอคะ”
“จริงสิ”
“บอกได้ไหมว่าทำไมถึงอยากนอนกับมายด์”
“เพราะเธอเป็นผู้หญิงที่สวยเซ็กซี่ตรงสเปกฉันมากที่สุดยังไงล่ะ แล้วฉันเป็นผู้ชายในสเปกของเธอบ้างหรือเปล่า”
“แน่นอนค่ะคุณทั้งหล่อทั้งหุ่นดีแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนเห็นก็ต้องชอบกันทั้งนั้น”
“แล้วเธอจะกลัวอะไรถ้าหากเราจะมีความสุขด้วยกัน”