[1/2]
[1/2]
ใช้เวลาไม่นานนักทั้งสองก็เดินเข้ามาถึงบริษัท ด้วยระยะทางจากคอนโดของชายหนุ่มที่เป็นถึงรองประธานบริษัทนั้น อยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก
แต่กระนั้นก็ยังไม่อยากตื่นขึ้นมาทำงานทั้งที่ตัวเองอยู่ใกล้แท้ๆ
เข้ามาด้านในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ตอนนี้มีเหล่าผู้บริหารระดับสูงนั่งรอเตรียมพร้อมที่จะประชุมกันหมดแล้ว โดยที่มีภัทรกาฬตำแหน่งประธานบริษัทยืนนำเสนอโปรเจคอยู่ได้สักระยะหนึ่งแล้ว
“มาได้แล้วหรอ ไม่รอให้เค้าประชุมกันเสร็จก่อนเลยล่ะค่อยมา?”
คนที่อยู่ในห้องประชุมเมื่อเห็นคนมาใหม่ทั้งสองเดินเข้ามาก็ต่างให้ความสนใจ รวมทั้งท่านประธานคนใหม่ไฟแรงที่ยืนถือรีโมตคุมสไลด์งานอยู่หน้าห้องนี้ ตำหนิคนทั้งสองเบาๆ แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง
ทั้งที่คนอื่นเขาประชุมกันมาได้เกือบครึ่งชั่วโมงกันอยู่แล้ว แต่รองประธานและเลขาฯ เพิ่งจะมา
“อ้าว ....ได้หรอครับ? งั้นผมจะได้ไปนอนต่อ” ณัฐกานต์ก็เป็นแบบนี้ จังหวะไหนที่กวนเบื้องล่างคนอื่นได้เขาก็จะทำ
“คุณ!” เลขาฯ สาวหันมาทำหน้าดุใส่เขาเบาๆ
“อย่ามากวนประสาทฉัน ไม่เห็นหรอทุกคนนั่งรอแกอยู่”
“โว้ะ! ….เฮียก็”
“นั่งลงก่อนเถอะคุณ จะได้รีบๆ เสร็จกันซักที” ญารินดึงมือเจ้านายหนุ่มให้นั่งลงเก้าอี้ในที่ประชุม
“เออๆ รู้แล้วน่า”
“เอิ่ม ต้องขอโทษทีนะคะท่านประธาน เราเริ่มประชุมกันเลยดีกว่าค่ะ” ผู้บริหารหญิงอีกท่านหนึ่งในห้องประชุม เอ่ยตัดบทก่อนที่การประชุมจะล่าช้ามากไปกว่านี้
“ครับ”
การประชุมยังคงดำเนินต่อไปจนจบก่อนถึงช่วงเที่ยงของวัน ณัฐกานต์และญารินเดินออกมาพร้อมกันจากห้องประชุม
แฟ้มเอกสารต่างๆ ที่ประธานบริษัทมอบให้เขาจัดการ ถูกส่งให้หญิงสาวเป็นคนถือเอาไว้จนแทบจะล่วงกองหล่นบนพื้นอยู่แล้ว
เนื่องจากมีหลายแฟ้มงานที่ทั้งสองต้องจัดการ ทว่าเอาจริงๆ งานทั้งหมดนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเลขาฯ คนนี้ที่เป็นคนทำอีกตามเคย
ส่วนเขานั้นก็คงนั่งๆ นอนๆ รอเวลาเลิกงานของตัวเองไป
“คีย์การ์ดคอนโดฉันอยู่ไหน?”
