บท
ตั้งค่า

บทที่ 24 ไทเฮาหรือไท่เฟย - 2

“เป็นไปได้มิใช่หรือเพคะ หากผู้คนคิดว่าองค์หญิงแปดชื่นชอบเครื่องประดับเพราะหลังจากได้เครื่องประดับจากฉีเฟยแล้วก็หายป่วย ดังนั้นแล้วหากชื่นชอบเครื่องประดับก็ต้องชื่นชอบเสื้อผ้าแพรพรรณหรูหรา หากเป็นดรุณีชอบแต่งเนื้อแต่งตัวมีหรือที่จะไม่ดูแลร่างกายตนเอง ที่สำคัญคือในเมื่อรักสวยรักงามจะไม่ชื่นชอบการอวดโฉมโนมพรรณของตนเองได้อย่างไรเพคะ”

เซียวไทเฟยฟังแล้วพยักหน้าเห็นด้วยกับข้อสงสัยนั้นของคนสนิท “ที่ผ่านมาข้าได้ยินผ่านหูมาบ้างว่านางชอบเก็บตัว แต่ก็ไม่เคยสงสัยเรื่องพวกนี้เช่นกัน” เพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของฮ่องเต้ เซียวไทเฮาจึงไม่เคยก้าวก่ายใดๆ ยกเว้นเรื่องสำคัญบางเรื่องเท่านั้น

แต่หากเป็นเช่นนี้...มิใช่ว่านี้เป็นเรื่องไม่ถูกต้องหรอกหรือ?

“หงมามา เจ้าส่งคนไปตามฮองเฮามาพบข้าหน่อย หลายปีที่ไม่อยู่ในวังหลวงรู้สึกคิดถึงนางยิ่งนัก”

“เพคะไทเฮา”

ตำหนักฉีเฟย

หลังจากที่ส่งองค์หญิงแปดกลับตำหนักเล็กแล้วอู๋กงกงก็ตรงดิ่งมายังตำหนักของผู้เป็นนายแล้วก็รีบรายงานเรื่องที่องค์แปดออกจากตำหนักเล็กโดยพลการทันที ฉีเฟยชักสีหน้าใส่ขันทีประจำตำหนักทันทีที่ได้ฟังรายงาน แต่ไหนแต่ไรมาอู๋กงกงผู้นี้ทำงานดีรู้หน้าที่ตัวเองมาโดยตลอด แต่ทว่าครั้งนี้อีกฝ่ายกลับพลาดพลั้งเสียได้

“กระหม่อมไม่แน่ใจเลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมองเห็นสตรีผู้นั้นเพียงแค่แผ่นหลังไกลๆ แต่ดูจากชุดแล้วคาดเดาได้ว่าน่าจะเป็นนางกำนัลระดับสูงพ่ะย่ะค่ะ” อู๋กงกงกล่าวอย่างรู้สึกผิด เขาไม่แน่ใจเลยว่านางกำนัลที่เขามองเห็นเพียงแผ่นหลังนั้น ก่อนหน้านี้นางได้พูดคุยกับองค์หญิงแปดหรือไม่ สังเกตจากรูปร่างแล้ว นางกำนัลผู้นั้นหากมิใช่หงมามาแห่งตำหนักฮุ่ยหมิงของไทเฮาก็น่าจะเป็นเฉามามาแห่งตำหนักฮวนเหอของไท่เฟย

“สรุปแล้วเจ้าเห็นหน้าชัดเจนหรือไม่ว่าเป็นผู้ใด หงมามาหรือเฉามามา?” ฉีฉู่หลันเอ่ยถามเสียงเขียว

“กระหม่อม...กระหม่อมขอประทานอภัยพ่ะย่ะค่ะ” อู๋กงกงคุกเข่าก้มหน้าหน้าผากจรดพื้น คราวนี้นับเป็นเรื่องใหญ่แล้วจริงๆ ก่อนหน้านี้มีไม่กี่คนที่เคยเห็นโฉมหน้าแท้จริงขององค์หญิงแปด ด้วยเพราะฉีเฟยนั้นไม่ต้องการให้องค์หญิงแปดมีตัวตนในสายพระเนตรของฝ่าบาท จึงจงใจกักขังองค์หญิงไว้แต่ภายในตำหนักเล็กหลังเก่าด้วยข้ออ้างและคำขู่ต่างๆ นานา

