2/3 แอบรักทั้งที่รู้ว่าผิด
หญิงสาวจึงตัดสินใจที่จะปล่อยทุกอย่างให้มันเป็นไปตามที่อีกฝ่ายต้องการถึงแม้ว่าเธอจะรู้ว่าสิ่งที่ภีมเดชกำลังทำเป็นเพราะเขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอคือชญาดานั่นเอง
“เราจะมีลูกด้วยกันผมจะทำทุกอย่างผมรักคุณนะดา”
ทุกคำเรียกชื่อมันเป็นการย้ำเตือนให้เจ้าของร่างเล็กที่นอนกอดสามีของเจ้านายอยู่ได้รู้สึกตัวว่าเธอกำลังทำผิด เธอกำลังคิดไปเองชายหนุ่มกอดเธอเพียงเพราะเขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอคือใคร ถ้าเธอยังไม่พาตัวเองออกจากที่นั่นสุดท้ายเธอจะเป็นแค่เพียงอสรพิษที่หักหลังคิดจะแย่งสามีของเจ้านายเท่านั้นซึ่งคงเป็นการแย่งที่ไม่ประสบความสำเร็จแน่นอนในเมื่อหัวใจของอีกฝ่ายมีแต่ภรรยาอยู่ในหัวใจเท่านั้น
สาวน้อยตัดสินใจค่อย ๆ แกะมือหนาที่โอบกอดเธอไว้ เธอพาตัวเองกลับมายังห้องนอนเพราะตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงพระอาทิตย์ก็จะโผล่พ้นขอบฟ้าและตอนนี้ชญาดาก็ยังไม่กลับมาบ้านสำหรับไข่มุกเองเธอรู้ว่าตอนนี้เจ้านายของเธออยู่ที่ไหนอยู่กับใครแต่คนที่ไม่เคยรู้อะไรคือภีมเดชต่างหาก ชายหนุ่มคิดมาตลอดว่าสาเหตุที่ทำให้ชญาดาไม่ยอมรับรักเขาเป็นเพราะ ตัวเขาเองยังคงมีอะไรที่ไม่ถูกใจหญิงสาวแต่สำหรับสาวใช้ที่อยู่กับชญาดามาตั้งแต่เธอเกิดเธอรู้ดีว่าเจ้านายของเธอไม่มีหัวใจรักใครอีกแล้ว
“ได้ค่ะเดี๋ยวไข่มุกจะจัดการเรื่องเสื้อผ้าของคุณดาและจะดูแลคุณภีมให้ค่ะ”
ชญาดาส่งเสียงตามสายโทรศัพท์สั่งการให้ลูกน้องของเธอดูแลจัดการเรื่องเสื้อผ้าที่เธอต้องใช้ทำงานและให้ช่วยดูแลภีมเดชเพราะเธอเองตั้งใจว่าคงจะไม่กลับบ้านอีกสักพัก
“ฉันคงไม่กลับบ้านอีกสักพักนะเอาไว้ถ้าคุณภีมเดชยอมทำตามที่ฉันต้องการเมื่อไหร่ถึงเวลานั้นฉันก็คงกลับเองและไม่ต้องรายงานไปให้พ่อแม่ฉันรู้ด้วยล่ะไข่มุก”
ชญาดามักจะเลือกทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่เธอต้องการบีบสามีให้ทำในสิ่งที่เธอต้องการและสุดท้ายภีมเดชก็มักจะเป็นฝ่าย พ่ายแพ้ต่อภรรยาในนามเพราะหัวใจของเขามันคิดถึงเธอตลอดถึงแม้ว่าความจริงในทุกวันนี้เขาและเธอจะนอนแยกห้อง แต่อย่างน้อยภีมเดชก็ยังได้หลอกตัวเองเสมอว่าเธอกับเขาได้นอนด้วยกันมีแค่เพียงกำแพงเท่านั้นที่มากั้นกลาง
“คุณภีมจะไปไหนคะ”
ไข่มุกรีบเข้าไปถามสามีของเจ้านายทันทีถึงแม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาถึงบ่ายสองแล้วก็ตามแต่หญิงสาวคิดว่าในเมื่อภีมเดชไม่ได้ไปทำงานเขาก็ควรจะอยู่บ้านพักผ่อนไม่ควรจะออกไปแบบนี้เพราะเมื่อคืนสภาพของเขาดูแย่มาก
“ถ้าจำไม่ผิดเธอเป็นคนของชญาดานะไม่ใช่คนของฉัน ในเมื่อตอนนี้เจ้านายของเธอยังไม่กลับบ้านเลยแล้วทำไมฉันจะต้องอยู่ด้วย”
ไข่มุกได้แต่ก้มหน้าลงเธอยังไม่ค่อยชินกับคำพูดแบบนี้ของภีมเดชเพราะก่อนหน้าที่เธอจะได้เข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ชายหนุ่มมักจะพูดจาด้วยความอ่อนหวานเมตตาและฟังดูอบอุ่นแต่เมื่อเขากับเจ้านายของเธอแต่งงานกันทุกอย่างก็เปลี่ยนไปทันทีบ่อยครั้งที่ภีมเดชมักจะพูดจาดูถูกและใส่อารมณ์กับเธอเสมอเหมือนว่าเธอเป็นถังขยะที่คอยรองรับอารมณ์แทนเจ้านายของเธอเสียอย่างนั้น
“ฉันขอโทษค่ะแค่เป็นห่วงว่าเมื่อคืนนี้คุณเมามากก็เลยอยากให้พักผ่อนไม่ได้คิดที่จะระราบระล้วงเพราะรู้ตัวดีว่าฉันมาอยู่ที่นี่ในฐานะอะไร”
“ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอเสียหน่อย เอาอย่างนี้แล้วกันไว้เย็นกว่านี้ค่อยไปก็ได้ไปเตรียมข้าวกลางวันให้หน่อยนะตั้งแต่เช้ามายังไม่ได้กินอะไรเลยทำข้าวผัดไข่เหมือนที่เธอชอบทำกินที่บ้านนู้นก็ดี”
ไข่มุกยิ้มได้อีกครั้งไม่ใช่เพราะว่าอีกฝ่ายยอมไม่ออกจากบ้านแต่เป็นเพราะว่าภีมเดชยังคงจำข้าวผัดไข่ที่เธอเคยทำให้เขากินสมัยที่ชายหนุ่มมานั่งรอชญาดากลับจากบริษัทโดยที่ตอนนั้นทั้งบ้านมีเพียงแค่เธอกับเขาและมันก็ทำให้เธอรู้สึกหัวใจพองโตที่ผู้ชายตรงหน้าจดจำทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอได้
“อร่อยเหมือนเดิมเลยแต่ไม่เห็นเธอทำกินเลยนะหรือว่ามันเป็นสูตรเด็ดต้องนาน ๆ ทำครั้ง”
คนกินพูดไปกินไปจนคนทำยิ้มจนแก้มปลิด้วยความดีใจ ไข่มุกเป็นคนที่ทำกับข้าวอร่อยงานบ้านก็ทำได้อย่างเรียบร้อยเป็นเพราะว่าแม่บ้านที่ทำหน้าที่เลี้ยงเธอกับชญาดามาสอนให้เธอทำตั้งแต่เด็ก ๆ เพราะรู้ว่าอนาคตของเธอคงต้องอยู่รับใช้ครอบครัวนี้ไปอีกนานและตัวเธอเองก็รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำกับข้าว
“ฉันก็ทำอยู่บ่อย ๆ นะคะเพียงแต่คุณไม่ค่อยได้กลับบ้านมากินข้าวที่บ้าน”
“ก็จริงของเธอบางครั้งฉันก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าที่นี่เป็นบ้านหรือแค่ที่นอน”
บรรยากาศที่พูดคุยกันอย่างยิ้มแย้มมีความสุขแปรเปลี่ยนไปทันทีเมื่อภีมเดชกำลังคิดถึงภาพของชญาดาในความฝันของเขาที่มันไม่มีทางเป็นความจริง ตอนนี้บ้านที่เขาเคยคิดว่ามันจะต้องอบอุ่นและมีความสุขที่สุดเมื่อวันที่เขาได้แต่งงานและพาเจ้าสาวเข้ามาอยู่ด้วยกันแต่สุดท้ายมันกลับไม่มีอะไรเหมือนที่เขาวาดหวังเลยสักนิด
“คืนนี้ฉันกลับดึก เธอนอนไปเลยไม่ต้องคอยมาเปิดประตูให้”
สาวน้อยได้แต่ถอนหายใจมองภาพเจ้านายของเธอเดินไปจนลับตาด้วยความเป็นห่วงแต่อย่างที่เขาได้พูดกับเธอนั่นแหละว่าเธอมาอยู่ที่นี่ในฐานะเป็นคนของชญาดาไม่ใช่คนของเขา เธอจึงไม่มีสิทธิ์นอกจากเป็นห่วงอยู่ในใจเท่านั้น