ขณะเดินมาถึงหน้าห้องทำงานของตนเองแล้ว ณัฐกานต์ก็หันหน้ามาทวงของคืนจากญารินเลย
“คะ?” หญิงสาวทำหน้างง พลางวางแฟ้มไว้ที่โต๊ะทำงานของตนเองซึ่งอยู่บริเวณหน้าห้องของเจ้านายหนุ่ม
“คีย์การ์ดที่พี่ชายฉันให้เธอไว้ เอาคืนฉันมา” มือหนาแบออกมาตรงหน้าร่างบางเพื่อที่จะรับคีย์การ์ดของตนคืน
“ไม่ให้ค่ะ ฉันมีหน้าที่ต้องไปปลุกคุณทุกเช้า จนกว่าคุณจะเองมาทำงานตรงเวลาเองได้”
“นี่ถามหน่อยเถอะ พ่อกับพี่ชายฉันจ้างเธอเท่าไหร่กัน ห้ะ? ฉันจ้างเธอมากกว่าพวกเขาเลย ขอแค่เลิกยุ่งวุ่นวายกับฉันซักที”
“คุณไม่มีวันรู้หรอก เอาเป็นว่าคุณมีหน้าที่ทำตัวให้ดีขึ้น ส่วนฉันก็มีหน้าที่คอยดูแลความประพฤติของคุณแค่นั้นก็พอ”
“นี่! ตกลงใครเป็นเจ้านายของเธอกันแน่ห้ะ?” ณัฐกานต์ชักสีหน้าใส่
ไม่ใช่ว่าญารินจะชอบงานแบบนี้นักหรอก ทว่าการได้มาซึ่งงานแบบนี้กับผลตอบแทนที่นายจ้างทั้งสองช่วยกันเสนอราคามามันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มอีก
ภาระที่เธอแบกรับไว้ก็ยังมีอยู่หากไม่มีเงินก้อนใหญ่ที่รับมาจากภัทรกาฬแล้ว เธอก็คงไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาใช้เป็นจุนเจือครอบครัวตนเอง
ทั้งค่าเทอมน้องและค่านมหลานที่เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลกได้ไม่นาน เดิมที 'นลิน' พี่สาวของเธอทำงานที่นี่เป็นเลขาฯ ของท่านรองประธานคนก่อน
ทว่าพอมีการเปลี่ยนแปลงระบบของบริษัทใหม่ทั้งหมดเธอเลยได้จับพลัดจับผลูมาทำงานที่นี่แทน
อีกทั้งพี่สาวของเธอเองก็ใกล้จะคลอดแล้ว จึงเป็นจังหวะที่ทำให้เธอได้มีโอกาสเข้ามาทำงานแทนขณะที่ตอนนั้นเธอเองก็เพิ่งถูกพักงานจากการเดินแบบเหมือนกัน
“บริษัทจ่ายเงินให้ฉัน ถึงแม้คุณว่าคุณจะเป็นเจ้านายก็ตาม”
โดยนิสัยส่วนตัวของเธอเองก็เป็นคนไม่ยอมคนเหมือนกัน อะไรที่เถียงได้เธอก็เถียง บอกเลยว่าไม่เคยกลัว
และเมื่อมาเจอเข้ากับเจ้านายนิสัยเสียอย่างณัฐกานต์แล้ว เธอเองก็จะไม่เกรงใจเขาเหมือนกัน เรียกได้ว่าพี่ชายของเขาเลือกคนมาคุมได้เหมาะสมเลยทีเดียว
“แล้วไอ้บริษัทเฮ็งซวยนี่มันก็เป็นของฉันเหมือนกันไง ก็เท่ากับว่าฉันเป็นเจ้านายของเธอ จำเอาไว้ ยัย.....”
“ยัยอะไร? ด่ามาสิ” ญารินยืนถือแฟ้มที่วางไว้ขึ้นมาอีกครั้ง ทำท่าเตรียมจะฟาดเข้าตัวของเจ้านายหากพูดจาไม่เข้าหูเธอ
“ยัยนมสวย…..”
คนพูดมองก้มหน้าต่ำลงจากใบหน้าสวยลงลึกจนถึงร่องอกอิ่มที่เด่นสะดุดอยู่ตรงหน้า
หญิงสาวใส่เสื้อเชิ้ตทำงานปกติแบบคนทั่วไป ทว่าความอวบอิ่มนั้นแทบจะล้มทะลักออกมา
เนื้อเนินโผล่ปริ้นออกมาจากบริเวณช่องติดกระดุมเสื้อเผยให้เห็นบราสีดำเข้มนิดๆ จากข้างในเสื้อ จนคนที่มองอยู่แอบลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ
ปึ่กก!!
จากนั้นแฟ้มเอกสารเล่มหนาก็ถูกฟาดลงแขนแกร่งอย่างจัง จนทำให้ชายหนุ่มเซไปอีกทางเล็กน้อย
“โอ้ย!! อีกแล้วนะเธอเป็นบ้าอะไรชอบใช้ความรุนแรงมากนักหรอ”
“ไอ้....!! ไอ้เจ้านายลามก!” ญารินหน้าขึ้นสีแดงก่ำ เพราะกำลังถูกมองส่วนสำคัญของตนเองอยู่
ถึงแม้การเป็นนางแบบที่ผ่านมาของเธอจะมีบ่อยครั้งที่แก้ผ้าเปลี่ยนชุดหลังเวทีไปมากับเพื่อนร่วมงาน ทว่าในนั้นก็มีแต่ผู้หญิงด้วยกันและไม่มีใครมาสนใจมองใคร เหมือนอย่างที่เจ้านายของเธอทำอยู่ตอนนี้
“พูดความจริงก็หาว่าลามก นี่กำลังชมหรอกนะ”
ณัฐกานต์ก็พูดไปตามสิ่งที่ตนเองคิดมาตลอด นี่ถ้าไม่ติดว่าไม่ชอบขี้หน้าเธอนะ ....ก็คงจะล่อขึ้นเตียงไปนานแล้ว ‘เหอะ! คนอะไรดุชะมัด’
ปึ่กกๆๆ
“โอ้ยยๆๆ .... พอแล้วว”
“มองอยู่ได้ สมน้ำหน้า!” ญารินยังคงถือแฟ้มตีเจ้านายไม่หยุด โชคดีที่ตรงนี้ไม่มีพนักงานคนอื่น
เพราะเป็นชั้นผู้บริหารระดับสูงจึงไม่เป็นปัญหาโดนนินทาว่าร้าย หากเห็นการกระทำระหว่างเจ้านายกับลูกน้องอย่างสองคนนี้
ทว่าก็คงหนีไม่พ้นสายตาของท่านประธานบริษัทเดอะวิลลิงตันคนนี้ไปได้หรอก
“นี่แกเล่นอะไรกันน่ะ? ห้ะ!? เอะอะเสียงดังไปจนถึงข้างในห้องฉัน”
ภัทรกาฬเดินมาหวังจะเข้าไปในห้องทำงานข้างๆ กัน ทว่าสายตาก็เหลือบมาเจอสองคนที่กำลังยืนหยอกล้อกันอยู่เหมือนกับเด็กไม่โตอย่างนั้นเลย
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” ญารินตกใจเมื่อเห็นว่าคนมาใหม่คือใคร พลางวางแฟ้มเก็บไว้ที่โต๊ะอย่างเดิม
“ก็เพราะเฮียเลยไง ทำไมต้องหาคนมาคุมผมแบบนี้ด้วย โตแล้วป้ะวะ? ไม่ใช่เด็กๆ” ณัฐกานต์เงยหน้าขึ้นมองพี่ชาย มาถึงก็ดี.... เขาจะได้บ่นใส่บ้าง
“ถ้าแกดีขึ้นกว่านี้แล้วค่อยมาคุยกัน”
ภัทรกาฬไหวไหล่ไม่สนใจกับคำพูดของอีกคน และเดินเข้าไปในห้องทำงานของตนเองเลย
“เฮียจะทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ! โถ่โว้ยย!! เพราะเธอนั่นแหละ”
ส่วนอีกคนที่ยืนโวยวายอยู่นั่น ก็ทำอะไรไม่ได้เลยหันมาชักสีหน้าดุใส่เลขาฯ สาวสวยของตนเอง