ทว่าบัดนี้เด็กสาวผู้นั้นใจกล้าถึงขนาดก้าวเท้าออกมาจากที่นั่นแล้ว ช่างเป็นเรื่องยากจะคาดการณ์ถึงจริงๆ

“ข้าผิดหวังในตัวเจ้านักอู๋กงกง” ฉีเฟยว่าก่อนจะก้มหน้าลงอย่างคนกำลังใช้ความคิด หลายปีที่ผ่านมาเฝ้าปกปิดตัวตนของซ่งชิงเยียนก็เพราะเกรงว่าวันหนึ่งเด็กน้อยผู้นั้นจะเติบโตขึ้นมาแล้วมีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่

เพราะเกลียดชังมารดาของเด็กผู้นั้นเป็นทุนเดิม เมื่อได้สิทธิ์ในการเลี้ยงดูมาอยู่ในมือฉีฉู่หลันจึงไม่เคยเลยที่จะมอบทุกอย่างให้ซ่งชิงเยียนตามฐานะชาติกำเนิด นางใช้ข้ออ้างต่างๆ เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ผู้คนในวังเกลียดชังเด็กคนนั้น...สายเลือดของหลี่อวี้หลานไม่สมควรอยู่ดีกินดีหรือมีชีวิตที่ดี

อันที่จริงนางอยากให้เด็กคนตายๆ ไปซะด้วยซ้ำ ทว่าฮ่องเต้ก็ทรงตรัสหาเด็กนั่นอยู่อย่างน้อยเดือนละหนสองหน หากไม่เพราะคำโป้ปดของนางป่านนี้นางเด็กซ่งชิงเยียนนั่นคงได้เป็นพระธิดาองค์โปรดของฮ่องเต้ไปแล้ว

ซึ่งนางยอมไม่ได้แม้แต่น้อย!

นางจะยอมให้ลูกของสตรีที่นางเกลียดเข้ากระดูกดำได้ดีไปกว่าลูกของนางได้อย่างไร!

“ปล่อยข่าวว่านางป่วยไปซะ เพราะต้องลมเย็นหนักจึงล้มป่วยไปไหนไม่ได้” ฉีฉู่หลันเอ่ยสั่ง ถึงอย่างไรกับเด็กคนนี้ฮองเฮาก็ไม่อาจทรงยื่นมาเกี่ยวข้องได้อยู่แล้วเพราะฮ่องเต้เคยรับสั่งไว้ว่าเรื่องที่เกี่ยวข้องกับซ่งชิงเยียนให้นางเป็นผู้จัดการแต่งเพียงผู้เดียว

“แล้วถ้ามีคนมาหาที่ตำหนักล่ะพ่ะย่ะค่ะ”

“เจ้าถามเหมือนไม่เคยทำเลยนะอู๋กงกง ทำไม? พอเป็นไทเฮาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเช่นหรือ เจ้าลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าไท่เฟยต่างหากที่เป็นพระมารดาของฮ่องเต้”

“กระหม่อมทราบแล้วพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะไปทำตามรับสั่งเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ!” เอ่ยจบก็กุลีกุจอออกจากห้องไป

ฉีฉู่หลันมองตามด้วยความหงุดหงิด หากว่าฮ่องเต้ทรงเลิกถามหาเด็กคนนั้นสักสามสี่วันก็คงจะเป็นการดี นางจะได้จัดการอีกฝ่ายไปซะให้พ้นหูพ้นตา

แต่มิใช่ว่าอีกไม่นานนังเด็กคนนั้นก็จะถึงยามออกเรือนแล้วหรอกหรือ?

พระสนมคนงามเผยรอยยิ้มร้ายกาจ...กับบุตรที่มารดาตายจากคนหนึ่ง การได้แต่งงานออกไปไกลถึงแดนเหนือก็นับเป็นวาสนาของนางแล้วมิใช่หรืออย่างไร?

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel